xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามเฮแล้วเฮอีก นโยบายขายฝันข้าวไทยเกวียนละ 15,000

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เหนื่อยนักก็พักก่อน -- ภาพวันที่ 22 มิ.ย.2554 ชาวนาหยุดพักดื่มน้ำกันระหว่างเก็บเกี่ยวข้าวในท้องนาที่กว้างไกลสุดตาในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากกรุงฮานอยลงไปทางใต้ราว 20 กม. ปีนี้ไต้ฝุ่นไม่ได้ทำให้นาข้าวลุ่มแม่น้ำแดงเสียหาย ทำให้ส่งออกข้าวในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงทางใต้ ได้อย่างสะดวกใจไม่ห่วงเรื่องการขาดแคลน และ ต้องขอขอบคุณนโยบายข้าวของรัฐบาลไทยชุดใหม่ ที่ทำให้ชาวนาเวียดนามขายข้าวได้ราคาดีขึ้น และประเทศส่งออกได้มากขึ้นอย่างเป็นประวัติกาล. -- REUTERS/Kham. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นโยบายประกันราคาข้าวเกวียนละ 15,000 บาท (500 ดอลลาร์) ของรัฐบาลไทยชุดใหม่ กำลังส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อธุรกิจส่งออกข้าว ทำให้เกิด “การขาดแคลนเทียมๆ” ขึ้นมาอีกด้วย และกำลังทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกถีบตัวขึ้นสูง สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ข้าวเวียดนามมีทั้งโอกาส และการท้าทายใหม่ๆ สมาคมอาหารเวียดนามกล่าวในสัปดาห์นี้

นโยบายของไทยทำให้เวียดนามสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 4.62 ล้านตัน ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ รวมเป็นมูลค่า 2,180 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ เพิ่มขึ้น 16.72% ในเชิงปริมาณ และ 26.0% ทางด้านมูลค่า ระยะเดียวกันนี้ เวียดนามได้เซ็นสัญญาจำหน่ายไปแล้ว 6.18 ล้านตัน เตรียมส่งมอบในเดือนข้างหน้า

“ถ้าหากรัฐบาลชุดใหม่ของไทยรักษาคำมั่นสัญญา (ที่ใช้หาเสียง) ราคาส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 850 ดอลลาร์ต่อตัน สำหรับข้าวขาว และ 1,400 ดอลลาร์ต่อตันสำหรับข้าวหอมมะลิ” นายหวี่งมีงเหว (Huynh Minh Hue) ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) กล่าวระหว่างการประชุมผู้ส่งออกที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่นครโฮจิมินห์

นโยบายของไทยกำลังจะทำเกิดรูปการสำคัญเป็น 2 ประการ คือ ผู้ส่งออกของไทยยอมรับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ยินยอมรับซื้อข้าวตามราคาประกัน แต่ขณะเดียวกัน ไทยจะไม่สามารถขายข้าวได้ และทำให้อุปทานในตลาดโลกลดลง ทั้งสองรูปการนี้จะทำให้ข้าวมีราคาแพงขึ้น หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานความเห็นของ VietFood

แต่ผู้ส่งออกหลายรายก็ลงความเห็นว่า ไทยคงจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน และจะไม่ทำให้เกิดสถานการณ์ข้าวยากหมากแพงขึ้นเหมือนเช่นเมื่อปี 2551 ซึ่งราคาข้าวพุ่งขึ้นสูงตันละ 1,000 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลในตลาดโลก

สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความท้ายทายขึ้นมาสำหรับเวียดนาม กล่าวคือ ในขณะที่สามารถขยายตลาดได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ภายในประเทศก็จะต้องเผชิญกับราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน และอาจจะเป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งเดือนที่แล้วพุ่งขึ้นสูงกว่า 22% เทียบปีต่อปี
<bR><FONT color=#000033>ชาวนาที่หมู่บ้านหง็อกหนือ (Ngoc Nu) ห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ราว 20 กม. กำลังนวดข้าวด้วยเครื่องจักร เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2554 ปีนี้รูปการดีทุกอย่าง นโยบายข้าวประกันราคา 15,000 ต่อเกวียน (ตัน) ทำให้ข้าวไทยราคาสูงขึ้นในตลาดโลก ลูกค้าแห่เข้าหาข้าวเวียดนามแบบตามติด ปีนี้ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซียและบังกาเทศ สั่งซื้อถึง 2 ระลอก. --  REUTERS/Kham. </b>
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 10 มิ.ย.2554 ชาวนาที่หมู่บ้านหง็อกหนือ (Ngoc Nu) ห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ราว 20 กม. ช่วยกันบรรจุข้าวลงกระสอบเพื่อนำกลับเข้าหมู่บ้าน ปีนี้ฟ้าฝนเป็นใจ ทำนาได้มากขึ้น รอดพ้นจากพายุในฤดูเก็บเกี่ยว ประเทศขายข้าวได้มากขึ้น ราคาก็ดีขึ้น ต้องขอบคุณนโยบายประกันราคา 15,000 ต่อเกวียน (ตัน) ของรัฐบาลไทยชุดใหม่ ที่ทำให้ชาวเวียดนามได้รับอานิสงส์. -- REUTERS/Kham. </b>
นอกจากนั้น การส่งออกที่มีปริมาณมากอย่างเป็นประวัติการณ์เช่นนี้ ยังจะต้องทำให้ระมัดระวังความสมดุลกับปริมาณที่สต๊อกไว้สำหรับบริโภคภายในอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ประธานของ VietFood กล่าว

คาดว่า อุปสงค์ในตลาดโลกยังจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 และ ในบางตลาดอาจจะมีความต้องการมากเป็นพิเศษ เช่น อินโดนีเซียกำลังจะนำเข้าข้าวเวียดนามอีกในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ฟิลิปปินส์ก็กำลังจะซื้ออีกลอตใหญ่เพื่อทดแทนข้าวในสตอกที่ลดลง หลังจากไต้ฝุ่น 2-3 ลูกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นาข้าวเสียหายรุนแรงและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยลง

นอกจากนั้น ทั้งมาเลเซียและบังกลาเทศ ก็มีแผนที่นำเข้าข่าวจากเวียดนามอีกระลอกหนึ่งปลายปีนี้เช่นกัน นายมีงเหว กล่าว

เวียดนามจะต้องส่งออกข้าวอีกราว 2.1 ล้านตัน ในไตรมาสที่ 3 ขณะนี้ กับอีก 1-1.3 ล้านตันในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณส่งออกปีนี้สูงถึง 7 หรือ 7.3 ล้านตัน มากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ 20 ปีแห่งการส่งออกข้าว

แต่ปัญหาสำคัญคืออุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีข้าวเหลือในสตอกเพียงล้านตันเศษๆ เนื่องจากผู้ส่งออกยังขยาด เกรงว่านโยบายข้าวของไทยจะทำให้เกิดความผันผวนทางด้านนโยบาย เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวในเวียดนามพุ่งสูงขึ้นมาก การเก็บสตอกปริมาณมากๆ ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงสูงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม สมาคมอาหารเวียดนามแนะนำว่า ผู้ส่งออกไม่ควรรีบเซ็นสัญญาซื้อขาย จนกว่าจะมีข้าวอยู่ในมืออย่างเพียงพอแล้วเท่านั้น เตื่อยแจ๋กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น