ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการกรุงฮานอยได้ปล่อย “ย่าเต่า” กลับสู่บึงโห่เกือม อย่างเงียบๆ ในวันอังคาร 12 ก.ค.นี้ หลังจากทำการรักษาบาดแผลและพักฟื้นมาเป็นเวลา 3 เดือน และเป็นการไขความลี้ลับของ “เต่าโบราณ” คู่บ้านคู่เมืองเป็นครั้งแรกในรอบหลายร้อยปี
“สระกระบี่” หรือ โห่เกือม ( Hồ Gươm) ที่ชาวฮานอยส่วนใหญ่พากันเรียกขาน หรือ “สระคืนดาบ” หรือ ฮว่านเกี๊ยม (Hồ Hoàn Kiếm) ที่อีกหลายคนเรียก กับเต่าโบราณตัวนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวพันกับการกอบกู้เอกราชเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน
เรียกกันชนเคยชินว่า “เต่า” หรือ “หรั่ว” (Rùa) หรือ Turtle ในภาษาอังกฤษ แท้จริงเป็นตะพาบน้ำ (Soft- Shell Turtle) ชนิดหายากพันธุ์หนึ่ง ซึ่งอาจจะเหลือเพียงตัวเดียวนี้ในโลก นักวิทยาศาสตร์เวียดนามกล่าวว่าเป็นคนละชนิดกันกับตะพาบน้ำพันธุ์หายากอีก 2 ตัวที่เลี้ยงเอาไว้ในสวนสัตว์นครเซี่ยงไฮ้ขณะนี้
ชาวฮานอยและชาวเวียดนามจำนวนมากพากันเรียก “เต่า” ในสระกระบี่ว่า “ปู่เต่า” หรือ กุหรั่ว (Cụ Rùa) ทั้งนี้เนื่องจากอาศัยอยู่ที่นั่นมานานหลายชั่วอายุคน
จับเต่าศักดิ์สิทธิ์ไปกักบริเวณไว้ในขอบเขตที่จัดทำขึ้นพิเศษ ในบริเวณ “เจดีย์เต่า” ในสระหรือบึงดังกล่าว เพื่อทำการเยียวยารักษาครั้งนี้ ทำให้ปรากฏความจริงหลายอย่าง รวมทั้งได้ทราบเป็นครั้งแรกว่า แท้จริงแล้วเต่าศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ “ปู่” และนักวิทยาศาสตร์ประมาณว่า อายุน่าจะได้สัก 100 ปีเศษ
.
.
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีผู้ใดมีข้อมูลเกี่ยวกับเพศ และ อายุของ “เต่า” คู่บ้านคู่เมืองมาก่อน แม้ทราบมานานแล้วว่า แท้จริงเป็น “ตะพาบ” ก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ย่าเต่า” เกิดแผลพุพองขึ้นทั่วลำตัว เนื่องจากติดเชื้ออันเกิดจากน้ำในบึงสกปรกและปนเปื้อนและตามขากับรอบๆ คอก็พุพองอันเกิดจากเชื้อราด้วยสาเหตุเดียวกัน จึงถูกนำไปกักบริเวณโดยจัดสภาพแวดล้อมเหมือนในบึงทุกประการ เพียงแต่ว่าเป็นน้ำที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อนและให้ยารักษา
แผลรักษาหายทั้งหมดแล้ว และ ย่าเต่ามีสุขภาพดีเยี่ยม คณะทำงานกล่าว
ก่อนจะปล่อยย่าเต่ากลับคืนสู่สระน้ำตามธรรมชาติ คณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากทางการกรุงฮานอยได้สูบน้ำเข้าไปในถังใหญ่บริเวณที่ย่าเต่าอยู่มา 3 เดือน เพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพน้ำในบึงที่สะอาดขึ้น นอกจากนั้นทางการยังได้ขุดลอกโคลนตมออกจากก้นบึง เป็นการทำความสะอาดอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ไม่นานเจ้าหน้าที่ได้นำปลาเล็กปลาน้อยหลากหลายชนิดเป็นจำนวนมาก ปล่อยลงในสระกระบี่ เพื่อให้ย่าเต่ามีอาหารที่โปรดปรานรับประทานอย่างเพียงพอ ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวซเวินจี๊ (Dan Tri).