แบงก์ชาติลาวแจ้งแต่เนิ่นปีนี้ปรับดอกเบี้ยคุมฟอเร็กซ์

ASTVผู้จัดการรายวัน-- ธนาคารแห่งชาติลาวประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยกลาง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เริ่มปรากฏให้เห็นในช่วงปลายปี นอกจากนั้นยังกำหนดควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนให้มีช่วงห่างเพียง 2% เพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินกีบ

การประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยยังมีขึ้นหลังจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าได้เปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าประจำปีงบประมาณ 2552-2553 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.ศกนี้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 300 ล้นดอลลาร์ เงินกีบที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก

ในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งทำให้มูลค่าส่งออกลดลง ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลก

"ธนาคารแห่งชาติได้ตัดสินใจปรับดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ" สำนักข่าวสารปะเทดลาว รายงานในวันอังคาร (19 ม.ค.) นี้

ธนาคารแห่งชาติยังจะจัดการควบคุมการแข็งตัวขึ้นของค่าเงินกีบ เงินสกุลของประเทศ "หลังจากได้เห็นสัญญาณเงินเฟ้อในช่วงปลายปีที่แล้ว" โดนจะให้อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวไม่เกิน 2% สำนักข่าวของทางการกล่าว

อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารการค้าต่างประเทศลาว (Banque Pour le Commerce Exterieur Lao) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่ที่สุดของรัฐบาล วันที่ 18 ม.ค.อยู่ที่ 8,464 กีบต่อดอลลาร์ ราคาซื้อ และราคาขายอยู่ที่ 8,495 กีบ สำหรับเงินบาทไทยซื้อ 258.06 กีบ ขาย 259.36 กีบต่อบาท

อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2552 หรือเมื่อ 4 เดือนก่อน อัตราซื้อ 8,480 กีบและขาย 8,520 กีบต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นว่าค่าเงินสกุลของลาวอ่อนตัวลงเล็กน้อย ไม่ถึง 0.2% เมื่อแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตามเมื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท อัตราในเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ซื้อ 252.5 กีบ ขายที่ 253.5 กีบต่อ 1 บาท อ่อนตัวลงถึง 2.2%

ไทยเป็นตลาดใหญ่สินค้านำเข้าของลาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภค เงินกีบที่แข็งค่าเป็นผลดีสำรับการซื้อสินค้าจากไทย ขณะเดียวกันไทยก็ยังเป็นผู้ซื้อไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดจากลาว เงินกีบที่แข็งค่าขึ้นทำให้ลาวมีรายได้จากการส่งออกไฟฟ้า และสินค้าอื่นๆ ลดลง

ตามรายงานของสำนักข่าวทางการ มาตรการปรับดอกเบี้ยซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยอัตราในขณะนี้ "เพื่อสนับสนุนให้การปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติปี 2553 ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับผลกระทบจากวิกฤติการเศรษฐกิจกับการเงินโลก" ขปล.อ้างคำกล่าวของผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติ นายพูเพ็ด คำพูนวง ระหว่างการประชุมด้านเศรษฐกิจประจำปีในนครเวียงจันทน์

ธนาคารแห่งชาติจะควบคุมการหมุนเวียนของเงินกีบ รวมทั้งควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ ยังเป็นการสอดคล้องกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอีกด้วย

ตามรายงานของ ขปล.ธนาคารแห่งชาติจะควบคุมสินเชื่อไม่ให้ขยายตัวเกิน 18.5% ในความพยายามควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ และควบคุมหนี้เสียไม่ให้เกิน 3% อันเป็นมาตรการเพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รับประกับเสถียรภาพค่าเงินแห่งชาติ และ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบกับเงินดอลลาร์และเงินบาทให้ขึ้นลงไม่เกิน 2%

นอกจากนั้นยังจะรับประกันให้มีเงินสำรองมีเพียงพอสำหรับการนำเข้าสินค้าอย่างน้อย 5 เดือนอีกด้วย ขปล.กล่าว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการคาลาวเปิดเผยตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าการส่งออกปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าสำคัญต่างๆ ลดลง แม้ว่าปัจจุบันราคาสินค้าการเกษตรจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

สมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าส่งออกของลาว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าประเทศอันดับ 1 ออกแถลงก่อนหน้านี้ว่า ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาดโลกมีกำลังซื้อลดลง และ ค่าเงินกีบที่แข็งค่าขึ้นเมื่อปีที่แล้วได้เป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมทำให้ผู้ประอบการทั้งหลายย่ำแย่ไปตามๆ กัน.