ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหา-ภาพประกอบ
โดยวุฒิพงษ์ หลักคำ-บุญญะสาร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- บรรดาผู้นำชุดใหม่พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่งในนครเวียงจันทน์ตอนเช้าวันอังคาร 22 มี.ค.ศกนี้ ทำพิธีฉลองครบรอบ 56 ปีการก่อตั้งพรรค หลังจากปิดการประชุมสมัชชาครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการในวันจันทร์ ซึ่งมีการเลือกคนรุ่นใหม่การศึกษาดีเข้าเป็นกรรมการกลางพรรคเกือบ 20 คน แม้จะไม่มการเปลี่ยนแปลงผู้นำในระดับสูงก็ตาม
ผู้เข้าร่วมประชุม 576 คนซึ่งเป็นตัวแทนสมาชิกพรรคกว่า 190,000 ได้เลือก พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน เป็นเลขาธิการใหญ่ ผู้นำสูงสุดของพรรคอีก 1 สมัย ขณะที่ผู้นำอาวุโสในกรมการเมือง 2 คน คือ พล.ท.สะหมาน วิยาเกด ผู้ชี้นำทางทฤษฎี แนวคิดและวัฒนธรรม กับ พล.อ.สีสะหวาด แก้วบุนพัน ประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตเสนาธิการใหญ่กองทัพ เกษียนตัวเองตามความคาดหมาย
หายไปจากกรมการเมืองอีกคน ก็คือ นายบัวสอน บุปผาวัน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ลาออกจากตำแหน่งอย่างไม่คาดคิดในระหว่างประชุมสภาแห่งชาติเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว
นายบัวสอน เข้าร่วมการประชุมใหญ่พรรคครั้งนี้ แต่ไม่ได้ขึ้นบนเวทีเหมือนกับกรมการเมืองคนอื่นๆ และตามรายงานของสื่อทางการ ก่อนหน้านั้น อดีตนายกรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะอนุกรรมการระดมทุนช่วยเหลือการประชุมใหญ่พรรคซึ่งเป็นงานสุดท้าย
ในการประชุมภาคบ่ายวันอาทิตย์ 20 มี.ค. พรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้เลือกคณะกรรมการกลาง (กรรมการศูนย์กลางพรรค) ชุดใหม่จำนวน 61 คน ในนั้นเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขาวิชาต่างๆ รวม 20 คน คิดเป็น 32.78% ของทั้งหมด กรมการเมืองชุดใหม่จำนวน 11 คน เป็น “ดอกเตอร์” ถึง 3 คน
“กรรมการศูนย์กลางพรรคชุดนี้ส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาเล่าเรียนทฤษฎีมาร์กซ์เลนิน ทั้งระดับบำรุงและก่อสร้าง ระดับการศึกษาด้านวิชาเฉพาะและเทคนิควิทยาศาสตร์ตั้งแต่ชั้นกลางขึ้นไป” หนังสือพิมพ์ประชาชนรายวันของศูนย์กลางพรรครายงาน
ผู้ที่เข้าเป็นกรรมการศูนย์กลางพรรคครั้งแรกทั้งหมด 19 คน ยังรวมทั้ง ดร.คำแพง ไซสมแพง เจ้าแขวงหลวงพระบางคนใหม่ ศ.ดร.สุกกองแสง ไซยะเลิด อธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรม กับ ดร.เอกสะหว่าง วงวิจิต รมช.สาธารณสุข ดร.คำแพง ไซสมแพง เลขาฯ พรรค-เจ้าแขวง แขวงหลวงพระบาง นายคำเมิง พงทะดี เลขาฯ พรรค-เจ้าแขวง แขวงเวียงจันทน์ และ นายคำเจน วงโพสี รองเลขาฯ พรรค-เจ้าแขวงแขวงผ่งสาลี พ.อ.คำเผย บุดดาเวียง ผู้บัญชาการทหารแขวง เลขาฯ พรรค-เจ้าแขวง แขวงเซกอง กับ นางสุนทอน ไซยะจัก รองหัวหน้าคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ศูนย์กลาง- เอกอัครราชทูตประจำกรุงฮานอย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจหลักยังอยู่ในคณะกรรมการกลางชุดใหม่กันพร้อมหน้า รวมทั้ง ดร.สินละวง คุดไพทูน รมว.แผนการและการลงทุน ดร.สุลิวง ดาลาวง รมว.พลังงานและเหมืองแร่ ดร.นาม วิยาเกด รมว.อุตสาหกรรมและการค้า สมมาด พนเสนา รมว.การโยธาและขนส่ง นายสมดี ดวงดี รมว.การเงิน ดร.พูเพ็ด คำพูนวง ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติ และ ดร.ทองบัน แสงอาพอน รมว.การกระทรวงป้องกันความสงบที่เป็นพลเรือนคนแรก
ตำแหน่งกรรมการศูนย์กลางพรรค เป็นตัวบ่งชี้ว่า บุคคลเหล่านี้จะยังอยู่ในรัฐบาลต่อไป เมื่อสภาแห่งชาติชุดใหม่เปิดการประชุมและรับรองเอาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หลังการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในปลายเดือน เม.ย.ศกนี้
.
