ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- กัมพูชากำลังรณรงค์ทางการทูตครั้งใหม่ เพื่อให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาจัดการปัญหาความขัดแย้งชายแดนกับไทย หลังการปะทะในวันศุกร์ 22 เม.ย.นี้ ไม่กี่ชั่วโมง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ได้ส่งสาส์นถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และประธานกลุ่มอาเซียน กล่าวหาว่า ไทยรุกรานกัมพูชาอีกครั้งโดยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่หลายขนาด
ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่กัมพูชา กล่าวหาว่า ไทยได้ใช้เครื่องบินในการโจมตีกัมพูชาด้วย ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า เหตุที่เกิดขึ้นไม่ใช่การปะทะด้วยกำลังทหารธรรมดาอีกต่อไป หากเป็น “สงคราม” ซึ่งกัมพูชาได้พยายามใช้คำนี้แจ้งต่อสหประชาชาติ มาตั้งแต่เดือน ก.พ.หลังการปะทะที่ชายแดนปราสาทพระวิหาร แต่ไม่มีฝ่ายใดเชื่อถือ
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เปิดแถลงข่าวในกรุงเทพฯ เวลาบ่ายวันเดียวกัน ระบุว่า ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลง และรุกล้ำเข้ามาในแดนไทยอย่างชัดเจน ทำให้ไทยต้องป้องกันอธิปไตยและปกป้องประชาชนตามหน้าที่ และ กระทรวงการต่างประเทศกำลังจะทำหนังสือประท้วงเช่นกัน
ดูเหมือนว่า การปะทะในวันศุกร์นี้ เป็นสิ่งที่ฝ่ายกัมพูชาจงใจจะให้เกิดขึ้น เพื่อดึงความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง หลังจากการประชุมที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ของคณะกรรมการชายแดนสองฝ่ายล้มเหลว การประชุมในระดับรัฐมนตรีกลาโหมไม่อาจจะจัดขึ้นได้ และคณะสังเกตการณ์การหยุดยิงจากอินโดนีเซีย ยังไม่สามารถเข้าประจำการตามแนวชายแดนได้
นายฮอร์ นัม ฮง รมว.กัมพูชา ได้แสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน ในการแถลงข่าวที่เมืองโบกอร์
ในสาสน์ลงวันที่ 22 เม.ย.2554 ที่ นายฮง ส่งถึง นายเนสตอร์ โอซอริโอ (Nestor Osorio) ประธานคณะมนตรีความมั่นคงประจำเดือน เม.ย.นี้ ได้กล่าวหาว่า ทหารไทยได้ใช้ปืนใหญ่ 105, 106 และ 155 มม.ยิงถล่มดินแดนกัมพูชาในเขตปราสาทตาเมือน (Ta Mone) กับตาควาย (Ta Krabey)
กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชาถึง 21 กม.ในเขตบ้านโคกมอน จ.อุดรมีชัย และ “เครื่องบินไทยได้บินล้ำน่านฟ้ากัมพูชา และกัมพูชาได้รับความเสียหาย เสียชีวิตและบาดเจ็บ เป็นจำนวนมากจากการโจมตี”
สาส์นอีกฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาคล้ายกันนี้ส่งถึง นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ผู้นำกลุ่มอาเซียนปีนี้
.
.
