ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการลาวได้อพยพราษฎรจำนวน 13 หมู่บ้าน ออกจากบริเวณที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำคาน 2 ในเขตเมืองเซียงเงิน แขวงหลวงพระบาง ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีนี้ สื่อของทางการรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโครงการ
รัฐบาลลาวลงทุนเองถึง 350 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างเขื่อนขนาด 130 เมกะวัตต์ โดยใช้เงินกู้จากจีนผ่านธนาคารส่งออกและนำเข้าของจีน และบริษัท ซิโนไฮโดรคอร์ป (Sinohydro Corporation) รับเหมาก่อสร้าง กำหนดเปิดใช้การในปี 2557
ไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมดจะนำเข้าระบบของรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว เพื่อใช้ในหลายแขวง (จังหวัด) ภาคเหนือของประเทศ นายทองพัน ทองสา รองหัวหน้าโครงการเขื่อนแห่งนี้กล่าวกับสำนักข่าวสารปะเทดลาว
ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจำนวน 9 หมู่บ้านอยู่ในเขตเมือง (อำเภอ) เซียงเงิน อีก 4 หมู่บ้านในเขตเมืองปากคูน แขวงหลวงพระบาง ทั้งหมดได้รับเงินชดเชยจากทางการรวมกว่า 70,000 ล้านกีบ (263 ล้านบาทเศษ) นายทองพัน กล่าวโดยไม่ได้ให้จำนวนราษฎรที่ได้รับผลกระทบและต้องอพยพออกไปจากพื้นที่
เจ้าหน้าที่คนเดียวกันยังกล่าวอีกว่า การสร้างเขื่อนได้จ้างงานคนในพื้นที่ระหว่าง 4,000-5,000 คน และ มีการตัดถนนระยะทาง 37 กม.เข้าสู่แหล่งก่อสร้างด้วย
ลำน้ำคานเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง มีต้นกำเนิดในเขตป่าต้นน้ำรอยต่อแขวงหลวงพระบางกับแขวงเชียงขวาง ไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่เมืองมรดกโลกหลวงพระบางทำให้เกิดบริเวณ “น้ำสองสี” ขึ้นในแม่น้ำโขงในช่วงฤดูแล้ง และ ทำให้เกิดทัศนียภาพสวยงามเมื่อมองลงจากบริเวณวัดพระธาตุจอมสีที่อยู่บนภูสี
ตามรายงานก่อนหน้านี้ บริษัทจีนแห่งหนึ่งได้ศึกษาผลกระทบด้านต่างๆ และจัดทำรายงานผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม (Environmental Impact Assessment) ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแก้ไขเรียบร้อย ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลแล้ว