xs
xsm
sm
md
lg

“ย่าเต่า” หายดีแล้ว กลับคืนสระกระบี่กรุงฮานอย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ชาวฮานอยพากันมองดูเจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ จัดสถานที่อยู่ใหม่สำหรับย่าเต่าในบริเวณรอบๆ เจดีย์เต่าภายใน “สระกระบี่” หรือ โห่เกือม ( Hồ Gươm) นั่นคือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2554 และ หลังจากรักษาและพักฟื้นมา 3 เดือน ย่าเต่าได้ออกจากบริเวณนี้ และกลับสู่ธรรมชาติในบึงใหญ่อีกครั้งหนึ่งด้วยสุขภาพดีเยี่ยม บาดแผลรอบตัวหายหมดแล้ว สำนักข่าวภาษาเวียดนามกล่าว. --REUTERS/Hoang Long/Dai Doan Ket Newspaper.  </b>
<bR><FONT color=#000033>ต้องใช้ทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเรือนับร้อยนาย ในการไล่จับ ปู่เต่า ในวันที่ 3 เม.ย.2554 ปฏิบัติการครั้งนี้ได้ช่วยไขความลี้ลับหลายประการเกี่ยวกับเต่าคู่บ้านคู่เมืองกับบึงน้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮานอย  และหลังจากได้รับการรักษามา 3 เดือน วันอังคาร 12 ก.ค.ที่ผ่านมาย่าเต่าได้รับอิสรภาพกลับคืนสู่อาณาจักรบึงน้ำโฮ่เกือม ( H? G??m) อันกว้างใหญ่อีกครั้ง.-- ภาพ: Dan Tri.  </b >

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการกรุงฮานอยได้ปล่อย “ย่าเต่า” กลับสู่บึงโห่เกือม อย่างเงียบๆ ในวันอังคาร 12 ก.ค.นี้ หลังจากทำการรักษาบาดแผลและพักฟื้นมาเป็นเวลา 3 เดือน และเป็นการไขความลี้ลับของ “เต่าโบราณ” คู่บ้านคู่เมืองเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปี

“สระกระบี่” หรือ โห่เกือม ( Hồ Gươm) ที่ชาวฮานอยส่วนใหญ่พากันเรียกขาน หรือ “สระคืนดาบ” หรือ ฮว่านเกี๊ยม (Hồ Hoàn Kiếm) ที่อีกหลายคนเรียก กับเต่าโบราณตัวนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวพันกับการกอบกู้เอกราชเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน

เรียกกันชนเคยชินว่า “เต่า” หรือ “หรั่ว” (Rùa) หรือ Turtle ในภาษาอังกฤษ แท้จริงเป็นตะพาบน้ำ (Soft- Shell Turtle) ชนิดหายากพันธุ์หนึ่ง ซึ่งอาจจะเหลือเพียงตัวเดียวนี้ในโลก นักวิทยาศาสตร์เวียดนามกล่าวว่าเป็นคนละชนิดกันกับตะพาบน้ำพันธุ์หายากอีก 2 ตัวที่เลี้ยงเอาไว้ในสวนสัตว์นครเซี่ยงไฮ้ขณะนี้

ชาวฮานอยและชาวเวียดนามจำนวนมากพากันเรียก “เต่า” ในสระกระบี่ว่า “ปู่เต่า” หรือ กุหรั่ว (Cụ Rùa) ทั้งนี้เนื่องจากอาศัยอยู่ที่นั่นมานานหลายชั่วอายุคน

จับเต่าศักดิ์สิทธิ์ไปกักบริเวณไว้ในขอบเขตที่จัดทำขึ้นพิเศษ ในบริเวณ “เจดีย์เต่า” ในสระหรือบึงดังกล่าว เพื่อทำการเยียวยารักษาครั้งนี้ ทำให้ปรากฏความจริงหลายอย่าง รวมทั้งได้ทราบเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วเต่าศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ “ปู่” และนักวิทยาศาสตร์ประมาณว่า อายุน่าจะได้สัก 100 ปีเศษ
.
<bR><FONT color=#000033>เจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการถ่ายรูปกับเต่าคู่บ้านคู่เมืองหลังจับตัวได้ในวันที่ 3 เม.ย.2554 พยายามถึง 2 ครั้งจึงสำเร็จ ต่อมาจึงทราบว่าเต่าโบราณในบึงน้ำแห่งนี้แท้จริงเป็น ย่า ไม่ใช่ ปู่ อันเป็นการไขความลี้ลับ 600 ปี และหลังทำการรักษาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา บัดนี้ย่าเต่าสุขภาพดีจนเป็นปรกติทุกอย่าง และได้กลับไปครองอาณาจักรบึงน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งวันอังคาร 12 ก.ค.ที่ผ่านมา. --REUTERS/Hoang Long/Dai Doan Ket Newspaper.   </b>
.
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีผู้ใดมีข้อมูลเกี่ยวกับเพศ และ อายุของ “เต่า” คู่บ้านคู่เมืองมาก่อน แม้ทราบมานานแล้วว่า แท้จริงเป็น “ตะพาบ” ก็ตาม

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ย่าเต่า” เกิดแผลพุพองขึ้นทั่วลำตัว เนื่องจากติดเชื้ออันเกิดจากน้ำในบึงสกปรกและปนเปื้อนและตามขากับรอบๆ คอก็พุพองอันเกิดจากเชื้อราด้วยสาเหตุเดียวกัน จึงถูกนำไปกักบริเวณโดยจัดสภาพแวดล้อมเหมือนในบึงทุกประการ เพียงแต่ว่าเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อนและให้ยารักษา

แผลรักษาหายทั้งหมดแล้ว และ ย่าเต่ามีสุขภาพดีเยี่ยม คณะทำงานกล่าว

ก่อนจะปล่อยย่าเต่ากลับคืนสู่สระน้ำตามธรรมชาติ คณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากทางการกรุงฮานอยได้สูบน้ำเข้าไปในถังใหญ่บริเวณที่ย่าเต่าอยู่มา 3 เดือน เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพน้ำในบึงที่สะอาดขึ้น นอกจากนั้นทางการยังได้ขุดลอกโคลนตมออกจากก้นบึง เป็นการทำความสะอาดอีกด้วย

ก่อนหน้านี้ ไม่นานเจ้าหน้าที่ได้นำปลาเล็กปลาน้อยหลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก ปล่อยลงในสระกระบี่ เพื่อให้ย่าเต่ามีอาหารที่โปรดปรานรับประทานอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri).
กำลังโหลดความคิดเห็น