ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นโยบายประกันราคาข้าวเกวียนละ 15,000 บาท (500 ดอลลาร์) ของรัฐบาลไทยชุดใหม่ กำลังส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อธุรกิจส่งออกข้าว ทำให้เกิด “การขาดแคลนเทียมๆ” ขึ้นมาอีกด้วย และกำลังทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกถีบตัวขึ้นสูง สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ข้าวเวียดนามมีทั้งโอกาส และการท้าทายใหม่ๆ สมาคมอาหารเวียดนามกล่าวในสัปดาห์นี้
นโยบายของไทยทำให้เวียดนามสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 4.62 ล้านตัน ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ รวมเป็นมูลค่า 2,180 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ เพิ่มขึ้น 16.72% ในเชิงปริมาณ และ 26.0% ทางด้านมูลค่า ระยะเดียวกันนี้ เวียดนามได้เซ็นสัญญาจำหน่ายไปแล้ว 6.18 ล้านตัน เตรียมส่งมอบในเดือนข้างหน้า
“ถ้าหากรัฐบาลชุดใหม่ของไทยรักษาคำมั่นสัญญา (ที่ใช้หาเสียง) ราคาส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 850 ดอลลาร์ต่อตัน สำหรับข้าวขาว และ 1,400 ดอลลาร์ต่อตันสำหรับข้าวหอมมะลิ” นายหวี่งมีงเหว (Huynh Minh Hue) ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (Vietnam Food Association) กล่าวระหว่างการประชุมผู้ส่งออกที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่นครโฮจิมินห์
นโยบายของไทยกำลังจะทำเกิดรูปการสำคัญเป็น 2 ประการ คือ ผู้ส่งออกของไทยยอมรับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ยินยอมรับซื้อข้าวตามราคาประกัน แต่ขณะเดียวกัน ไทยจะไม่สามารถขายข้าวได้ และทำให้อุปทานในตลาดโลกลดลง ทั้งสองรูปการนี้จะทำให้ข้าวมีราคาแพงขึ้น หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานความเห็นของ VietFood
แต่ผู้ส่งออกหลายรายก็ลงความเห็นว่า ไทยคงจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน และจะไม่ทำให้เกิดสถานการณ์ข้าวยากหมากแพงขึ้นเหมือนเช่นเมื่อปี 2551 ซึ่งราคาข้าวพุ่งขึ้นสูงตันละ 1,000 ดอลลาร์ จากความวิตกกังวลในตลาดโลก
สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความท้ายทายขึ้นมาสำหรับเวียดนาม กล่าวคือ ในขณะที่สามารถขยายตลาดได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ภายในประเทศก็จะต้องเผชิญกับราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน และอาจจะเป็นตัวการสำคัญในการกระตุ้นเงินเฟ้อในประเทศ ซึ่งเดือนที่แล้วพุ่งขึ้นสูงกว่า 22% เทียบปีต่อปี
นอกจากนั้น การส่งออกที่มีปริมาณมากอย่างเป็นประวัติการณ์เช่นนี้ ยังจะต้องทำให้ระมัดระวังความสมดุลกับปริมาณที่สต๊อกไว้สำหรับบริโภคภายในอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ประธานของ VietFood กล่าว
คาดว่า อุปสงค์ในตลาดโลกยังจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 และ ในบางตลาดอาจจะมีความต้องการมากเป็นพิเศษ เช่น อินโดนีเซียกำลังจะนำเข้าข้าวเวียดนามอีกในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ฟิลิปปินส์ก็กำลังจะซื้ออีกลอตใหญ่เพื่อทดแทนข้าวในสตอกที่ลดลง หลังจากไต้ฝุ่น 2-3 ลูกในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นาข้าวเสียหายรุนแรงและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยลง
นอกจากนั้น ทั้งมาเลเซียและบังกลาเทศ ก็มีแผนที่นำเข้าข่าวจากเวียดนามอีกระลอกหนึ่งปลายปีนี้เช่นกัน นายมีงเหว กล่าว
เวียดนามจะต้องส่งออกข้าวอีกราว 2.1 ล้านตัน ในไตรมาสที่ 3 ขณะนี้ กับอีก 1-1.3 ล้านตันในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจะทำให้ปริมาณส่งออกปีนี้สูงถึง 7 หรือ 7.3 ล้านตัน มากมายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ 20 ปีแห่งการส่งออกข้าว
แต่ปัญหาสำคัญคืออุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีข้าวเหลือในสตอกเพียงล้านตันเศษๆ เนื่องจากผู้ส่งออกยังขยาด เกรงว่านโยบายข้าวของไทยจะทำให้เกิดความผันผวนทางด้านนโยบาย เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวในเวียดนามพุ่งสูงขึ้นมาก การเก็บสตอกปริมาณมากๆ ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงสูงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม สมาคมอาหารเวียดนามแนะนำว่า ผู้ส่งออกไม่ควรรีบเซ็นสัญญาซื้อขาย จนกว่าจะมีข้าวอยู่ในมืออย่างเพียงพอแล้วเท่านั้น เตื่อยแจ๋กล่าว