xs
xsm
sm
md
lg

ปธน.พม่าให้คำมั่นยุติความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>นายพลซอ จอนี ผู้แทนจากกลุ่ม KNU ลงนามข้อตกลงหยุดยิง ที่เมืองปะอัน รัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 12 ม.ค. รัฐบาลพม่าเดินหน้าเจรจากับกบฎชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่และบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้วหลายกลุ่ม และในวันนี้ (12 ก.พ.) ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ให้คำมั่นที่จะสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนกับกลุ่มกบฎติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในประเทศ. -- REUTERS/Soe Zeya Tun.  </font></b>

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีพม่าให้คำมั่นที่จะสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนกับกลุ่มกบฏติดอาวุธ และร้องขอการสนับสนุนจากคนในชาติ ในวันนี้ (12 ก.พ.) เนื่องจากสถานการณ์ไม่สงบกับชนกลุ่มน้อยยังคงขัดขวางการปฏิรูป

ประธานาธิบดี เต็งเส่ง ได้พยายามที่จะยุติความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อยที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ อันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปที่เกิดขึ้นในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

รัฐบาลกึ่งพลเรือนของพม่าได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มกบฏบางกลุ่ม เช่น กลุ่มกบฏในรัฐชาน และกะเหรี่ยงตะวันออก แต่การต่อสู้กับกลุ่มกะฉิ่น บริเวณพรมแดนจีนในภาคเหนือของประเทศสร้างความไม่แน่นอนในความคืบหน้าของความพยายามที่จะสร้างความปรองดอง

“การมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งชาติเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ความขัดแย้งภายในประเทศสิ้นสุดลงและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน” สื่อของทางการรายงานคำกล่าวของประธานาธิบดี เต็งเส่ง

ประธานาธิบดี เต็งเส่ง กล่าวเนื่องในวันสหภาพ (Union Day) ที่เป็นวันลงนามข้อตกลงประวัติศาสตร์กับชนกลุ่มน้อยในปี 2490 ว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างสันติ ประชาชนจะรู้สึกยินดีที่จะได้เห็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในกิจการของรัฐ และประธานาธิบดีพม่ายังได้กล่าวย้ำคำมั่นที่จะมุ่งเน้นการกำกับดูแลกิจการที่ดีและปรับปรุงตัวบทกฎหมาย

การยุติความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อยเป็นข้อเรียกร้องหลักของประชาคมระหว่างประเทศ และสหรัฐฯเรียกร้องให้พม่าแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐกะฉิ่น

เมื่อเดือน ธ.ค.2554 ประธานาธิบดี เต็งเส่ งมีคำสั่งให้กองทัพทหารยุติการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธจากกองทัพอิสระกะฉิ่น (KIA) แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ ขณะเดียวกัน กลุ่มกบฏสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เตือนว่า ข้อตกลงสันติภาพนั้นเปราะบาง เพราะการต่อสู้ที่ยังดำเนินอยู่ในพื้นที่กลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ กัดกร่อนความไว้วางใจที่มีต่อรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น