xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มพิธีศพ “วังปาว” หลังสหรัฐฯ ไม่ให้ฝังสุสานวีรชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033O>ทหารผ่านศึกชาวลาวม้งยืนเรียงรายต่อหน้าภาพถ่ายของนายพลวังปาว ในพิธีศพที่เริ่มขึ้นวันพฤหัสบดี 3 ก.พ. ที่ศูนย์ประชุมแห่งหนึ่งในเมืองเฟรสโน ทางตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนียฯ  สมาคมทหารผ่านศึกลาวในสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา อนุญาตให้ฝังศพนายพลผู้โด่งดังนี้ในสุสานวีรชนแห่งชาติอาร์ลิงตัน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ พิธีศพจะดำเนินไปเป็นเวลา 6 วัน.-- AFP PHOTO/Mark Ralston. </font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ถึงวันนี้ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ต่อการรณรงค์เรียกร้องของเหล่าทหารผ่านศึกชาวลาวม้ง ที่ขอให้ฝัง พล.ต.วังปาว อดีตผู้บัญชาการกองทัพลับๆ ของสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม ไว้ในสุสานอาร์ลิงตัน (Arlington) ร่วมกับทหารคนอื่นๆ ที่สละชีพเพื่อป้องกันประเทศสหรัฐอเมริกา

สมาชิกครอบครัวของนายพลผู้อื้อฉาวกับกับสมาคมทหารผ่านศึกลาวแห่งอเมริกา หรือ LVA (Lao Veterans of America) เริ่มทำพิธีศพในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาในเมืองเฟรสโน ทางตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย อันเป็นศูนย์กลางของชาวลาวม้งกว่า 250,000 คนที่อาศัยทำกินในสหรัฐฯ

นายวังยี หว่าง (Wangyee Vang) ที่เคยร่วมรบกับ พล.ต.วังปาว ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานสมาคมทหารผ่านศึกลาวในสหรัฐฯ กล่าวว่า นายพลผู้นี้ได้อุทิศตนอย่างยิ่งในการปกป้องสหรัฐฯ จึงสมควรที่จะได้รับเกียรติในวาระสุดท้ายของชีวิต คือฝังร่างไว้ในสุสานวีรชนแห่งชาติ

พิธีศพกำลังจะดำเนินไปเป็นเวลา 6 วันที่ศูนย์การประชุมแห่งหนึ่งในเมืองเฟรสโน ซึ่งเชื่อว่าจะมีชาวม้งหลายพันคนไปร่วมพิธี ขณะที่ยังไม่มีคำตอบใดๆ จากทางการสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนว่าตัดขัดในข้อกฎหมายหลายประการ รวมทั้งด้านนโยบายด้วย

นายหว่างกล่าวในพิธีวางหรีดที่จัดขึ้นในวันอังคาร 1 ก.พ.ว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จำนวน 23 คน สนับสนุนข้อเรียกร้องของ LVA เห็นสมควรอนุญาตให้ฝังนายพลวังปาวที่สุสานอาร์ลิงตัน

"เนื่องจากนายพลวังปาวได้เข้ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ทหารสหรัฐฯ จำนวนมากจึงรอดชีวิตและปลอดภัยจากปฏิบัติการกู้ภัยโดยกองทัพลับๆ ของสหรัฐ"

นายหว่างหมายถึงกองทัพที่มีกำลังพลนับหมื่นคน ที่องค์การสืบราชการลับซีไอเอจัดตั้งขึ้นในลาวในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 โดยมีนายพลวังปาวแห่งกองทัพฝ่ายราชอาณาจักรลาวเป็นผู้บัญชาการ ในภารกิจต่อต้านและขัดขวางการรุกของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในดินแดนลาว

ในข้อเท็จจริงกองทัพของวังปาวไม่ได้ต่อสู้กับฝ่ายขบวนการปะเทดลาวเท่านั้น หากยังต่อสู้กับทหารเวียดนามนับหมื่นๆ ด้วย

"นายพลวังปาวจะได้รับการจดจำตลอดไปสำหรับการปฏิบัติหน้าที่อันยอดเยี่ยมในการป้องกันอิสรภาพและประชาธิปไตยระหว่างสงครามเวียดนาม" นายหว่างกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

All Accompanying Photos by Mark Ralston, AFP.

