xs
xsm
sm
md
lg

พระเอก Transformer เล่นหนังใหม่ “สังหารหมู่ที่หมีลาย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#000033>โอลิเวอร์ สโตน กับ</font><FONT color=#3366ff> ไชอา ลาบูฟ</font> จับมือกัน เพื่อทำให้ หมู่บ้านพื้นที่สีชมพู หรือ PinkVille อันหมายถึงหมู่บ้านหมีลาย (My Lai) ที่เกิดเหตุสังหารหมมู่สะเทือนขวัญเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ถูกรื้อฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง.</font>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ผู้สร้างและผู้กำกับชื่อดังแห่งฮอลลีวูด ตัดสินใจปัดฝุ่นแผนการสร้างภาพยนตร์ PinkVille อีกครั้งหนึ่งหลังจากเลื่อนมานานถึง 3 ปี และเลือก ไชอา ลาบูฟ (Shia LaBeouf) ให้รับบทเรืออากาศโท ฮิวจ์ ธอมป์สัน (Hugh Thanpson) นักบินเฮลิคอปเตอร์วีรบุรุษในเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวเวียดนามที่หมู่บ้านหมีลาย (My Lai) จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ที่เคยเป็นกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับสหรัฐฯ และช่วยปลุกกระแสต่อต้านสงครามในเวียดนามขึ้นในทั่วโลก

ลาบูฟเพิ่งประสบความสำเร็จงดงามจากภาพยนตร์ “วอลล์สตรีท 2” (Wall Street 2: Money Never Sleeps) แต่แฟนๆ ทั่วโลกรู้จักเขาดีกว่านี้จาก “ทรานสฟอร์เมอร์” (Transformer) ทั้ง 2 ภาค

"พิงค์วิลล์" เป็นรหัสที่ทหารอมเริกันในสงครามเวียดนามใช้เรียกชุมชน "พื้นที่มีชมพู" ซึ่งหมายถึงเขตที่มีกองกำลังของกองโจรคอมมิวนิสต์เวียนดนามเหนือกับเวียดกงแทรกซึม

ภาพยนตร์ “หมู่บ้านพื้นที่สีชมพู” จะผูกเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่โลกรู้จักกันในชื่อ “การสังหารหมู่ที่หมีลาย” (My Lai Massacre) ที่เกิดขึ้นในวันที่ 16 มี.ค.2511 นักบินเฮลิคอปเตอร์ ได้เป็นประจักษ์พยานเหตุการณ์ที่ทหารอเมริกันสังหารชาวเวียดนาม 300-500 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และสตรีกับคนสูงอายุที่ไม่มีอาวุธ

นักบินคนดังกล่าวของกองทัพบกสหรัฐฯ ได้ร่อนเฮลิคอปเตอร์ของเขาลงลอยอยู่เหนือระดับพื้น หันปืนไปยังเพื่อทหารที่กำลังตามล่าชาวบ้านเวียดนามอย่างเมามัน ทำให้การสังหารหมู่ยุติลง เขาสามารถช่วยชีวิตชาวบ้านเอาไว้ได้อีกนับร้อย และนำผู้เคราะห์ร้ายจำนวนหนึ่งออกจากที่เกิดเหตุด้วย

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กับทำเนียบขาว ได้ปกปิดกรณีสังหารหมู่ที่หมีลายเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี จนกระทั่งในเดือน พ.ย.2512 ชาวอเมริกันจึงได้รับทราบข่าวปฏิบัติการสยองนี้ และถูกเปิดโปงออกมาทั้งหมด ซึ่งได้ทำให้ขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามในสหรัฐฯ แผ่ลามอย่างกว้างขวาง นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพจากทั่วโลกได้ตื่นตัวขึ้นเป็นพลังหนุนเนื่อง

แต่กว่าสงครามเวียดนามจะสิ้นสุดลงก็ปี 2518

เมื่อเรื่องราวอันมืดดำถูกเปิดเผยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยมีนายทหารระดับพลตรีเป็นประธานกรรมการ ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนสโตนประกาศว่า บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) จะเป็นผู้รับบทนี้

สโตนประสบความสำเร็จอย่างงามจากภาพยนตร์ เรื่อง Platoon ซึ่งแสดงให้เห็นฆาตกรรมหมู่ชาวเวียดนามที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งโดยทหารอเมริกัน เพียงแต่ว่ากรณีที่หมีลายนั้นเป็นเหตุการณ์จริง และน่าสลดหดหู่ยิ่งกว่า

