รอยเตอร์ – การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งแรกของพม่าในรอบ 20 ปี ถูกกำหนดให้มีขึ้นในปี 2553 นี้ แต่การก่อสร้างอาคารรัฐสภายังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ โอกาสที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้ยังคงไม่มีหวัง
แม้รัฐบาลทหารพม่ายังคงไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้งอย่างเจาะจง แต่มีบางคนคาดการณ์ว่า น่าจะมีขึ้นในช่วงเดือน ต.ค. หรือเร็วกว่านั้นเล็กน้อย
จากการได้ตระเวนชมเมืองซึ่งเป็นเรื่องที่มีไม่บ่อยครั้งนัก อาคารรัฐสภาในกรุงเนย์ปีดอ เมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่า แสดงให้เห็นว่ายังมีงานก่อสร้างอีกหลายส่วนที่จะต้องทำให้เสร็จ ตั้งแต่ถนนที่ยังไม่เรียบร้อย ไปจนถึงการทาสีอาคารศูนย์กลางการปกครองกว่า 31 หลัง ที่มีหลังคาทรงคล้ายเจดีย์
ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ที่มีโอกาสได้เข้าชมการก่อสร้างไม่อาจจะตัดสินได้ว่ายังมีงานเหลืออีกมากเพียงใดจึงจะตกแต่งภายในอาคารให้เสร็จสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามทั้งๆ ที่กรุงเนย์ปีดอเพิ่งจะสร้างมาได้เพียง 4 ปี แต่การพัฒนาเมืองใหญ่ ขยายแผ่กิ่งก้านสาขาไปอย่างรวดเร็ว หลังจากรัฐบาลทหารพม่าได้ตัดสินใจแยกตัวเองออกมาไกลถึง 320 กิโลเมตร (200 ไมล์) จากกรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงเดิม
เนย์ปีดอ (Naypyitaw) แปลว่า "ที่ประทับของมหากษัตริย์" อาคารกระทรวงต่างๆ ที่พักของคณะรัฐบาล ชุมชนข้าราชการ เรียงรายกันอยู่อย่างสลับซับซ้อนแบบเขาวงกต ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งตกแต่งด้วยเสาโรมันทั้งหมดยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และ เริ่มจะมีฝุ่่นจับหนาจากความแห้งแล้งในพื้นที่
ภายในเมืองตกแต่งอย่างสวยงาม สนามหญ้าได้รับการรดน้ำอย่างหนักและกำแพงหินใหญ่ยักษ์เหล่านี้ ไม่สามารถบอกได้เลยว่า ส่วนที่เหลือในประเทศพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ยังมีประชาชนจำนวนมากอาศัยอยู่ในกระท่อมไม้
สถานที่ท่องเที่ยวที่ประกอบไปด้วยสนามกอล์ฟ 5 แห่ง โรงแรมสไตล์รีสอร์ต 7 แห่ง ประปาดื่มได้ ห้างสรรพสินค้าแบบตะวันตก สวนสัตว์ขนาดใหญ่ สวนน้ำพุ แมนชั่นหรู และไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งที่ในประเทศยังคงมีปัญหาในเรื่องของการขาดแคลนพลังงานก็ตาม
โรงภาพยนตร์ทันสมัยแห่งใหม่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างพร้อมกับอาคารอีกนับ 10 แห่งที่กำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน ทั้งหมดเกิดขึ้นด้วยแรงงานที่ต้องทนแดดร้อนและไม่มีอุปกรณ์ทันสมัยอะไร
แรงงานหญิงทำหน้าที่ขนก้อนอิฐวางเทินไว้บนศีรษะของพวกเธอ ไปวางไว้ในพื้นที่ก่อสร้างในขณะที่แรงงานชายเข้าจัดการพื้นดิน ส่วนวัวเทียมเกวียนเป็นพาหนะที่ใช้ขนไม้เข้าไปใช้ในการก่อสร้างผ่านถนนสายใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมกับกรุงย่างกุ้ง
รัฐบาลปฏิเสธที่จะเปิดเผยค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกรุงเนย์ปีดอ แต่นักวิเคราะห์และแหล่งข่าวจากการทูตกล่าวว่าน่าจะมีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มช่วยเหลือประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาความยากจนและระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เลวร้ายแห่งนี้
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางการทูตและการเงินของรัฐบาลทหารพม่าที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น ไม้ ก๊าซธรรมชาติ หรืออัญมณีล้ำค่าของพม่า แม้จะถูกคว่ำบาตรจากตะวันตกก็ตาม
ทูตตะวันตกรายหนึ่งในย่างกุ้งแสดงความประหลาดใจกับขนาดของกรุงเนย์ปีดอ ที่นอกจากอาคารรัฐสภาถึง 31 อาคาร ยังมีอาคารสำนักงานรัฐมนตรี และทำเนียบประธานาธิบดีอีก 3 แห่งกระจายอยู่ทั่วเมือง
"ที่น่าแปลกใจคือความรวดเร็วในการก่อสร้างสิ่งเหล่านี้" นักการทูตคนเดิมกล่าว
แต่องค์ประกอบที่สำคัญกลับหายไป คือ ความมีชีวิตชีวา ศูนย์กลางของเมืองดูไม่มีชีวิตชีวา แม้ว่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจะย้ายพนักงานรัฐเกือบทั้งหมดมาอยู่ในเนย์ปีดอแล้วก็ตาม
แม้ว่าจะมีประชากรอยู่ในเมืองแล้วประมาณ 1 ล้านคน และ ยังมีชุมชนกระจายตัวอยู่ใน 4 เมืองที่รายรอบเนย์ปีดอ ทั้งชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวต่างได้รับการต้อนรับให้ไปเยือนเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ แต่เนย์ปีดอก็ยังดูเหมือนกับเมืองร้างอยู่ดี
ถนนหลายสายมีการออกแบบวางผังอย่างดี และถนนใหญ่ในเมืองกว้างถึง 20 ช่องจราจร แต่กลับดูอ้างว้าง รถยนต์ของประชาชน พบเห็นได้ยากในเมืองนี้ ในใจกลางเมือง บริเวณวงเวียนที่มีถนน 5 สายมาบรรจบกันกลับมีแต่เพียงต้นอินทผลัมและดอกไม้ในกระถางที่แออัดกันแน่นไปหมด
ร้านอาหารที่ดูแน่นขนัดในเวลากลางคืน แต่เมืองก็ยังดูเรียบร้อยเพราะรถที่จอดอยู่ส่วนมากเป็นรถจักรยานยนต์และรถกอล์ฟทำให้ถนนดูโล่งมาก จนสามารถขับรถภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงบนถนน ใหม่จากย่างกุ้งไปยังเนย์ปีดอโดยเห็นรถเพียงไม่กี่คันเท่านั้น
หนึ่งคนที่บรรดารัฐบาลทหารพม่ายินดีที่จะทิ้งไว้ในย่างกุ้งคือ นางอองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่าเธออาจจะได้รับการปล่อยตัวก่อนการเลือกตั้งไม่นาน.