xs
xsm
sm
md
lg

ลี้ลับ 100 ปี ฮานอยตาสว่าง.. หรือยังมีปู่เต่าศักดิ์สิทธิ์อีกตัว?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 26 มี.ค.2554 เจดีย์เต่ามองเห็นเป็นเงาตะคุ่มๆ มืดสลัวในคืน Earth Hour ที่กรุงฮานอยร่วมรณรงค์ประหยัดไฟฟ้า ใต้ผืนน้ำที่มืดมิดมีความลี้ลับอยู่คู่กันมานานหลายศตวรรษ หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปิดเผยออกมาสู่คนรุ่นปัจจุบัน.. หรือยังมีเต่าโบราณอยู่ในบึงน้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้อีกตัว?--REUTERS/Kham. </b>
.

ASTVผู้จัดการออนไลน์ — หลังจากถกเถียงกันมานานและเป็นความลี้ลับมานานข้ามศตวรรษ ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เวียดนามหลายคน เริ่มจะเชื่อว่า ในบึงฮว่านเกี๊ยมกลางเมืองหลวง ยังมี “ปู่เต่า” หรือเต่าโบราณเหลืออยู่อีก 1 ตัว และเจ้าหน้าที่กำลังวางแผนออกสังเกตการณ์ค้นหา

การจับปู่เต่าได้สำเร็จในวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดคำถามใหม่ ว่า เป็นตัวเดียวกันกับที่นักวิทยาศาสตร์ตังใจจะนำขึ้นมาเยียวยารักษาหรือไม่? ชาวฮานอยจำนวนมาก รวมทั้งแม่ค้าที่ปักหลักอยู่รอบๆ บึงน้ำมานาน 20 ปี ต่างยืนยันว่า “ไม่ใช่”

นักศึกษาคนหนึ่งที่ต้องเดินรอบๆ บึงบ่อยๆ ไปร้านหนังสือในย่านนั้น ยืนยันว่า เมื่อวันอังคาร (5 เม.ย.) เขายังเห็นพรายน้ำกลุ่มใหญ่ผุดขึ้นจากก้นบึง ในจุดที่เคยเห็นเต่าตัวหนึ่งลอยตัวขึ้นมาปลายปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะบ่งบอกว่า ยังมีเต่าศักดิ์ศักดิ์สิทธิ์อีกตัวอยู่ใต้ผืนน้ำ ในบึงน้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้

3 วันมานี้ มีผู้พบเห็นปรากฏการณ์เดียวกันอีกหลายคน และหลายคนได้เขียนลงในบล็อก ส่งอีเมลไปบอกเล่าให้สำนักข่าวต่างๆ ได้รับทราบ

แม่ค้าที่ค้าขายอยู่ริมบึงฮว่านเกี๊ยม เคยยืนยันมาเป็นเวลานานแล้วว่า เธอเห็นเต่าใหญ่ถึง 2 ตัว ผุดขึ้นมาเหนือน้ำในเวลาใกล้เคียงกัน ในอาณาบริเวณเดียวกัน ตัวแรกส่วนหัวเป็นสีออกเขียวเหลือง ส่วนอีกตัวหนึ่งศีรษะเป็นสีน้ำตาลเข้มกว่า.. แต่ไม่เคยมีผู้ใดเชื่อถือแม่ค้า

นายเหวียนหง็อกเขย (Nguyen Ngoc Khoi) ผู้อำนวยการบริษัท KAT ผู้จัดหาอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ในการค้นหาและติดตามจับปู่เต่าตัวแรก บอกกับหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre) เมื่อวันจันทร์ ว่า คนงานของบริษัทสังเกตเห็นมีเต่า 2 ตัว ผุดขึ้นเหนือน้ำใน 2 จุด คือ ในอาณาบริเวณใกล้กับวัดหง็อกเซิน (Ngoc Son) กับทางด้านถนนดีงเตี๋ยนหว่าง (Dinh Tien Hoang)

เรื่องนี้ไปตรงกับคำให้การของผู้พบเห็นอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนักศึกษาคนหนึ่งที่เดินไปมาบริเวณนั้นประจำ เพื่อไปยังร้านขายหนังสือ บอกกับเตื่อยแจ๋ ว่า เขาเห็นเต่าผุดขึ้นอีกด้านหนึ่งของบึงฮว่านเกี๊ยมเป็นประจำ ต่างไปจากตัวที่เพิ่งถูกจับได้ ซึ่งจะโผล่ขึ้นมาทางด้านวัดหง็อกเซิน ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของผืนน้ำ

อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.ห่าดี่งดึ๊ก (Ha Dinh Duc) ผู้เชี่ยวชาญที่อุทิศตนศึกษาเกี่ยวกับเต่าศักดิ์สิทธิ์มานาน 20 ปี ยังคงยืนยันว่า ในบึงมีเต่ายักษ์อยู่เพียงตัวเดียว และกำลังได้รับการรักษาอยู่ในขณะนี้ โดยอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

