xs
xsm
sm
md
lg

"เขียวขี้เมา" ตาปรือแก้ต่าง ออกขุ่นๆ "ฮุนเซน" เปล่าแช่ง "อภิสิทธิ์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#3366ff>ภาพตัดต่อโดยเว็บไซต์ภาษาเขมรแห่งหนึ่ง สำทับการกล่าวหาของรัฐบาลที่ว่า ทหารไทยรุกราน แต่สำหรับ นักรบชุดดำ ของไทย การเข้าไปในเขตแดนพิพาทคือ การพิทักษ์และปกป้องอธิปไตยของชาติ หลังจากฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างเป็นเจ้าของดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหาร  </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีกระทรวงแถลงข่าวกัมพูชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เคยก่นด่าหรือสาปแช่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย และวิงวอนสื่อต่างชาติให้หลีกเลี่ยงการรายงานที่ทำให้ผู้นำกัมพูชาฮุนเซน มีภาพพจน์ที่ไม่ดี ในสายตาของประชาคมระหว่างประเทศ

นายกัญฤทธิ์ กล่าวว่า สื่อต่างชาติควรรายงานข่าวความขัดแย้งชายแดนกัมพูชา-ไทย “ด้วยข้อเท็จจริงและอย่างตรงไปตรงมา” และ ไม่ยั่วยุให้เหตุการณ์บานปลาย อีกด้วย

รัฐมนตรีกัมพูชาซึ่งเป็นโฆษกของรัฐบาลโดยตำแหน่ง ระบุดังกล่าวระหว่างการแถลงข่าววันที่ 15 ก.พ. และ สถานีวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ภาคภาษาเขมรเก็บรายละเอียดรายงานบนเว็บไซต์ เรื่องนี้วันเสาร์ (20 ก.พ.) ที่ผ่านมา

ตามที่มีรายงานว่า นายกฯ กัมพูชา ได้แช่งด่าผู้นำของไทยอย่างหยาบๆ คายๆ นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างไร ผู้นำกัมพูชาเพียงแต่ท้าทายให้สาบานว่า ทหารไทยไม่ได้รุกรานดินแดนกัมพูชาตามที่ผู้นำไทยกล่าวอ้าง

"ในอดีตที่ผ่านมาได้เกิดความเข้าใจผิดเช่นนี้อย่างมากมาย เราจึงอยากขอความกรุณาให้ท่านทั้งหลายได้แก้ไขถ้อยคำเหล่านี้ด้วย" นายกัญฤทธิ์ กล่าว

"สมเด็จฯ ฮุนเซนไม่ได้แช่งด่า สมเด็จฯ เพียงแต่ข้อร้องให้นายอภิสิทธิ์สาบานว่า ทหารไทยได้รุกรานดินแดนกัมพูชาหรือไม่เท่านั้นเอง ถ้าหากไม่ได้รุกราน ก็เพียงแต่สาบาน ดังนั้นรายงานเช่นนี้ได้ทำให้เกิดความโกลาหนและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้นำรัฐบาลกัมพูชา มันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาวะผู้นำ.." รัฐมนตรีกัมพูชากล่าว

นายกัญฤทธิ์กำลังกล่าวถึงเหตุการณ์วันที่ 8 ก.พ.2553 ที่บริเวณใกล้ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งสื่อต่างประเทศรายงานว่า ฮุนเซนได้ใช้ถ้อยคำรุนแรง และ ตีความหมายว่าเป็นการแช่งด่าและสาปแช่ง
<bR><FONT color=#3366ff>ภาพหนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล นายกฯ กัมพูชาฮุนเซนปราศรัยอย่างเผ็ดร้อน ในวันจันทร์ที่ 8 ก.พ. ที่ชายแดนใกล้ปราสาทตาเมือนธม ก่นด่า สาปแช่ง ผู้นำของไทยแบบไม่ยั้งปาก เอามันเข้าไว้ แถมยังสั่งแปลเป็นภาษาอังกฤษออกเผยแพร่ไปทั่วโลก วันนี้โฆษกพยายามทำให้ดูดีขึ้น พยายามแก้ต่างให้ หลังจากยอมรับว่า วาจาของท่านผู้นำส่งผลกระทบต่อภาพพจน์และชื่อเสียง  </FONT></bR>
ในสคริปต์การปราศรัย ณ ที่ตั้งทางทหารใกล้ๆ ชายแดนปราสาทตาเมือนธม ที่ฮุนเซนสั่งให้แปลเป็นภาษาอังกฤษนำออกเผยแพร่นั้น ผู้นำกัมพูชากล่าวว่า "ถ้าคุณไม่พูดความจริงเกี่ยวกับทหารสยาม (ไทย) รุกรานกัมพูชาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม (2551) ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หักคอคุณ ให้คุณถูกรถชน ขอให้โดนไฟฟ้าช๊อตตาย ให้โดนกระสุนลูกหลง..."

