เอเอฟพี - ธนาคารโลกระบุจะไม่ให้กัมพูชากู้ยืมเงินก้อนใหม่จนกว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการไล่ที่ผู้คนจำนวนมากจากบริเวณทะเลสาบบึงกอก ใจกลางกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ
บริษัทเอกชนที่บริหารโดยนักการเมืองในพรรครัฐบาลของกัมพูชายังคงถมทะเลสาบที่อยู่ใจกลางกรุงพนมเปญเพื่อพัฒนาที่ดินในเชิงพาณิชย์ ที่จะต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ราว 4,000 ครอบครัว
"เราจะไม่ดำเนินการให้กู้ยืมเงินครั้งใหม่ต่อกัมพูชา จนกว่าข้อตกลงจะบรรลุและเป็นที่ยอมรับของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณบึงกอก" นางแอนเน็ต ดิกซ์ซอน ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำกัมพูชา กล่าวในคำแถลงที่ออกในวันอังคาร 9 ส.ค.
ธนาคารโลกยอมรับในเดือน มี.ค. ว่าธนาคารไม่ประสบความสำเร็จในการคุ้มครองผู้อยู่อาศัยบริเวณบึงกอก ขณะธนาคารดำเนินงานในโครงการเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินในกัมพูชาเมื่อไม่กี่ปีก่อน และได้เสนอความช่วยเหลือต่อรัฐบาลในการหาทางออกให้กับประชาชน
ในเวลานั้นธนาคารโลกยังได้เตือนว่า จะพิจารณาโครงการต่างๆ ของธนาคารที่ดำเนินอยู่ในกัมพูชา หากรัฐบาลไม่หยุดการบังคับให้ประชาชนย้ายที่อยู่อาศัย และปรากฎว่ารัฐบาลได้ใช้วิธีการรุนแรง
อย่างไรก็ตามนางดิกซ์ซอน กล่าวว่าเงินกู้ยืมส่วนใหญ่ของกัมพูชาอยู่ในเดือน ธ.ค. 2553
โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า รัฐบาลได้แถลงปลายปี 2553 ว่าจะไม่กู้ยืมเงินจากธนาคารโลก
"ธนาคารไม่เหมาะที่จะช่วยเหลือกัมพูชาในการพัฒนา" โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ครอบครัวที่อยู่บริเวณทะเลสาบบึงกอกกว่า 3,000 ครอบครัวได้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว ส่วนใหญ่ย้ายเพราะบ้านของพวกเขาจมโคลนจากการถมที่ และคนเหล่านั้นต้องยอมรับเงินชดเชยจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการเสนอ ส่วนครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ ยังคงรวมตัวประท้วงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเรียกร้องขอพื้นที่ในบริเวณเดียวกันหรือค่าชดเชยที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ในการเจรจากับเจ้าหน้าที่และบริษัทที่รับผิดชอบโครงการ
"การเจรจาระหว่างรัฐบาลและประชาชนอยู่ในระหว่างการดำเนินการ และเราตั้งตารอวิธีการแก้ไขประเด็นปัญหานี้" นางดิกซ์ซอน กล่าว และว่า โครงการของธนาคารที่มีอยู่เดิมจะยังคงดำเนินไปตามปกติ
ในปัจจุบัน ธนาคารโลกดำเนินโครงการต่างๆในกัมพูชามากกว่า 20 โครงการ เป็นจำนวนเงินราว 400 ล้านดอลลาร์.