.
หลุดไปจากคณะกรรมการกลางชุดใหม่ยังรวมทั้ง นายหมูนแก้ว โอละบูน รมว.กระทรวงแถลงข่าวฯ ศ.ดร.ปอนเมก ดาลาลอย รมว.สาธารณสุข นายสีตะเฮง ลาดซะพน รมว.กสิกรรมและป่าไม้ และ นายสุบัน สะลิดทิลาด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักงานประธานประเทศ
ขณะเดียวกัน การเกษียนของกรมการเมืองอาวุโส 2 คน ทำให้นายทองสิง ทำมะวง นายกรัฐมนตรีคนใหม่เลื่อนขึ้นสู่อันดับ 2 ลำดับอาวุโสในองค์กรนำสูงสุดของพรรค นายบุนยัง วอละจิต รองประธานประเทศอยู่อันดับ 3 ดร.ทองลุน สีสุลิด รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศอันดับ 4 ตามด้วยนางปานี ยาทอตู้ ประธานสภาแห่งชาติ พล.ต.อาซาง ลาวลี อดีตประธานกรรมการตรวจตราศูนย์กลาง และ พล.ท.ดวงใจ พิจิต รองนายกฯ รมว.กลาโหม เป็นอันดับที่ 7
นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกฯ “ผู้ประจำการรัฐบาล” อยู่ในอันดับที่ 8
กรมการเมืองชุดใหม่ 11 คนปิดท้ายด้วยสมาชิกใหม่ดุษฎีบัณฑิต 3 คน คือ ดร.บุนทอง จิตมะนี อดีตหัวหน้ากรรมการจัดตั้งศูนย์กลาง ซึ่งครั้งนี้ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการตรวจตรา ดร.บุนปอน บุดตะนะวง หัวหน้าห้องว่าการศูนย์กลางพรรค กับ ดร.พันคำ วิพาวัน รมว.ศึกษาธิการ อดีตเลขาฯ พรรค-เจ้าแขวง แขวงหัวพัน
ดร.คำพัน ได้กลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ เป็นรัฐมนตรีว่าการคนที่ 3 ที่ได้ขึ้นสู่กรมการเมือง
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งในพรรคได้ให้คำตอบบางอย่างเกี่ยวกับการลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นปริศนาของนายกฯ วัย 56 ปี เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว การพ้นจากศูนย์กลางพรรคถือเป็นการตกต่ำทางการเมืองและเป็นการลงโทษ ในระบบของชาวคอมมิวนิสต์
เมื่อกือบ 20 ปีก่อน ซึ่งเป็นยุคแรกของพรรคภายใต้ พล.อ.คำไต สีพันดอน นั้น พล.อ.สีสะหวาด แก้วบุนพัน เคยถูกให้พ้นจากกรมการเมืองอย่างเป็นปริศนา แต่ได้รับการสถาปนาฐานะเดิมอีกครั้งในสมัยถัดมา รวมทั้งได้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลอีกด้วย
พรรคประชาชนปฏิวัติลาว เติบใหญ่ขึ้นมาจากกลุ่มต่อต้านเล็กๆ ในช่วงราชอาณาจักรลาวอยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศส ก่อนพัฒนามาเป็นพรรคประชาชนลาวต่อสู้กับรัฐบาลลาวราชอาณาจักรฝ่ายขวาที่สหรัฐฯ หนุนหลังจนสามารถยึดนครเวียงจันทน์ได้ในวันที่ 2 ธ.ค.2518 และกลายมาเป็นพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในปัจจุบัน
การประชุมใหญ่ตัวแทนทั่วประเทศจัดขึ้นทุกๆ 5 ปี เพื่อกำหนดนโยบายและทิศทางพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และเลือกตั้งคณะบริหารพรรคด้วย.
.