นายกัญฤทธิ์กล่าวอีกว่า ได้เกิดความผิดพลาดขึ้นในการแปลของสื่อบางสำนัก เปิดโอกาสให้นักการเมืองในประเทศไทยใช้เป็นเหตุกล่าวโจมตีฮุนเซน กล่าวหาว่าผู้นำกัมพูชาแทรกแซงการเมืองภายในของไทย

"การแปลที่ผิดๆ ในอดีตหลายครั้งได้เปิดช่องให้สื่อต่างๆ ในประเทศไทย นำไปอ้างให้เกิดการแสดงความเห็นที่ไม่สร้างสวรรค์ต่อกัมพูชา รวมทั้งการที่มีความเห็นว่า ในบรรดาประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ชาติแล้ว มีเพียงกัมพูชาเท่านั้นที่เข้าไปแทรกแซงเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง”

"ผมขอเรียนให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่า สมเด็จฯ (ฮุนเซน) ไม่เคยพูดว่า ประชาชนไทยจะควรจะโค่นนายอภิสิทธิ์หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ท่านเพียงแต่พูดถึงกรณีเกี่ยวกับปัญหาชายแดนว่า ยังไม่อยากที่จะพูดคุยในขณะนี้เพราะว่าต้องการรอรัฐบาลไทยชุดใหม่" นายกัญฤทธิ์กล่าว

"เพราะอะไรจึงพูดเช่นนั้น? ประเด็นสำคัญก็คือ อภิสิทธิ์ ได้ใช้ (ปราสาท) พระวิหาร เป็นเหตุผลในการโค่นล้มรัฐบาลนายสมัคร (สุนทรเวช) รัฐบาลของท่านฮุนเซนไม่สามารถเจรจากับกลุ่มของนายอภิสิทธิ์ได้หากยังใช้กรณีปราสาทพระวิหารเป็นประเด็นสำหรับการเมืองภายในประเทศ" นายกัญฤทธิ์กล่าว
<bR><FONT color=#3366ff>เขียวขี้เมา เริ่มมีวิกฤติศรัทธา พักหลังนี้ไม่ค่อยออกแถลงข่าว  </FONT></bR>
โฆษกกัมพูชายังวิจารณ์สื่อบางฉบับที่ใช้ถ้อยคำไม่ถูกในการเรียกจระเข้พันธ์หายากและใกล้สูญพันธุ์ในกัมพูชา ว่า "จระเข้พันธุ์สยาม" แทนที่จะเรียกว่า "กระปือพนม" หรือ "จระเข้ภูเขา" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกในภาษาเขมร

พักหลังนี้นายกัญฤทธิ์ซึ่งสื่อในกัมพูชาตั้งฉายาให้เป็น "เขียวขี้เมา" ไม่ได้ออกแถลงข่าวบ่อยครั้งนัก หลังจากถูกผู้สื่อข่าววิจารณ์ว่า การแถลงของโฆษกผู้นี้บางครั้งขาดความน่าเชื่อถือ ขาดข้อเท็จจริง

เมื่อปีที่แล้วนายกัญฤทธิ์ได้ออกแถลงเหตุการณ์ที่ฮุนเซนวิจารณ์ผู้นำของไทยอย่างรุนแรง รวมทั้งคำพูดที่ว่า ถ้าหากไทยคิดจะรุกรายกัมพูชา ก็จะต้องใช้กำลังพลมากกว่า ฝ่ายเขมรในอัตราส่วนถึง 3 หรือ 5 ต่อ 1 เนื่องจากทหารเขมรช่ำชองในการรบมากกว่า ขณะที่ทหารไทยไม่เคยผ่านสงครามมาก่อน

แต่เพียงข้ามวันหลังจากนายกัญฤทธิ์ออกแถลงปฏิเสธว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้พูดเช่นนั้น ผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา ได้ออกแถลงย้ำการให้สัมภาษณ์และการแสดงจุดยืนของผู้นำรัฐบาล ต่อสถานการณ์ชายแดนในขณะนั้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น