เอเอฟพี - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการเจรจาเกี่ยวกับงบประมาณเพิ่มเติม หลังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรครีพับลิกัน ในการปรับเพิ่มเพดานหนี้สิน เพื่อเลี่ยงปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับสหรัฐฯ
ทำเนียบขาวเผยหลังเสร็จสิ้นการเจรจานาน 75 นาทีในวันอาทิตย์ (10) ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีจะหารือกับบรรดาผู้นำรัฐสภาอีกครั้งในวันถัดไป หลังการแถลงข่าวเกี่ยวกับการเจรจาแก้วิกฤต ในเวลา 15.00 น.ตามเวลาสากล
พรรครีพับลิกันปฏิเสธที่จะเพิ่มเพดานหนี้ของอเมริกามูลค่า 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ หากโอบามาไม่ยอมแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณเสียก่อน ด้วยการลดโครงการสวัสดิการสังคม ซึ่งผลาญเงินทุนของรัฐเป็นจำนวนมหาศาล
ด้านผู้นำสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตระบุว่า พวกเขาตั้งใจจะตัดลดโครงการเหล่านั้นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องการให้พรรครีพับลิกันพบกันครึ่งทาง โดยยอมให้มีการขึ้นภาษีที่เรียกเก็บจากเศรษฐี และมหาเศรษฐี เพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐ
การเจรจาดังกล่าวอยู่ในระหว่างการผลักดันสำคัญครั้งสุดท้าย เพื่อให้บรรลุข้อตกลงเพิ่มข้อจำกัดเงินกู้ยืมของสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดโดยรัฐสภา โดยในเวลานี้ตั้งไว้ที่ 14.29 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เผชิญกับการขาดดุลงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะทะลุ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้
หนี้สินของสหรัฐฯ แตะเพดานเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ทว่า มีการปรับแก้การใช้จ่าย และการบัญชี รวมถึงการเรียกเก็บภาษีที่สูงกว่าคาดหมาย เพื่อเดินหน้าดำเนินการโดยปราศจากผลกระทบต่อระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล
ภายในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ รัฐบาลจะต้องเริ่มจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือพันธบัตร ข้าราชการพลเรือน ผู้เกษียณอายุ หรือคู่สัญญาของรัฐบาล โดยหากสภาคองเกรสยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้อาจทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจเตือนว่า หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้ จะทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถกู้ยืมเงินได้อีก รวมทั้งสั่นคลอนความสัมพันธ์ทางการเงินกับเจ้าหนี้ อย่างจีน และอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจโลก