ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เลือกคณะกรรมการกลางพรรคชุดใหม่จำนวน 200 คน ในวันจันทร์ 17 ม.ค.นี้ และในคราวเดียวกันได้ลงคะแนนเลือกสมาชิกสำรองอีก 25 คน เข้าสู่คณะกรรมการกลางซึ่งเป็นองค์กรบริหารกลางของพรรค
มีผู้สมัครรับเลือกเป็นกรรมการกลางพรรคทั้งหมด 218 คน และ 61 คน สำหรับตำแหน่งกรรมการสำรอง การหย่อนบัตรยุติลงเมื่อเวลา 17.30 น.และการนับคะแนนเริ่มขึ้นในทันที จะมีการประกาศผลในเช้าวันอังคาร 18 ม.ค.ศกนี้ สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสภาษาเวียดนาม กล่าว
คณะกรรมการกลางพรรคชุดใหม่ซึ่งจะเป็นชุดที่ 12 กำลังจะเลือกคณะกรรมการกรมการเมือง องค์กรบริหารที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของพรรคประกอบด้วยสมาชิก 17 คน และเลือกคนหนึ่งในนั้นขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของพรรค
ในวันที่ 19 ม.ค.เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคนใหม่ จะเรียกประชุมคณะกรรมการกลางชุดใหม่เต็มคณะเป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีวาระการเลือกตั้งคณะกรรมการและประธานคณะกรรมาธิการเฉพาะอีกหลายชุดซึ่งจะปฏิบัติงานตลอดสมัย 5 ปีข้างหน้า
พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ใช้วิธีการดั้งเดิมในการเลือกตั้งองค์กรบริหารสูงสุดของพรรค แม้ว่าระเบียบการใหม่ของพรรคที่ได้รับการแก้ไขเมื่อปีที่แล้วจะเปิดกว้างให้ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่เลือกตั้งเลขาธิการใหญ่จากผู้สมัครได้โดยตรงก็ตาม
มีการเปิดเผยประเด็นนี้เป็นครั้งแรกในการแถลงข่าววันที่ 11 ม.ค.โดยคณะกรรมการโฆษณาและอบรมศูนย์กลาง กับคณะกรรมการจัดตั้งศูนย์กลางพรรค
พรรคคอมมิวนิสต์เปิดการประชุมใหญ่ผู้แทนทั่วประเทศครั้งที่ 11 หรือ สมัชชาพรรครั้งที่ 11 ในวันพุธที่ 13 ม.ค.ซึ่งที่ผ่านมามีการนำเสนอและประชุมพิจารณารายงานของการประชุมหลายฉบับ รวมทั้งรายงานเศรษฐกิจและรายงานการเมืองของคณะกรรมการกลางชุดปัจจุบันพิจารณานโยบายกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5-10 ปีข้างหน้า
การประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 11 จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 19 ม.ค.ศกนี้
เชื่อกันว่า ในการเลือกตั้งที่เพิ่งจะผ่านมานี้ มีการเลือกคนรุ่นหนุ่มสาวที่มีการศึกษาดีและได้รับการบ่มเพาะมาดีเข้าสู่คณะกรรมการกลางพรรคชุดใหม่เป็นจำนวนมาก สมัชชาครั้งที่ 10 ในปี 2549 ได้เลือกเอาคนหน้าใหม่เข้าพรรคครึ่งต่อครึ่ง
นักสังเกตการณ์ได้จับตามองไปยังกรมการเมือง 3 คน สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะได้เห็นในวันอังคารนี้ โดยเชื่อกันว่านายนงดึ๊กแหม่ง (Nong Duc Manh) เลขาธิการพรรควัย 70 ปี จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งและเกษียณตัวเอง หลังจากอยู่ในตำแหน่งมา 2 สมัย รวม 10 ปี
ตัวเก็งสำหรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดพรรคคอมมิวนิสต์คนใหม่ รวมทั้ง นายเหวียนฝูจอง (Nguyen Phu Trong) ประธานรัฐสภาวัย 67 ปี อดีตเลขาธิการพรรคสาขากรุงฮานอย กับ นายเจืองเติ่นซาง (Truong Tan Sang) วัย 61 ปี กรรมการถาวรคณะเลขาธิการกลางพรรค อดีตประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจศูนย์กลางพรรค และอดีตเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า หนึ่งในสองคนอาจจะต้องขึ้นเป็นประมุขแห่งรัฐแทนนายนายเหวียนมีงเจี๊ยต (Nguyen Minh Triet) ซึ่งปัจจุบันอายุ 69 ปี ซึงคาดว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกสมัย เมื่อรัฐสภาชุดใหม่เปิดประชุม หลังการเลือกตั้งเดือน พ.ค.ศกนี้
นอกจากนั้น กรมการเมืองคนใดคนหนึ่งในชุดใหม่ จะต้องขึ้นเป็นประธานรัฐสภา ในกรณีที่นายจ่องต้องขึ้นเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคหรือเป็นประมุขแห่งรัฐ ซึ่งตำแหน่งสำคัญต่างๆ เหล่านี้ ล้วนสงวนไว้สำหรับกรมการเมืองอาวุโส
นักวิเคราะห์ยังจับตาไปที่ นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Dung) นายกรัฐมนตรีวัย 61 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับเลือกให้อยู่ในตำแหน่งเดิมต่อไปอีกสมัยเมื่อรัฐสภาชุดใหม่เลือกตั้งผู้นำรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
แต่ลำดับอาวุโสในกรมการเมือง ที่จะเลือกกันในวันอังคารนี้จะเป็นเครื่องชี้อนาคต
