รอยเตอร์ (ย่างกุ้ง) -- เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหรัฐฯ ได้พบหารือกับ นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกกักบริเวณ เมื่อวันพุธ (4 พ.ย.) ซึ่งนับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก และเหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนประเทศที่ปกครองด้วยระบอบทหาร และถูกโดดเดี่ยว โดยคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดจากสหรัฐฯ ในรอบ 14 ปี
เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ วัย 64 ปี ได้พบกับ นายเคิร์ต แคมป์เบล (Kurt Campbell) ผู้ชวยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ที่โรงแรมหลังหนึ่งใกล้กับบึงอินยา ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักที่นางซูจีถูกสั่งกักบริเวณเป็นส่วนใหญ่ตลอด 20 ปีมานี้
เวลาต่อมา นางซูจี กับ นายแคมป์เบล ได้ปรากฏตัวให้สื่อได้ถ่ายภาพและตอบคำถามต่างๆ
ในวันเดียวกันก่อนหน้านั้น นายแคมป์เบล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิกของสหรัฐฯ ได้เข้าเยี่ยมคำนับ หารือข้อราชการกับพลเอกเต็งเส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า และวันอังคารที่ผ่านมา ก็ได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงของคณะปกครองทหารพม่าหลายคน แต่ไม่ได้พบพลเอก ตานฉ่วย ผู้นำอาวุโส ที่ปกครองประเทศติดต่อกันมานาน 17 ปี
นักการทูตและนักวิเคราะห์ กล่าวว่า การเยือนของนายแคมป์เบล เป็นการสนทนาเพื่อสำรวจหาลู่ทาง และ ไม่น่าจะมีผลลัพธ์ที่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรออกมาจากการเยือนในเวลาเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งมีขึ้นหลังจากสองฝ่ายต่างแสดงท่าที่ที่โอนอ่อนเข้าหากันมากขึ้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในวันอังคารว่า การเยือนดังกล่าวเป็น “การไปแสวงหาข้อเท็จจริง”
ระบอบทหารพม่าต้องการที่จะให้โลกตะวันตกยุติการคว่ำบาตร และ (เดือนที่แล้ว) ได้อนุญาตให้นางซูจีหารือเรื่องนี้กับบรรดานักการทูตในกรุงย่างกุ้ง ซึ่งโดยปกติเป็นสิ่งต้องห้าม
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศในเดือน ก.ย.ว่า จะสนทนากับระบอบทหารพม่าให้มากยิ่งขึ้น เพื้อผลักดันให้เกิดการปฏิรูปประชาธิปไตยและให้การเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในปีหน้าเป็นไปอย่างมีอิสรเสรี โดยมีทุกฝ่ายเข้าร่วม
อย่างไรก็ตามาสหรัฐฯ กล่าวว่าจะยังไม่เลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อพม่าที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากร และกล่าวอีกว่าการขยายการสนทนาถือเป็นมาตรการเคียงคู่กับการคว่ำบาตรต่อระบอบทหาร
นายแคมป์เบลมีกำหนดพบปะกับบรรดาผู้นำของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ตลอดจนผู้บริหารของสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางซูจี ที่มีชัยอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งปี 2533
คณะทหารที่ขึ้นปกครองประเทศด้วยการทำรัฐประหารเมื่อปี 2505 ปฏิเสธที่จะรับรองชัยชนะของพรรคฝ่ายค้านกับนางซูจี สันนิบาติฯ ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเขาร่วมการเลือกตั้งปีหน้านี้หรือไม่.