xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามดัน “ชินคันเซ็น” อีกรอบ ลุ้นสภาอนุมัติปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>เริ่มกังวล--ภาพแฟ้มวันที่ 26 ต.ค.2553 รถหัวกระสุนของจีนแล่นไปตามรางระหว่างนครเซี่ยงไฮ้กับนครหังโจ จีนจะเริ่มก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงอีกสายหนึ่งจากชายแดนเข้าสู่เมืองหลวงของลาว เพื่อเชื่อมกับระบบรถไฟในประเทศไทย ตามแผนการทางรถไฟสายอาเซียนไปยังมาเลเซี่ยและสิงคโปร์โดยไม่ผ่านเวียดนาม ซึ่งเปลี่ยนไปจากเส้นทางเดิมที่ธนาคารพัฒนาเอเชียเสนอเอาไว้กว่า 20 ปีก่อน เรื่องนี้ทำให้เวียดนามเริ่มเป็นกังวลและจะต้องสร้างระบบขนส่งคล้ายกันนี้ด้วยตัวเองโดยใช้เทคโนโลยีชินคันเซ็นกับความช่วยเหลือจากญี่ปุ่น.-- REUTERS/Aly Song.</font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐวิสาหกิจรถไฟเวียดนามเตรียมการส่งโครงการรถไฟหัวกระสุนให้รัฐบาลเพื่อเสนอขออนุมัติจากรัฐสภาครั้งหนึ่งในปีนี้ ปีที่มีการเปลี่ยนแปลงการนำในพรรคคอมมิวนิสต์ และกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกรัฐบาลชุดใหม่ และเชื่อกันว่านายกรัฐมนตรี เหวียนเติ๋นยวุ๋ง จะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป

นายฟัมกงจีง (Pham Cong Trinh) รองผู้อำนวยการบริษัท รถไฟเวียดนาม หรือ VRC (Vietnam Railway Corporation) กล่าวว่า การศึกษาโครงการแบบทั่วด้าน ที่ดำเนินมาก่อนหน้านี้ใกล้จะแล้วเสร็จ และ ขั้นตอนต่อไปทั้งหมดควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีนี้

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวอีกว่า องค์การเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือ “ไจก้า” (Japan International Cooperation Agency) ได้ตกลงให้ความช่วยเหลือเวียดนาม ในการศึกษาเฟสที่ 1 ของโครงการรถไฟชินคันเซน ที่ประกอบด้วย 2 ช่วง คือ ระหว่างฮานอย กับเมืองวีง ทางตอนเหนือ กับ โฮจิมินห์-ญาจาง ทางตอนใต้ มูลค่าก่อสร้างประมาณ 55,800 ล้านดอลลาร์

นายโห่เหงียะยวุ๋ง (Ho Ngia Dung) รัฐมนตรีคมนาคม กล่าวว่า โครงการนี้่จะต้องเกิดขึ้นจนได้ในที่สุด เพียงแต่ต้องการเวลาในการศึกษาวิจัยในรายละเอียดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

รัฐมนตรีคมนาคมกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนหยายฟอง (Saigon Giai Phong) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า แม้รัฐสภาจะลงมติคว่ำโครงการไปแล้ว แต่กระทรวงคมนาคมกับการรถไฟซึ่งมีหน้าที่จะต้องพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้ทันสมัยตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องทำการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูงต่อไป

เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว รัฐสภาได้โหวตลงมติไม่รับหลักการ และไม่รับโครงการรถไฟความเร็วสูงที่รัฐบาลเสนอ โดยผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า เกรงจะทำให้หนี้สินของประเทศพุ่งขึ้นสูงสู่ระดับอันตราย และเวียดนามยังมีโครงการขนาดใหญ่อีกจำนวนมากมีความเร่งด่วนมากกว่า และจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล

รัฐบาลเวียดนาม กล่าวว่า โครงการรถไฟหัวกระสุนจะใช้เวลาถึง 30 ปีก่อสร้างทั้งระบบ ซึ่งในที่สุดก็จะเชื่อมกรุงฮานอยกับนครโฮจิมินห์ และเงินที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนใหญ่ จะเป็นเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศแบบ ODA (Official Development Assistance) ที่มีทั้งให้เปล่า เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศจะให้ความช่วยเหลือเวียดนามก่อสร้างโครงการรถไฟหัวกระสุนแบบชินคันเซ็น และในเดือน ต.ค.2553 ระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรี นายนาโอโตะ คัง (Naoto Kan) ญี่ปุ่นกับเวียดนามได้เซ็นความตกลงการเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์

ญี่ปุ่นได้ประกาศให้ความช่วยเหลือเวียดนามในการก่อสร้างระบบรถไฟชินคันเซ็น รวมทั้งโครงการก่อสร้างสนามบิน และระบบสาธารณูปโภคอีกหลายโครงการ

ขณะเดียวกัน เวียดนามประกาศว่า ได้เลือกญี่ปุ่นเป็นคู่ร่วมทุน ในการขุดค้นและทำเหมืองเพื่อนำแร่หายาก (Rare Earth) ต่างๆ ที่มีความจำเป็นยิ่งยวดต่ออุตสาหกรรมไฮเทค ขึ้นมาใช้ประโยชน์ เชื่อว่า ในเวียดนามมีธาตุแร่ในกลุ่มแรเอิร์ธอยู่เกือบ 30 ล้านตัน

เวียดนามเป็นกังวลมากขึ้นเมื่อจีนประกาศสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน โดยเลือกเส้นทางผ่านลาว ซึ่งทำให้โครงการทางรถไฟสายอาเซียน สิงคโปร์-คุนหมิง ไม่เป็นไปตามแผนการเดิมที่วางไว้กว่า 20 ปีก่อน

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเพิ่งสิ้นสุดการประชุมใหญ่ผู้แทนที่ประเทศครั้งที่ 11 ในสัปดาห์นี้ และเชื่อกันว่า นายกรัฐมนตรีเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) จะได้รับเลือกเป็นผู้นำรัฐบาลต่อไปอีก 1 สมัย เมื่อรัฐสภาชุดใหม่เปิดสมัยประชุมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรมีกำหนดขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.นี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น