เมื่อสร้างแล้วเสร็จ PinkVille ก็จะเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามเวียดนามเรื่องที่ 4 ของสโตน นับตั้งแต่ Platoon, Born on the Fourth of July และ Heaven & Earth

หนังเรื่องใหม่จะออกมาเป็นแนวดราม่าสงคราม ลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน ซึ่งแน่นอนจะต้องมีการเมืองเป็นภูมิหลังด้วย และในภาพยนตร์สงครามเวียดนามทุกเรื่อง สโตนไม่เคยพลาดที่จะกระแหนะกระแหนนโยบายกลาโหมของสหรัฐฯ
<bR><FONT color=#000033>ภาพจาก livinghistory.edublogs.org นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันรุ่นใหม่ ไปเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานกรณีสังหารหมู่ที่บ้านหมีหลาย (My Lai) จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) ประวัติศาสตร์หน้านี้ไม่ลบเลือนไปง่ายๆ. </font>
 <bR><FONT color=#000033>ชาวบ้านนอนตายเกลื่อนในท่องร่องและตามทางเดินแคบๆ นอกหมู่บ้านหมีลาย (My Lai) จ.กว๋างหงาย (Quang Ngai) เป็นภาพที่ติดตา ติดในความทรงจำและคอยหลอกหลอนวิญญูชนอเมริกันมานานกว่า 4 ทศวรรษ. </font>
แต่เดิม PinkVille มีกำหนดถ่ายทำในเดือน ธ.ค.2550 สโตนเลือก แชนนิง ทาทัม (Shanning Tatum) นักแสดงหนุ่มที่อนาคตไกล (GI Joe และ Dear John) รับบทผู้หมวดธอมป์สัน แต่ชื่อไชอาก็มีอยู่ในลิสต์ด้วย และเลือก ไมเคิล พีนญา (Michael Pena) เป็น ร.อ.เออร์เนสต์ เมดดินา (Ernest Medina) ผู้บังคับกองร้อย ซึ่งเป็นผู้สั่ง “ค้นหาและทำลาย” ที่หมู่บ้านหมีลาย

สภาพการณ์ในครั้งโน้นคือ หมู่บ้านแห่งนั้นต้องสงสัยว่าเป็นแหล่งหลบซ่อนของกองโจรพวกเวียดกง ผู้นำทีมออกปฏิบัติการ “ค้นหาและทำลาย” ที่หมีลาย คือ จ่าวิลเลียม แคลลีย์ (William Cally) ซึ่งสั่งให้ทหารกวาดต้อนชาวบ้านลงไปในคูน้ำก่อนจะสั่งทหารยิงกราดด้วยปืนกล

ยศสุดท้ายของเขาเมื่อขึ้นศาลทหารคือ ร้อยโทของกองทัพบก

การสังหารหมู่ที่หมีลายเป็นกรณีที่สะเทือนจิตวิญญาณความรู้สึกของวิญญูชนในสหรัฐฯ ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่าง “พวกใช้สมอง” กับ “พวกใช้กำลัง” ในกองทัพ เกิดการดูถูกดูแคลนระหว่าง ทหารที่จบจากโรงเรียนนายร้อย กับพวก “ฮาร์วาร์ด” หรือ ทหาร “ปัญญาชน” ที่เรียนสำเร็จจากสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ

หลายฝ่ายกล่าวว่า ถ้าหากให้ “พวกฮาร์วาร์ด” บัญชาการรบที่หมีลาย ก็อาจจะไม่เกิดการสังหารหมู่สะเทือนขวัญขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม คดีฆาตกรรม จบลงแบบไม่เป็นที่สบอารมณ์ของหลายฝ่าย เนื่องจากศาลทหารกล่าวว่ามีหลักฐานภาพถ่ายและประจักษ์พยานเพียงพอที่จะเอาผิดกับ ร.ท.แคลลีย์ เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาถูกจำคุกไม่กี่ปีก็ได้รับอภัยโทษ

อีก 39 ปีต่อมา คือ เมื่อปี 2551นายทหารผู้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชารัวกระสุนสังหารชาวบ้านหมีลาย จึงได้กล่าวแสดงความ “เสียใจ” ต่อสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป

สโตน กล่าวกับสื่อในสหรัฐฯ ว่า เหตุการณ์ประท้วงของบรรดานักเขียนบทภาพยนตร์ฮอลลีวูดเมื่อปี 2550 ทำให้โครงการหยุดชะงักลง แต่เขากำลังมองหาทำเลในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเปิดกล้องให้ได้ในปีนี้หรือต้นปีหน้า เพื่อออกฉายในปี 2556
กำลังโหลดความคิดเห็น