“รอยแผลตามตัวของเต่าโบราณไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่หลายๆ คนคิด เขายังแข็งแรงมาก แต่สูญเสียเล็บเท้าไปจำนวนหนึ่งเนื่องจากอายุมาก มีแผลจำนวนหนึ่งอยู่รอบๆ คอ แต่ก็ไมได้สาหัสมากนัก” ดร.ดึ๊ก กล่าวกับเวียดนามเอ็กซ์เพรส
(โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านเนื้อข่าวท่อนสุดท้าย)
<bR><FONT color=#000033>ภาพวันที่ 7 มี.ค.2554 นักอนุรักษ์ติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ รอบๆ เจดีย์เต่าในบึงฮว่านเกี๊ยม สร้างอาณาบริเวณใหม่สำหรับปู่เต่าได้พักฟื้น ระหว่างรับการรักษา เจ้าหน้าที่บริษัท KAT ที่จัดหาอุปรณ์ค้นหาและตามจับ กล่าวว่าพวกเขาเห็นยังมีเต่าขนาดใหญ่โผล่ขึ้นเหนือน้ำอีก 1 ตัว.--AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam. </b>
2
ภาพวันที่ 7 มี.ค.2554 มองเข้าไปใกล้ๆ อาณาบริเวณเจดีย์เต่า ซึ่งจัดให้เป็นที่อยู่อันปลอดภัยและมี่ระบบฟอกน้ำสำหรับปู่เต่าระหว่างรับการรักษาซึ่งอาจจะใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ..ไม่แน่.. อาจจะมีเต่าโบราณตัวที่ 2 ถูกนำไปอยู่ในอาณาบริเวณแห่งนี้ด้วย.--AFP PHOTO/Hoang Dinh Nam.
3

แต่ชาวฮานอยจำนวนมากที่มีความผูกพันใกล้ชิดกับเต่าโบราณ และบึงน้ำ ต่างกล่าวว่า ดูจากภาพที่เผยแพร่ทางโทรทัศน์แล้ว “ปู่เต่า” ตัวที่ถูกจับได้นี้ มีสุขภาพโดยรวมดีมาก ต่างไปจากอีกตัวหนึ่งที่มีสีเข้มกว่า และมีบาดแผลพุพองตามส่วนขาและลำตัวมากกว่า ตามรูปภาพที่เคยเห็นก่อนหน้านี้

ช่วงสองวันมานี้สื่อต่างๆ ได้นำเอารูปภาพของ “ปู่เต่า” อีกตัวหนึ่ง ที่มีผู้ถ่ายเอาไว้จำนวนมากตั้งแต่ปลายปีที่แล้วออกเผยแพร่ เพื่อยืนยันว่าตัวที่เห็นในรูปภาพ ต่างไปจากตัวที่ถูกจับได้

เรียกกันว่า “เต่า” จนติดปาก แท้จริงเป็นตะพาบน้ำยักษ์พันธุ์หายากชนิดหนึ่ง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า อาจจะเป็น 4 ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ในโลก อีก 3 ตัวอยู่ในสวนสัตว์ในประเทศจีน แต่นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญของเวียดนามแย้งว่า “เต่า” ที่อยู่ในบึงฮว่านเกี๊ยมกับในสวนสัตว์จีน เป็นคนละพันธุ์กัน

อยู่ที่นั่นมานาน.. นานจนกระทั่งชาวฮานอยเรียกกันด้วยความเคารพว่า "ปู่" ทั้งๆ ที่ยังไม่ทราบเพศของเต่าโบราณซึ่งอาจจะเป็น “ย่าเต่า” ก็ได้ นักวิทยาศาสตร์กำลังจะทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อบันทึกสายพันธุ์ และแน่นอน.. กำลังจะตรวจเพศ

คนเวียดนามนับล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฮานอยจะมีความผูกพันกับเต่าศักดิ์สิทธิ์แห่งบึงฮว่านเกี๊ยมมาก เนื่องจากเกี่ยวพันโดยตรง กับการกอบกู้เอกราชเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน ตำนานเต่าศักดิ์สิทธิ์จึงอยู่คู่กับบึงน้ำแห่งนี้มาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน

เลถิเฮือง (Le Thi Huong) นิสิตจากกรุงฮานอย ซึ่งกำลังศึกษาวิชาภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒประสานมิตร กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ว่า ชาวเวียดนามเป็นห่วงเป็นใย เมื่อได้ทราบว่า “ปู่เต่า” ไม่สบาย

“หนูรู้สึกเหมือนกับว่า ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งกำลังป่วยค่ะ” เฮืองกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากทางการสามารถค้นหาและติดตามปู่เต่าตัวที่ 2 ขึ้นมาได้ ก็จะเป็นการเปิดเผยความลี้ลับ ที่ดำรงอยู่มานานานหลายศตวรรษใต้ผืนน้ำแห่ง “สระคืนดาบ” ฮว่านเกี๊ยม (Hoan Kiem) หรือ “สระกระบี่” โห่เกือม (Ho Guom)

แต่ประเด็นที่จะต้องถกเถียงกันต่อไปก็อาจจะเป็นว่า เมื่อประมาณ 6 ศตวรรษก่อน “ปู่เต่า” หรือ “ย่าเต่า” ตัวใด เป็นผู้นำพระแสงดาบที่หายสาบสูญ ทูลเกล้าฯ ถวายคืนสมเด็จพระจักรพรรดิเลเลย (Le Loi) ผู้ทรงกอบกู้อาณาจักรเวียดนามโบราณให้พ้นการเป็นเมืองขึ้นของจีน

ปริศนา..ปู่เต่าตัวที่2 Agencies

4

5

6

7

8
ปู่ตัวแรกก็แย่พอกัน Agencies

9

10

11

12

13

14
เมื่อญาติผู้ใหญ่ป่วย Agencies

15

16

17

18

19

20
กำลังโหลดความคิดเห็น