คณะกรรมการโต้มอบ “โนเบลสันติภาพ” แก่โอบามาเพราะมีผลงานแล้ว

เอเจนซี - คณะกรรมการรางวัลโนเบล ซึ่งมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพแก่ บารัค โอบามา ปกป้องการตัดสินใจที่ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์มอบรางวัลก่อนเวลาอันควรและหวังเป็นพันธสัญญาของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ยืนยัน โอบามา คู่ควรกับรางวัลจากในสิ่งที่ได้ลงมือทำไปแล้ว ทั้งด้านเยียวยาความบาดหมางกับมุสลิมและล้มโครงการติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธของบุช

เมื่อถูกถามถึงเสียงวิจารณ์อันครึกโครมตามหลังการประกาศผลเมื่อวันศุกร์(9) 4 จาก 5 ในคณะกรรมการรางวัลโนเบล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีว่าพวกเขาคาดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าคำสินติดครั้งนี้จะก่อทั้งความประหลาดใจและเสียงตำหนิ

กระนั้นก็ดี คณะกรรมาการ 3 ท่านปฏิเสธกรณีมีเสียงวิจารณ์ว่า โอบามาไม่สมควรได้รับรางวัลเพราะยังไม่มีผลงานใดๆ ขณะที่คณะกรรมาการท่านที่ 4 ไม่ขอตอบคำถามนี้ ส่วนคนที่ 5 ไม่รับโทรศัพท์ที่ทางสำนักข่าวเอพีติดต่อไป

“เราไม่เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่าเขายังไม่ประสบความสำเร็จใดๆ" ธอร์บเชิน แจกแลนด์ ประธานกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลของนอร์เวย์ บอกกับเอพีเมื่อวันอังคาร(13) "เขาได้รับรางวัลในสิ่งที่เขาทำ”

แจกแลนด์ ชี้ว่าสิ่งดังกล่าวคือความพยายามของโอบามา ในการเยียวยาความแตกร้าวระหว่างชาติตะวันตกกับโลกมุสลิม และตัดทอนข้อเสนอในยุคประธานาธิบดีบุค สำหรับติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธในยุโรปลง “ทั้งหมดนี้คือตัวสนับสนุนในสิ่งที่แม้ผมไม่อาจพูดได้ว่าโลกปลอดภัยขึ้น แต่โลกก็มีความตึงเครียดน้อยลง”

ด้าน อากอต วัลเล นักการเมืองนอร์เวย์ฝ่ายซ้าย ที่เพิ่งเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการโนเบลในปีนี้ ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า โอบามา ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ “แน่นอนว่าเราได้มีการพิจารณาทุกข้อโต้แย้งอย่างเคร่งเครียด และผมไม่กลัวที่จะดีเบทเกี่ยวกับการตัดสินรางวัลโนเบลครั้งนี้”

เมื่อวันศุกร์(9) คณะกรรมาการโนเบลประกาศให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปีนี้ไปครอง ด้วย “ความพยายามทางการทูตอันยอดเยี่ยมของเขาในเวทีระหว่างประเทศ” เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือจากมวลชลทั่วโลก คำมั่นสัญญาผลักดันให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ ลดความขัดแย้งกับโลกมุสลิมและเพิ่มบทบทของสหรัฐฯในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าวก่อความตกตะลึงแก่ผู้เฝ้าชมการประกาศรางวัลเกือบทั้งหมด เนื่องจากพวกเขาไม่คาดหมายว่า โอบามา ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าเส้นตายเสนอชื่อผู้เข้าชิงรางวัล จะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังเพราะคิดว่าอย่างเร็วสุดคงจะเป็นปีหน้ามากกว่า