เป็นที่ชัดเจนว่า กัมพูชากำลังพยายามที่จะให้สหประชาชาติเห็นความรุนแรงของสถานการณ์และส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าประจำการตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย หลังจากได้พยายามอย่างยิ่ง ทำให้การปะทะที่ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร ในช่วงต้นเดือน ก.พ.ปีนี้ ให้ดูมีความรุนแรงใหญ่โต แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวหาว่า การกระทำของฝ่ายไทยขัดต่อเอกสารและคำแถลงต่างๆ ที่ออกโดย นางมาเรีย ลูยซา ริเบโร วิออตติ ผู้ทำหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคง (UN Security Council) ในเดือน ก.พ.รวมทั้งคำแถลงของประธานอาเซียนที่ออกหลังการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวันที่ 22 เดือนเดียวกัน ในกรุงจาการ์ตา
นายฮง ยังกล่าวหาฝ่ายไทยในอีกหลายเรื่อง รวมทั้งการหลบเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของ UNSC ที่มอบหมายให้อินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนจัดประชุมหลายฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ขณะที่ไทยพยายามแก้ไขความขัดแย้งแบบทวิภาคี ซึ่งไม่เคยได้ผล
ความพยายามของรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ยังได้สะท้อนออกมาทางสื่อของรัฐ ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ สำนักข่าวเอเคพี ซึ่งเป็นของกระทรวงแถลงข่าว ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ความคิดเห็นและงานเขียนของบรรดานักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ของกัมพูชาหลายคน ที่ออกกล่าวหาไทยต่างๆ นานา และเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยจัดการกับ “การก้าวร้าวรุกราน” ของไทย
การปะทะซึ่งดูเหมือนว่า ฝ่ายกัมพูชาประสงค์จะให้เกิดขึ้นนี้ ยังเกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนที่นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) จะเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 23-24 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สื่อออนไลน์ของประชาคมชาวเขมรในต่างแดน ได้โหมกดดันให้รัฐบาลฮุนเซนแข็งขืน ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามเวียดนามในการปักปันเขตแดนทางด้านตะวันออก
พรรคฝ่ายค้านในกัมพูชา คือ พรรคสมรังสี กล่าวว่า รัฐบาลฮุนเซนทำให้ประเทศสูญเสียดินแดนให้แก่เวียดนามไปอย่างมากมายในช่วงหลายปีมานี้ และในเดือน ก.พ.กัมพูชายังได้ตกลงตามความต้องการของเวียดนาม ใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ในการปักปันเขตแดนสองประเทศ ขณะที่ยืนกรานใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ในการปักปันเขตแดนกับไทย ที่เป็นปัญหา
การสูญเสียดินแดนทางชายแดนตะวันออกเป็นสิ่งที่รัฐบาลฮุนเซน ได้พยายามปิดบัง และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดแก่สาธารณชนมาโดยตลอด
การปะทะที่ชายแดนไทยในวันศุกร์นี้ กำลังจะทำให้ปัญหาที่ชายแดนด้านเวียดนามไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป อย่างน้อยก็ในขณะผู้นำจากกรุงฮานอยอยู่เยือนกรุงพนมเปญ
.
.
ระหว่างการเยือนครั้งนี้ นายกฯ เวียดนามจะเป็นประธานการประชุมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนของเวียดนามในกัมพูชาด้วย หนังสือพิมพ์กวานโดยเญินซเวิน (Quan Doi Nhan Dan) หรือ "กองทัพประชาชน" ของเวียดนามรายงาน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีทหารไทยเสียชีวิตอย่างน้อย 2 นายจากการปะทะที่บริเวณปราสาทตาควาย อีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับ "ความสูญเสีย" ที่กัมพูชาระบุในสาส์นที่ส่งถึงประธาน UNSC
ในขณะเดียวกัน การปะทะที่ชายแดนครั้งนี้ยังอาจจะมี พล.ต.ฮุนมาเนต บุตรชายคนโต นายพลวัย 33 ปี เข้าไปมีบทบาทด้วยเช่นเคย ในภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ และ เอเอฟพี ฮุนมาเนตได้เข้าร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในกรุงพนมเปญ
ฮุนมาเนตสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสท์พอยต์ สหรัฐฯ และ สำเร็จปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ได้รับการประดับดาวบนบ่าดวงที่ 2 ในเดือน ม.ค.ปีนี้ ขึ้นเป็นนายพลตรีอายุน้อยที่สุดของกองทัพ
นอกจากนั้นยังได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ผู้นำคือ บิดากับคณะบุคคลที่กุมอำนาจในประเทศนี้มานานเกือบ 30 ปีจนถึงปัจจุบัน
หลังการปะทะที่ชายแดนพระวิหารในเดือน ก.พ. นายกฯ กัมพูชาฮุนเซน กล่าวว่าบุตรชาย ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสถานการณ์ต่างๆ ตามแนวชายแดนไทยด้วย.