โดนจัดหนัก “เตียบัญ” เปิดทางพบ “ประวิตร” ในพนมเปญ หลังปากแข็งมานาน

(ปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาครั้งที่ 1 ย่อหน้าที่ 4 และ 5 (22.40 น. 26 เม.ย.2554)(ปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาครั้งที่ 2 ย่อหน้าที่ 2 และ 3 (01.05 น.27 เม.ย.2554)

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ไทย กับ กัมพูชา กำลังเตรียมการพบปะกันเพื่อเจรจาหยุดยิงหลังการปะทะตามแนวชายแดนยืดเยื้อมาเป็นวันที่ห้า และ มีทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตรวมกัน 13 คน ราษฎรอีกหลายหมื่นคนตามแนวชายแดนต้องอพยพไปยังที่ปลอดภัย และ พล.อ.เตียบัญ รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า พร้อมที่จะพบเจรจากับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ของไทยในกรุงพนมเปญ

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยอ้างคำแถลงฉบับหนึ่งของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาในวันอังคาร 26 เม.ย.นี้

ส่วนศูนย์ข่าวดืมอัมปึล ในกรุงพนมเปญ ที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลได้รายงานข่าวนี้ โดยอ้างคำพูดของแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหม ว่า พล.อ.เตียบัญ “ได้ยอมรับตามคำร้องขอของฝ่ายไทย คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์ เพื่อจัดการพบปะพูดคุยขึ้นในกรุงพนมเปญในไม่กี่วันข้างหน้านี้”

อย่างไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกไทยกล่าวในรายการ “ตอบโจทย์ข่าว” ทางสถานีโทรทัศน์พีบีเอส ว่า กำหนดการที่ รัฐมนตรีกลาโหมของไทย และ กัมพูชา จะนัดเจรจากันในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ได้ยกเลิกแล้ว เนื่องจากมีสื่อกัมพูชา คือ เว็บไซต์ข่าวดืมอัมปืล ได้ลงข้อมูลที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงทำให้ดูเหมือนว่า ไทยยอมรับความพ่ายแพ้ และขอไปเจรจาสงบศึกที่กัมพูชา

พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงว่า สังคมจะเข้าใจผิดจึงยกเลิกการนัดเจรจา รอให้การปะทะยุติลงก่อน ซึ่่งฝ่ายไทยยินดีพูดคุยกับกัมพูชา 

“รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา เตียบัญ ได้ตกลงพบกับฝ่ายไทยในกรุงพนมเปญเร็วๆ นี้ เพื่้อหารือการหยุดยิงระหว่างสองประเทศ” เอเอฟพีอ้างคำแถลงของกระทรวงกลาโหม

พล.อ.ประวิตร ซึ่งนำคณะไปเยือนทหาร และผู้ประสบความเดือดร้อนจากการปะทะใน จ.สุรินทร์ กล่าวเป็นนัยเช่นกันว่าพร้อมจะพบพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชา

“เราจะได้มีโอกาสพูดกัน และคงไม่มีปัญหาอะไร ผมคิดว่าสถานการณ์คงจะผ่อนคลายลงในสองสามวันนี้” เอเอฟพีอ้างคำพูด รมว.กลาโหมของไทย

โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ของไทย พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว กล่าวในวันนี้ ว่า เกิดการปะทะที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหาร เมื่อเวลา 13.30 น.และดำเนินไปประมาณ 30 นาที ซึ่งฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาในแดนไทยด้วนปืนครกกับปืนใหญ่ทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงตอบโต้กลับ

ตอนค่ำวันเดียวกันการปะทะปะทุอีกรอบหนึ่งที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนกับปราสาทตาควาย สองฝ่ายยิงตอบกันด้วยปืนใหญ่

โฆษกกระทรวงกลาโหมไทย พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว กล่าวในวันนี้ ว่า เกิดการปะทะที่ชายแดนใกล้ปราสาทพระวิหารเมื่อเวลา 13.30 น.และดำเนินไปประมาณ 30 นาที ซึ่งฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาในแดนไทยด้วนปืนครกกับปืนใหญ่ทำให้ฝ่ายไทยต้องยิงตอบโต้กลับ

ตอนค่ำวันเดียวกัน การปะทะปะทุอีกรอบหนึ่งที่ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนกับปราสาทตาควาย สองฝ่ายยิงตอบกันด้วยปืนใหญ่

