.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สนามบินแห่งใหม่ที่นายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง เซ็นอนุมัติให้เดินหน้าก่อสร้างเมื่อเร็วๆ นี้ มีขนาดใหญ่โตมหึมาระดับ Mega Airport เมื่อเปิดใช้เฟสแรกใน 9 ปีข้างหน้า จะรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี แต่เมื่อสร้างเต็ม 3 เฟส จะกลายเป็นสนามบินใหญ่ระดับโลกอีกแห่งหนึ่ง รับผู้โดยสารได้ถึง 100 ล้านคนต่อปี สื่อของทางการกล่าว
สนามบินนานาชาติลองแถ่ง (Long Thanh) ใกล้นครโฮจิมินห์ จะเริ่มก่อสร้างในปี 2558 เพื่อเปิดใช้เฟสที่ 1 ใน ปี 2563 ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋ (Tuoi Tre)
ตามแผนการที่ร่างขึ้นโดยบริษัทที่ปรึกษาเจแปนแอร์พอร์ตคอนซัลแทนท์ (Japan Airport Consultant) การก่อสร้างแบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ประกอบด้วย 2 รันเวย์ มีอาคารผู้โดยสารรองรับได้ 25 ล้านคนต่อปี อาคารคลังรับสินค้าได้ 1.2 ล้านตัน รวมทั้งลานจอดเครื่องบินที่สามารถได้ 34 ลำพร้อมกัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
รันเวย์สร้างให้มีความกว้างรับเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุด คือ แอร์บัส A380 ได้สื่อของทางการกล่าว
การก่อสร้างในระยะแรกคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณมากกว่า 6,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งค่าเวนคืนที่ดินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ ส่วนระยะที่ 2 คาดว่า จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2573 โดยจะก่อสร้างรันเวย์เพิ่ม และเพิ่มศักยภาพให้สนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 50 ล้านคน และสินค้า 1.5 ล้านตัน
หลังจากปี 2573 หรืออีก 19 ปีข้างหน้า จะเป็นการก่อสร้างในระยะสุดท้าย โดยสนามบินใหญ่จะประกอบด้วย 4 รันเวย์ และมีอาคารผู้โดยสาร 4 หลัง รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 100 ล้านคน และ สินค้า 5 ล้านตัน
นายกรัฐมนตรีเวียดนามสั่งการให้กระทรวงวางแผนและการลงทุน ใช้เงินกู้ยืมความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) จากญี่ปุ่น เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้
สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ ว่า ลองแถ่งจะมีระบบขนส่งผู้โดยสารที่ทันสมัยภายในและระหว่างอาคารต่างๆ รวมทั้งระบบแอร์พอร์ตลิงค์เพื่อเชื่อมกับนครโฮจิมินห์ กับทางหลวงทันสมัยออกสู่ทุกทิศทุกทางรวมทั้งเชื่อมเข้ากับท่าเรือน้ำลึกที่อยู่ทางทิศใต้อีกด้วย
ด้วยจำนวนอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ถึง 4 หลัง (เทอร์มินัล) เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จเต็มรูป สนามบินลองแถ่งจะมีขนาดไม่น้อยไปกว่าหรือเท่าๆ สนามบินนานาชาติเมืองหลวงปักกิ่ง (Beijing Capital International Airport) ที่เปิดใช้ในปี 2551 เมื่อจีนเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่นั่นมีอาคารผู้โดยสารเพียง 3 หลัง
การก่อสร้างสนามบินลองแถ่งยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายปี การสำรวจศึกษาขั้นต้นเริ่มขึ้นในปี 2548 โดยบริษัทจากสเปน แต่เริ่มมองเห็นอนาคตลางๆ เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นเสนอความช่วยเหลือก่อสร้างทั้งช่วยหาแหล่งเงินทุนและวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ
ระหว่าง นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนสตรีญี่ปุ่นไปเยือนเวียดนามเดือน ต.ค.2553 สองฝ่ายได้เซ็นความตกลงก่อตั้งการเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา โดยญี่ปุ่นจะช่วยเหลือเวียดนามในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขนาดใหญ่หลายโครงการ ซึ่งรถไฟหัวกระสุนเหนือ-ใต้ กับสนามบินลองแถ่งด้วย
กระทรวงคมนาคมเวียดนาม ระบุว่า สนามบินแห่งใหม่จะแทนที่สนามบินเติ่นเซินเญิตนครโฮจิมินห์ ซึ่งปัจจุบันเป็นสนามบินนานาชาติใหญ่ที่สุดของประเทศ 90% ที่ใช้บริการเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ อีก 20% เป็นเที่ยวบินในประเทศ
คาดว่า สนามบินเติ่นเซินเญิตอาจจะถูกใช้เป็นสนามบินสำรอง เมื่อสนามบินแห่งใหม่เปิดให้บริการ
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัท JAC เป็นที่ปรึกษาโครงการสนามบินในหลายประเทศทั่วโลก เป็นผู้ออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ท่าอากาศยานโนยบ่าย ในกรุงฮานอยที่กำลังก่อสร้าง รวมทั้งออกแบบและเป็นที่ปรึกษาการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศสนามบินโฮจิมินห์ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี 2551
เจเอซียังเป็นที่ปรึกษาและผู้ออกแบบสนามบินหลายแห่งทั่วโลก ทั้งในย่านเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ และในญี่ปุ่น ซึ่งรวมทั้งสนามบินคังไซ นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมให้การปรึกษาแก่โครงการสนามบินแห่งใหม่ของกรุงปักกิ่งที่เปิดใช้ในปี 2551 อีกด้วย
ตัวอย่างในปักกิ่ง
2
3
4
5