2

3

4

เกิดในแขวงเชียงขวาง ในครอบครัวชาวนายากจน นายพลวังปาวได้รับการฝึกจากกองทัพฝรั่งเศส เพื่อทำสงครามต่อต้านการรุกรานของกองทัพญี่ปุ่นในลาว ต่อมาเข้ารับราชการ จนกระทั่งกลายเป็นชาวม้งคนแรกของประเทศที่ได้รับพระราชทานยศชั้นเป็นนายพลตรีในกองทัพฝ่ายรัฐบาล

ถึงแม้รัฐบาลลาวปัจจุบันจะกล่าวว่า นายพลวังปาวไม่ได้มีค่ามีความหมายใดๆ ต่อชาวลาวในประเทศ และยังมีประวัติการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ พัวพันกับการค้ายาเสพติด และเป็นอาชญากร ชาวลาวเผ่าม้งรุ่นใหม่เกือบจะไม่มีผู้ใดรู้จักชื่อนี้แล้วก็ตาม แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธว่า นายพลผู้นี้เป็นอีกตำนานหนึ่งในสงครามในดินแดนลาว

ในการประชุมชำระประวัติศาสตร์ "บั้นรบกู้เกียรติแขวงเชียงขวาง” ปลายปีที่แล้วระหว่างลาวกับเวียดนาม พล.ท.สะหมาน วิยะเกด กรมการเมือง ผู้ชี้นำงานทฤษฎีและอุดมการณ์ พรรคประชาชนปฏิวัติลาวกล่าวว่า สมรภูมิรบแขวงเชียงขวางเป็นการสู้รบขนาดใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 แห่งในช่วงสงครามในลาว

ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบันมีการส่งมอบอัฐิกับสิ่งของเครื่องใช้ของทหารเวียดนามที่เสียชีวิตในการสู้รบ จากพื้นที่แขวงเชียงขวางกับแขวงเวียงจันทน์ที่อยู่ติดกันกลับประเทศแล้วเกือบ 5,000 คน ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันการสู้รบอันรุนแรงได้อย่างดี และการค้นหาก็ยังคงดำเนินต่อไป

พล.ต.วังปาว ถึงแก่กรรมในวันที่ 6 ม.ค.หลังล้มป่วยมานานข้ามปี

เมื่อรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรลาวที่สหรัฐฯ หนุนหลังถูกโค่นลงโดยฝ่ายขบวนการปะเทดลาวในปลายปี 2518 นายพลวังปาวได้เดินทางจากลาวไปยังสหรัฐฯ และ ได้รับการยกย่องจากชาวม้งฐานเป็นผู้นำในการเจรจาให้ชาวม้งนับแสนๆ คนได้เข้าไปตั้งถิ่นฐานในสหรัฐฯ จนกระสบความสำเร็จ

ในช่วงปีหลังสงครามนายพลผู้นี้ถูกกล่าวหาว่า ยังคงเคลื่อนไหวเก็บรวบรวมเงินทุนจากชาวม้งเพื่อซื้ออาวุธและส่งไปสนับสนุนปฏิบัติการของกองโจรต่อต้านรัฐบาลในลาว แม้ว่าหลายปีมานี้ทางการลาวจะปฏิเสธว่า ไม่มีกองกำลังต่อต้านใดๆ เหลืออยู่อีกแล้วก็ตาม

ในเดือน มิ.ย.2550 นายพลวังปาวถูกจับกุมในแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับคนอื่นๆ อีก 8 คน หลังจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอแฝงตัวเข้าไปเจรจาเสนอขายอาวุธให้ในร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง ทางการส่งฟ้องศาลฐานปฏิบัติการพยายามโค่นล้มรัฐบาลลาว

ต่อมาในปี 2552 อัยการศาลรัฐแคลิฟอร์เนียได้ถอนการฟ้องร้องนายพลวังปาว และ หลังจากนายพลผู้นี้ถึงแก่กรรม ศาลได้สั่งปล่อยผู้ต้องหาชาวม้งคนอื่นๆ อีกรวมทั้งหมด 11 คน หลังจากพบว่าฝ่ายอัยการมีหลักฐานไม่เพียงพอ.

สหายร่วมรบ

5

6
กำลังโหลดความคิดเห็น