เอเอฟพี - สำนักงานใหญ่สถิติแห่งชาติเวียดนาม (General Statistics Office) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศปรับเพิ่มสูงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน คาด ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มถึงร้อยละ 22 ในเดือน ก.ค.นี้ เทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อน หลังอัตราเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย.เทียบปีต่อปี อยู่ที่ร้อยละ 20.82
เวียดนามพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย เช่น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูง ความผันผวนของค่าเงิน และขาดดุลการค้า โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเริ่มปรับตัวเพิ่มสูงในเดือน ก.ย.2553 และราคายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เคยแตะระดับสูงสุดที่ร้อยละ 28.3 เมื่อเดือน ส.ค.2551 ก็ตาม
รายงานของสำนักงานสถิติ ระบุว่า ราคาอาหารที่เพิ่มถึงร้อยละ 23.8 เทียบปีต่อปีในช่วง 7 เดือนแรกของปี ปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 32.6 ในเดือน ก.ค.นี้ เทียบกับเดือน ก.ค.2553
“ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูง ความไม่มั่นคงของเศรษฐกิจมหภาค และการจะรักษาความมั่นคงทางสังคม กลายเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับเศรษฐกิจของประเทศในปี 2554” รองนายกรัฐมนตรี เหวียน ซีง หุ่ง กล่าวในระหว่างการรัฐสภา และว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างรอบคอบในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้อยู่ที่ร้อยละ 15-17
สหประชาชาติกล่าวในเดือน พ.ค.ปีนี้ ว่า เวียดนามเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุดในโลก และได้พยายามรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศด้วยการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ให้คำมั่นที่จะตัดลดงบประมาณรัฐร้อยละ 10 และกำหนดให้การเติบโตของการปล่อยสินเชื่อหรือกู้ยืมต่ำกว่าร้อยละ 20 นอกจากนั้นรัฐบาลยังพยามควบคุมการค้าทองคำ และลดความปริมาณเงินดอลลาร์ที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลง
การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามลดลงเล็กน้อยเหลือร้อยละ 5.6 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสิ้นปีที่ตั้งไว้ประมาณร้อยละ 6 เพียงเล็กน้อย.