.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ภาพที่สำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งเผยแพร่ในวันศุกร์ 28 ม.ค.นี้ ได้เปิดเผยให้เห็นบุตรชาย 2 คน ของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ปรากฏตัวในสถานที่แห่งหนึ่งที่น่าเชื่อว่าเป็นวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ บนเขาพระวิหารใกล้กับปราสาทเก่าแก่ นายทหารยศพลตรีกับพลจัตวาทั้งสองคนในภาพ กำลังร่วมประชุมกับ รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชาคนหนึ่ง แม่ทัพภาค และ นายทหารระดับผู้บัญชาการกองพลในพื้นที่อีก 1 นาย
การพบปะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี 27 ม.ค.หรือ 1 วันหลังจาก พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร นำทหาร 20 นายอาวุธครบมือ ขึ้นไปยังวัดแก้วฯ ประชุมเจรจากับ พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา และ พล.ท.สเรย์เดิ๊ก แม่ทัพภาค 4 ซึ่งทำให้ฝ่ายกัมพูชายอมทำลายแผ่นป้ายหินที่มีข้อความ “ที่นี่! กัมพูชา” ในที่สุด และทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยเรียกร้องในวันต่อมา ขอให้ฝ่ายกัมพูชาถอนธงชาติออกจากบริเวณวัดด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศในกรุงพนมเปญ ได้ออกคำแถลงในบ่ายวันศุกร์ 28 ม.ค.นี้ หรือเพียงข้ามวันต่อมา ปฏิเสธที่จะดำเนินการตามคำเรียกร้องของผู้นำไทย โดยระบุว่าวัดดังกล่าวอยู่ในดินแดนกัมพูชา
คำแถลงระบุว่า ข้อเรียกร้องของนายกฯ ไทย “ไม่อาจยอมรับได้” และ กัมพูชาขอปฏิเสธการเรียกร้องที่ “ดูหมิ่นดูแคลน” ดังกล่าว ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ของรัฐบาลกัมพูชา
“ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ควบคู่ไปกับการซ้อมรบทางทหารของไทยที่ชายแดนติดกัมพูชานั้นเป็นการยั่วยุอย่างชัดเจน เพื่อนำไปสู่การรุกรานกัมพูชาในขั้นต่อไป” และ “กัมพูชาทรงไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมที่จะป้องอธิปไตยและบูรณภาพในดินแดนของตน” คำแถลงระบุ
กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้อ้างแผนที่ที่จัดทำโดยคณะกรรมาธิการฝรั่งเศส-สยาม ในปี 1905 และ 1908 กับวัดแก้วคีรีสวรักษ์ ที่สร้างขึ้นโดยประชาชนกัมพูชา เมื่อปี 1998 วัดจึงตั้งอยู่ในดินแดนกัมพูชา “ดังนั้น ธงของกัมพูชาจึงมีสิทธิ์โดยชอบที่จะโบกอยู่เหนือวัดแห่งนี้”
กระทรวงนี้ถูกระบุว่า เป็นผู้สั่งให้ติดตั้งแผ่นป้ายหินที่มีข้อความประณามทหารไทย ว่า “ผู้รุกราน” กับแผ่นป้าย “ที่นี่! กัมพูชา” ที่บริเวณวัดแก้วฯ แต่ทั้งหมดได้ถูกทำลายลงไปหลังจากฝ่ายไทยแสดงความไม่พอใจ
พ.อ.ฤทธิ์ สิตถา (Reth Sitha) รองเสนาธิการกองกำลังอารักขานายกรัฐมนตรีฮุนเซน และ ผู้บังคับหน่วยรถถัง กล่าวเมื่อวันศุกร์เช่นกันว่า กัมพูชาได้เริ่มเสริมกำลังเข้าชายแดนด้านปราสาทพระวิหารอีกครั้ง
.
2
ส่วนสำนักข่าวแคมโบเดียเอ็กซ์เพรส (Cambodia Express News) รายงานว่า วันพฤหัสบดี (27 ม.ค.) ที่ผ่านมา ทหารไทยจำนวนมากทำการซ้อมรบใกล้กับปราสาทตาควาย ที่ชายแดนด้าน จ.อุดรมีชัย ทางตะวันตกของเขาพระวิหาร
ก่อนหน้านั้น ในคืนวันพุธ ทหารไทยอีกราว 100 นาย อาวุธครบมือได้เข้าไปยังบริเวณปราสาทตาเมือน และอยู่ที่นั่นประมาณ 2 ชั่วโมง จึงถอนออกไป หลังจากฝ่ายกัมพูชาทักท้วง ว่า ผิดข้อตกลงที่จะต้องไม่มีทหารของฝ่ายใดประจำที่นั่น CEN รายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าว
สำนักข่าวภาษาเขมรแห่งนี้ ยังรายงานอีกว่า ตอนเช้าวันพฤหัสบดี กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้สั่งให้เคลื่อนรถถังและอาวุธหนักไปยัง “ชายแดนตอนเหนือ” แต่ไม่ใช่การเคลื่อนกำลังทหาร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันชายแดนที่กำลังถูกไทยคุกคาม
สำนักข่าว CEN รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหม ซึ่งระบุว่า ทหารทุกหน่วยตามแนวชายแดนได้รับคำสั่งเตรียมพร้อม หลังจากไทยได้เสริมกำลังทหารเข้าชายแดนพร้อมอาวุธหนักนานาชนิดในสัปดาห์นี้
ในภาพที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของ CEN ได้แสดงให้เห็น พล.ต.ฮุนมาเนต บุตรคนโต กับ พล.จ.ฮุนมณี บุตรคนที่ 2 นั่งประชุมพิจารณาแผนที่ร่วมกับ พล.อ.เจียดารา พล.ท.สเรย์เดิ๊ก กับนายทหารยศพลตรีอีกผู้หนึ่ง
บรรยายภาพระบุแต่เพียงว่าเป็นการประชุมซักซ้อมเกี่ยวกับแผนที่ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยไม่ได้ระบุสถานที่ แต่สภาพแวดล้อมทำให้เชื่อว่าจะเป็นบริเวณภายในวัดแก้วฯ ในเขตแดนพิพาทสองฝ่ายขณะนี้
นั่นคือ 1 วันหลังจากฝ่ายกัมพูชายอมทุบแผ่นป้ายหินแผ่นที่ 2
ฮุนมาเนต เรียนสำเร็จจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยท์ สหรัฐฯ ได้รับเลื่อยยศชั้นเป็น “นายพลตรี” เมื่อต้นเดือนนี้ ปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการกองพล 70 ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธทันสมัยต่อต้านการก่อการร้าย และยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังคุ้มครองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบิดาอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
ได้เขี้ยวเล็บใหม่ไม่เหมือนเดิม
.
3
4
5