ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลลาวแสดงท่าทีอันเป็นเอกเทศต่อปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย และการปะทะทางทหารในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทองลุน สีสุลิด รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศลาว บอกเรื่องนี้กับเอกอัครราชทูตไทยประจำนครเวียงจันทน์ ที่แจ้งสถานการณ์ที่ชายแดนให้ฝ่ายลาวรับทราบ
นายวิทวัส ศรีวิหค เอกอัครราชทูตไทย เข้าพบ ดร.ทองลุน ในวันที่ 29 เม.ย.เพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว
การปะทะรอบใหม่ดำเนินติดต่อกันเป็นเวลา 9 วันที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือน กับปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้รณรงค์ชี้แจงให้บรรดาทูตานุทูตได้รับทราบพฤติกรรมยั่วยุและก่อเหตุของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งทำให้ไทยต้องตอบโต้ “อย่างสมน้ำสมเนื้อ”
บรรดาทูตานุทูตของไทยได้บอกกับประเทศเพื่อนมิตร ว่า รัฐบาลไทยไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากการโจมตีรุกรานตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหา ในทางตรงกันข้ามไทยได้ช่วยเหลือกัมพูชาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายด้าน และไทยปรารถนาจะเห็นประชาชนกัมพูชาอยู่ดีกินดี พ้นจากความยากจนและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ในฐานะประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง และมีชายแดนติดกับทั้งสองประเทศ สปป.ลาว มีความปรารถนาอยากเห็นประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองแก้ไขข้อพิพาทชายแดนระหว่างสองประเทศด้วยกันด้วยสันติวิธี เพื่อประโยชน์ของประชาชนสองชาติ ก็คือ เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค..” หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่รายงานในวันอังคาร 3 พ.ค.ศกนี้ อ้างคำพูดของ รมว.ต่างประเทศลาว
“ในฐานะเป็นเพื่อนมิตรที่ใกล้ชิดกับทั้งสองประเทศ และมีความสัมพันธ์ร่วมมือมาเป็นเวลายาวนานนั้น สปป.ลาว จะพยายามกระทำอย่างสุดความสามารถของตนเพื่อช่วยประกอบส่วนแก้ไขปัญหาดังกล่าวและหวังว่าสองฝ่ายจะค้นหาช่องทางแก้ไขปัญหาด้วยการพบปะเจรจา เพื่อทำให้สถานการณ์คืนสู่ปกติโดยเร็ว” ดร.ทองลุน กล่าว
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันโฆษกกระทรวงการต่างประเทศลาว ได้ออกคำแถลงเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาแก้ไขปัญหาพิพาทด้วยสันติวิธี และบนหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ
ต่างไปจากในช่วงปีแห่งสงครามเย็นที่เวียดนามม ลาว และ กัมพูชา รวมกลุ่มกันเป็น “สามชาติอินโดจีน” ร่วมกันทั้งนโยบายการต่างประเทศและนโยบายป้องกันประเทศ โดยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เพียง 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม “สามชาติอินโดจีน” ไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว และลาวได้จำแนกความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงอย่างชัดเจน
ในรายงานการเมืองที่ พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน เสนอต่อที่ประชุมใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัติลาวในเดือน ม.ค.ปีนี้ เลขาธิการใหญ่พรรคระบุว่า ลาวจะพัฒนา “ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและความร่วมมือรอบด้าน” กับเวียดนามต่อไป พร้อมๆ กับพัฒนา “ความสัมพันธ์ฉันท์มิตร” กับจีน และ ความสัมพันธ์ “ฉันท์ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกับกัมพูชา ไทย และ พม่า”
รายงานการเมืองเป็นเอกสารสำคัญ 1 ใน 3 ฉบับที่มีการหารือในที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 9 ของพรรค เป็นเอกสารชี้นำด้านนโยบายการเมือง การทหารและการต่างประเทศของพรรคและรัฐบาล
