ไซ่ง่อนหย่ายฟง - สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่า เวียดนามจะสามารถส่งออกข้าวได้ 6.5-7 ล้านตัน ในปี 2555 แต่มีอุปสรรครออยู่ข้างหน้าเช่นกัน
นายฝ่าม วัน บ่าย รองประธานสมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวในการประชุมประเมินผลสิ้นปีเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า ภาคส่งออกข้าวของประเทศเผชิญกับภาวะไม่พึงประสงค์ เช่น ความต้องการลดลงในประเทศนำเข้าข้าวหลักของเวียดนาม และราคาข้าวที่ตกลง ซึ่งนำไปสู่ความยากลำบากในการแข่งขันกับผู้ส่งออกรายอื่นๆ
อินเดียจะมุ่งเน้นไปที่การลดการสะสมผลิตผลทางการเกษตรที่มีอยู่ราว 60 ล้านตัน โดยเป็นข้าวสารถึง 26.3 ล้านตัน ขณะที่พม่าจะเพิ่มการส่งออกข้าวในปีนี้ ส่วนไทยมีข้าวสะสมในคลังมากช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาส่งออกแข่งขันได้ลดลง และเป็นไปได้ที่ไทยจะเพิ่มการส่งออกข้าวในปีนี้
นายเจื่อง แทง ฟง ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวว่า การส่งออกข้าวไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย คิดเป็น 67% ของการส่งออกทั้งหมด และเป็นประเทศในทวีปแอฟริการาว 23%
อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งตลาดแอฟริกาของเวียดนาม 20% เป็นข้าวคุณภาพต่ำ หรือข้าวผสมข้าวหัก 15-25% ซึ่งเวียดนามอาจเสียส่วนแบ่งตลาดนี้ แต่ตลาดข้าวคุณภาพสูงที่มี 3% อาจยังคงอยู่เช่นเดิม
“ตามปกติ ในช่วงเวลานี้ของปี เวียดนามมักจะได้ลงนามทำสัญญาส่งออกข้าวปริมาณมากกับอินโดนีเซีย และบังกลาเทศ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีคำสั่งซื้อจากทั้งสองประเทศ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ผู้ส่งออกข้าวท้องถิ่นลงนามสัญญาขายข้าวไปแล้ว 1.8 ล้านตัน แต่ในไตรมาสแรกของปี 2555 มีสัญญาซื้อข้าวเพียง 1.1 ล้านตัน” นายฟง กล่าว
เวียดนามจะเผชิญกับปัญหาหลายประการในการส่งออกข้าวช่วงครึ่้งแรกของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 หากเวียดนามไม่สามารถรักษาสัญญาซื้อขายข้าวกับฟิลิปปินส์ไว้ได้ และเตือนว่า การบริโภคจะลดต่ำลงหากปริมาณข้าวคุณภาพต่ำยังคงเพิ่มขึ้นในปีนี้
นายเล เหวียด หาย ผู้อำนวยการบริษัท Mekong Export-Import Co ในเมืองเกิ่นเธอกล่าวว่า การค้าขายข้าวในช่วงเวลานี้เงียบเหงาส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในประเทศ นายหายได้เสนอให้มีการกักตุนข้าวโดยเร็วเพื่อป้องกันราคาข้าวกระทบเกษตรกร
นายฟัม ท้าย บิ่ง ผู้อำนวยการบริษัท Trung An Co กล่าวว่า เกษตรกรของประเทศไม่ได้รับประโยชน์จากราคาข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นในปีก่อน จึงควรที่จะมีการแทรกแซงจากรัฐเมื่อราคาข้าวตกลง และการแข่งขันระหว่างบริษัทส่งออกไม่นำมาซึ่งผลประโยชน์ แต่กลับกดราคาส่งออกและราคาในประเทศแทน
นายเหวียน แทง เบียน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม กล่าวว่ากระทรวงจะหาหนทางในการควบคุมการส่งออกข้าวและบรรเทาผลกระทบต่อตลาดในประเทศและเกษตรกร
ส่วนนายฟงกล่าวว่า สมาคมอาหารเวียดนามจะรับซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อสำรองชั่วคราว หากราคาข้าวในประเทศตกลง และทาง VFA จะเรียกร้องให้บริษัทที่เป็นสมาชิก VFA ซื้อข้าวเปลือกในราคาสูงกว่า 5,000 ด่ง ต่อ กก.หลังกระทรวงการคลัง ประเมินว่า ราคาข้าวเปลือกจะอยู่ที่ 4,400 ด่ง ต่อ กก.ซึ่งเกษตรกรจะสามารถทำกำไรได้ราว 30%
เวียดนามส่งออกข้าวในปี 2554 ทั้งหมด 7.1 ล้านตัน และทำรายได้เข้าประเทศราว 3,500 ล้านดอลลาร์