พล.อ.ประวิตร กับ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทย ได้รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารนี้ ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชามีเจตนาที่จะให้เกิดการปะทะรอบใหม่นี้โดยมีจุดประสงค์ที่จะดึงต่างชาติซึ่งเป็นฝ่ายที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ขณะที่มีรายงานทหารเสียชีวิตจำนวน 5 นาย รมว.กลาโหมของไทย กล่าวว่า ไทยได้ยิงโต้ตอบทหารกัมพูชาเป็นจำนวนหลายเท่าตัว ด้วยอาวุธที่เหนือกว่าทำให้ฝ่ายนั้นเสียชีวิตมากกว่าหลายเท่า และ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยไทยสามารถป้องกันอธิปไตยเอาไว้ แต่จะไม่รุกล้ำดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง
.

.
นายกษิต ให้สัมภาษณ์ออกรายการโทรทัศน์ช่อง 3 ในบ่ายวันเดียวกัน ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชาจงใจยิงเข้าใส่ทหารในระยะประชิดซึ่งเป็นการเริ่มการปะทะรอบใหม่ในวันศุกร์ และ ทำให้ทหารไทยเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นไทยได้ยิงตอบโต้กลับทุกครั้ง

นายกษิต กล่าวว่า เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ที่ไม่ให้นายทหารในระดับท้องถิ่นเจรจากับฝ่ายไทย เนื่องจากกัมพูชามีเจตนาที่จะให้สถานการณ์ลุกลามเพื่อเรียกร้องความสนใจจากต่างประเทศ

โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกคำแถลงอีกฉบับหนึ่งในวันอังคารนี้กล่าวถึงการปะทะในวันเดียวกัน โดยกล่าวหาฝ่ายไทยเช่นเคยว่าปืนใหญ่ 155 มม.ยิงเข้าไปในเขตที่มีราษฎรอยู่อาศัย และในกลางดึกวันจันทร์ที่ 25 เม.ย. เครื่องบินรบของไทยได้ “บินเหนือปราสาทตาเมือนกับปราสาทตากระเบย (ตาควาย) เพื่อยิงพลุ” ซึ่งเป็นการละเมิดน่าฟ้าของกัมพูชา

กระทรวงการต่างประเทศในกรุงพนมเปญ ได้ยืนยันบันทึกการทูตประท้วงผ่านสถานทูตไทย อ้างคำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาฉบับหนึ่งที่ออกในบ่ายวันจันทร์ กล่าวหาว่า ไทยได้ยิงปืนใหญ่เข้าไปในเขตที่มีราษฎรอยู่อาศัย

เพียงไม่นานหลังการปะทะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ประจำเดือน เม.ย.นี้ กล่าวหาว่า ไทยใช้เคร่าองบินในการโจมตีกัมพูชาเป็นครั้งแรก วันถัดมาโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลง กล่าวหาว่าไทยใช้ปืนใหญ่บรรจุกระสนแก๊สพิษยิงเข้าใส่กัมพูชา ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชายังไม่ได้ทำหนังสือหรือยื่นประท้วงต่อ UNSC อีกนับตั้งแต่นั้น ขณะที่หลายประเทศได้ออกเรียกร้องให้ทั้งไทยและกัมพูชาใช้ความอดทนและอดกลั้น หันหน้าเจรจากันเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติ

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.อ.เตียบัญ ให้สัมภาษณ์ในกรุงพนมเปญ และ ยังคงยืนยันที่จะไม่พบหารือกับฝ่ายไทย โดยกล่าวหาว่าไทยไม่มีความจริงใจและการการเจรจาสองฝ่ายไม่เคยประสบความสำเร็จ

คำกล่าวของ พล.อ.เตียบัญ ได้สะท้อนถึงคำกล่าวและวิธีคิด และของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ที่ตั้งใจอย่างยิ่งที่จะให้สหประชาชาติหรือฝ่ายที่สามเข้ามาช่วยแก้ปัญหา

นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในวันเดียวกันว่า ไทยได้แจ้งต่ออินโดนีเซียประธานกลุ่มอาเซียนแล้วว่า ไทยพร้อมจะให้คณะสังเกตการณ์ทหารอินโดนีเซียเข้าในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขว่ากัมพูชาจะต้องถอนทหารออกไปจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร