ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุนเซน ได้เรียกร้องในวันจันทร์ 14 มี.ค.ให้อินโดนีเซียรีบส่งทหารสังเกตการณ์เข้าประจำชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยอ้างว่าสถานการณ์ที่นั่นยังคงมีความอ่อนไหว ทั้งยังแสดงความหวังว่าทหารกัมพูชา กับทหารไทย จะใช้ความอดทนอดกลั้นต่อไป
ฮุนเซน ระบุดังกล่าวในการปราศรัย พิธีมอบปริญญาบัตรแด่บัณฑิตจบใหม่ของมหาวิทยาลัยรอยัล พิธีจัดขึ้นที่สถาบันการศึกษาแห่งชาติ สำนักข่าวเอเคพีของทางการกล่าว
ขณะเดียวกัน กัมพูชาเตรียมการพร้อมแล้วที่จะประชุมพบปะในระดับรัฐมนตรีกลาโหม และคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนทางบกกับฝ่ายไทย ที่จะจัดขึ้นในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ ฮุนเซน กล่าว
ผู้นำกัมพูชา เปิดเผยต่อที่ชุมนุมด้วยว่า กัมพูชากำลังดำเนินการสองทางคู่ขนานกันไป และได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นดำเนินการ 2 ชุด ใน 2 เรื่อง คือ คณะกรรมการประสานงานคณะสังเกตการณ์อาเซียน ที่นำโดย พล.อ.เตียบัญ รมว.กลาโหม และคณะกรรมการว่าศาลระหว่างประเทศ ที่นำโดย นายฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศ บุคคลทั้งสองยังเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
ฮุนเซน ประกาศก่อนหน้านี้ ว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นคำร้องและเสนอเอกสารต่างๆ ต่อศาลโลกในกรุงเฮก เพื่อให้ตีความคำพิพากษาปี 2505 ว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบๆ ปราสาทพระวิหารได้ตกเป็นของกัมพูชาพร้อมกับปราสาทเก่าแก่ด้วยหรือไม่
หลังจากศาลระหว่างประเทศพิพากษาให้ปราสาทพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา รัฐบาลไทยสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ระบุว่า ไทยพร้อมปฏิบัติตามการตัดสิน ขณะเดียวกัน ก็ได้ยื่นต่อศาลโลกได้ยื่นต่อศาล ขอสงวนสิทธิ์เหนือดินแดนรอบๆ ปราสาทพระวิหาร
ในเวลาต่อมา พ.อ.ดร.ถนัด คอมันตร์ รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ยังได้ขอให้ศาลโลกบันทึกคำร้องของไทยอย่างเป็นทางการ และยังประกาศว่าไทยขอสงวนสิทธิ์ในการทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต
พื้นที่รอบๆ ปราสาทพระวิหาร ยังไม่มีความกระจ่างมาตั้งแต่นั้น ในขณะที่ทั้งไทยและกัมพูชาต่างกล่าวอ้างความเป็นเจ้าของ และช่วงปีหลังๆ นี้ ไทยได้ปล่อยให้กัมพูชาตัดถนนขึ้นเขา สร้างวัด และนำราษฎรอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในพื้นที่โดยรอบ