xs
xsm
sm
md
lg

“โอบามา” บอกจะไปเยือนเวียดนามในอนาคตอันใกล้นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ทักทายประธานาธิบดีลีเมียงบั๊คแห่งเกาหลี ประธานาธิบดีเวียดนามเหวียนมีงเจี๊ยต ที่นั่งติดกันและได้พบหารือทวิภาคีนอกรอบกับผู้นำสหรัฐฯ ระหว่างไปร่วมประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียแปซิฟิกหรือ เอเปก ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 13 พ.ย.2553 นายเจี๊ยตเป็น ปธน.เวียดนามคนแรกที่ไปเยือนจีนในปี 2550 ถึงคราวที่ผู้นำสหรัฐฯ จะเยือนเวียดนามเป็นการต่างตอบแทน. --  REUTERS/Jim Young. </b >

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา บอกกับเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำกรุงวอชิงตันดี.ซี.เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า มีความประสงค์จะไปเยือนเวียดนามในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งยังชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ ที่พัฒนาไปในหลายด้าน

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความพึงพอใจความสัมพันธ์ 2 ฝ่ายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วง 16 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า ความมั่นคงปลอดภัย สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งการรณรงค์ต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นายเหวียนก๊วกเกือง เอกอัครราชทูตเวียดนาม กล่าว

นายเกือง ได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดี เหวียนมีงเจี๊ยต ให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย และ เข้ายื่นสาสน์ตราตั้งต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนเตี๊ยบถิ (Sài Gòn Tiếp Thị ) ข่าวสารด้านการตลาดที่ออกในนครโฮจิมินห์ กล่าว

นายโอบามา บอกกับเอกอัครราชทูตเวียดนาม ว่า สองประเทศควรจะผดุงความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และพัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนกันเพื่อผลประโยชน์ด้านเสถียรภาพและความเจริญผาสุกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

นายเกือง ยังบอกหนังสือพิมพ์ฉบับนี้อีกว่า ภารกิจสำคัญในสมัยที่ 2 นี้ คือ การดำเนินการเพื่อก่อตั้งการเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ถึงแม้จะมีความยุ่งยากในหลายเรื่องก็ตาม รวมทั้งจุดยืนที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนด้วย

สายสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐฯ พัฒนาไปอย่างใกล้ชิดในปัจจุบัน โดยเริ่มจากความร่วมมือด้านมนุษยธรรมเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ในการค้าหาทหารอเมริกันที่สูญหายในช่วงสงครามเวียดนาม ปัจจุบันสองฝ่ายกำลังกระชับความร่วมมือในเรื่องการเก็บกู้สารเคมี “ฝนเหลือง” ที่ยังตกค้างในเวียดนามและหาทางช่วยเยียวยาผู้ประสบเคราะห์

เวียดนามกับสหรัฐฯ ยังมีความร่วมมืออีกหลายด้าน รวมทั้งการท่องเที่ยว การบิน การป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การต่อต้านการนก่อการร้ายและความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ด้วย เอกอัครราชทูตเวียดนาม กล่าว

ปัจจุบันสหรัฐฯ กลายเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

นายโอบามา เคยประกาศแผนการเยือนบางประเทศในเอเชียเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งอินโดนีเซีย แต่ได้เลื่อนออกไป
<bR><FONT color=#000033>ธงชาติสตาร์แอนด์สไตรป์ของสหรัฐฯ กับธงดาวทองพื้นแดงของเวียดนามประดับอยู่ด้านหน้าสำนักงานตลาดหลักทรัพย์นครนิวยอร์ก 19 มิ.ย.2550 วันที่ประธานาธิบดีเวียดนาม เหวียนมีงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ไปเยี่ยมชมระหว่างเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ คราวนี้เป็นรอบที่ผู้นำสหรัฐฯ จะต้องมาเยือนตอบแทน ซึ่งประธานาธิบดีนายบารัค โอบามา บอกกับเอกอัครรัฐทูตเวียดนามสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังจะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้. -- AFP PHOTO/Stan Honda.  </b>
<bR><FONT color=#000033>ประธานาธิบดีเวียดนามเหวียนมีงเจี๊ยต โบกมือจากฟลอร์ห้องค้าภายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก วันที่ 19 มิ.ย.2550 ในโอกาสไปเยี่ยมชมกิจการ พร้อมคณะจากตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ที่เพิ่งจะเปิดทำการใหม่ นายเจี๊ยตเป็นผู้นำคนแรกที่ไปเยือนสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามเวียดนามยุติลง 32 ปีก่อนหน้านั้น ถึงคราวฝ่ายสหรัฐฯ จะไปเยือนตอบแทน. -- AFP PHOTO/Stan Honda.  </b>
กำลังโหลดความคิดเห็น