ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การเจรจา 3 ฝ่ายเกี่ยวกับการบริหารจัดการมรดกโลกปราสาทพระวิหารที่จัดขึ้นในกรุงปารีส ระหว่างวันที่ 25-26 พ.ค.ที่ผ่านมา ประสบกับความล้มเหลว แต่ก็ “มีความหมาย” เพราะว่าได้มีโอกาสเปิดโปง “การโกหกหลอกลวง” ของไทย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โสกอาน กล่าวหลังเดินทางกลับถึงกรุงพนมเปญในวันอังคาร
“แต่มันก็มีความหมายมาก ผมได้แสดงให้โลกทั้งโลกได้เห็นการโกหกของไทย” สำนักข่าวกัมพูชาอ้างคำพูดของนายอาน ซึ่งได้พบเจรจากับ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย และ นางอิรินา โบโควา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก
นายอาน กำลังกล่าวถึงความเสียหายของปราสาทพระวิหาร ที่อ้างว่า ถูกฝ่ายไทยยิงถล่มกว่า 400 นัด ขณะที่ นายสุวิทย์ บอกกับที่ประชุมเจรจา ว่า ปราสาทไม่ได้รับความเสียหายใดๆ สำนักข่าวของรัฐบาล กล่าว
“เราได้เชิญทูตทหาร 13 คน ไปดูความเสียหาย และเราได้บันทึกเป็นวิดีโอไว้ เพื่อแสดงให้เห็นการก้าวร้าวรุกรานของไทย ซึ่งยิงถล่มถึง 414 นัดในบริเวณปราสาท” นายอาน กล่าว
รองนายกฯ ของกัมพูชา ผู้รับผิดชอบการขึ้นทะเบียนปราสาทเก่าแก่อายุ 1,000 ปี เป็นมรดกโลกได้สำเร็จในเดือน ก.ค.2551 ยังกล่าวอ้างอีกว่า ผอ.ยูเนสโก ได้ปฏิเสธข้อเสนอของนายสุวิทย์ ที่ให้เลื่อนการพิจารณาแผนบริหารปราสาทของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งยูเนสโกรับไปพิจารณาระหว่างการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกปีที่แล้ว สำนักข่าวกัมพูชา กล่าว
ฝ่ายไทยได้ยืนยันที่จะเจรจาเรื่องนี้ในระดับทวิภาคีกับกัมพูชา โดยปราศจากการแทรกแซงของยูเนสโก แต่ข้อเสนอของนายสุวิทย์ล้มเหลวอีกเช่นกัน นายอาน กล่าว
เกี่ยวกับความเสียหายของปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างนั้น ยังไม่มีรายงานว่า นายสุวิทย์ได้อธิบายต่อยูเนสโกอย่างไรหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความจริงที่ว่ากัมพูชาได้ใช้ปราสาทมรดกโลกเป็นที่ตั้งทางทหารและอาวุธหนัก ยิงเข้าใส่ฝ่ายไทยซึ่งทำให้ไทยต้องยิงตอบโต้ ซึ่งทำให้บางส่วนของปราสาทเสียหายเล็กน้อย
เรื่องนี้มีหลักฐานทั้งที่เป็นภาพถ่ายและรายงานโดยสำนักข่าวต่างประเทศต่างๆ
หลังการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในกรุงบาซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อปีที่แล้ว นายโสกอาน ได้ประกาศชัยชนะครั้งใหญ่เหนือประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนายสุวิทย์ได้เซ็นเอกสารรับรองผลการเจรจา 2 ครั้งก่อนหน้านั้น ซึ่งไทยคัดค้านมาตลอด