xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามซื้อ A380, A350 พ่วงผลิตชิ้นส่วนแอร์บัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#cc00cc>ความคืบหน้าล่าสุดในแผนการขยายฝูงบินของเวียดนาม ได้สั่งซื้อ Airbus A380 จำนวน 4 ลำ และ A350XWB-900 เพิ่มอีก 2 ลำ โดยตั้งเป้าให้ประเทศมีฝูงบิน 150 ลำภายในปี 2563 </font></b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- เวียดนามได้ตัดสินใจเซ็นทำบันทึกช่วยความจำกับแอร์บัสอินดัสตรี (Airbus Industrie) ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ค่ายยุโรป เพื่อเครื่องบินใหม่จำนวน 6 ลำ มูลค่าเกือบ 1,800 ล้านดอลลาร์ โดยพ่วงกับการลงทุนก่อตั้งอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนของอากาศยานในเวียดนาม โดยมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันอาทิตย์ (15 พ.ย.) หรือ 1 วันหลังจากมีการเซ็นความตกลงในกรุงฮานอย

เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน 18 โครงการการลงทุนกับความร่วมมือระหว่างเวียดนาม-ฝรั่งเศสมูลค่า 9,500 ล้านดอลลาร์ที่มีการลงนามกันวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจ-ธุรกิจระหว่างสองประเทศในกรุงฮานอย และ ทั้งหมดมีขึ้นระหว่างการเยือนเวียดนามของนายฟรองซัวส์ ฟิลญง (Fancois Fillon) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส

นับเป็นการซื้อแอร์บัส A380 ฝูงแรกของสายการบินเวียดนาม ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่ม A350XWB-900 (ลำตัวกว้าง) อีกจำนวน 2 ลำ ซึ่งเป็นการซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ครั้งที่ 3 และทำให้จำนวนที่สั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นทั้งสิ้น 14 ลำ

แอร์บัสผลิต A350XWD-800 และ 900 ขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของโบอิ้ง 787-8 และ 9 ในตลาดการบินโลกโดยเฉพาะ การสั่งซื้อเพิ่มของเวียดนามยังมีขึ้น หลังจากผู้ผลิตเครื่องบินค่ายสหรัฐ ได้เลื่อนการส่งมอบเครื่องบินทันสมัยที่สุดของค่ายมาหลายครั้ง และ ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน
<br><FONT color=#cc00cc>เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2550 เวียดนามแอร์ไลน์กับบริษัทลูกคือ VALC ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องแอร์บัส A350XWB-800 จำนวน 10 ลำ A320 อีก 20 ลำ  </font></b>
ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม การสั่งซื้อแอร์บัสลอตล่าสุดนี้ ยังรวมทั้งการเป็น "พันธมิตรทางอุตสาหกรรมเพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนของแอร์บัสจำนวนหนึ่งและการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมวิศวกรกับนักบิน" ขึ้นในเวียดนาม ทั้งนี้เป็นรายงานที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของพรรคคอมมิวนิสต์

บริษัทแอร์บัสกำลังจะนำเครื่องบิน A380 กับรุ่นอื่นๆ เข้าร่วมงานแสดงแอร์โชว์ในนครดูไบเร็วๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ยอดการสั่งจองเครื่องบินของค่ายยุโรปทิ้งห่างค่ายสหรัฐฯ ออกไปแบบไม่ติดฝุ่น ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งยังคงจมอยู่กับวิกฤตการทางการเงินในประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้บริหารสายการบินเวียดนามได้ออกวิจารณ์การเลื่อนส่งมอบเครื่องบิน "ดรีมไลเนอร์" ของโบอิ้ง ระบุว่าทำให้เกิดความเสียหายขึ้นในแผนการบินและแผนการพัฒนาสายการบินของประเทศ เพื่อให้ขึ้นเป็นสายการบินอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่เวียดนามหวังพึ่งเครื่องบินรุ่นนี้เปิดบินเชื่อมกับสหรัฐฯ ในปลายปีหน้า

นั่นจะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีที่สายการบินจากเวียดนามเปิดบินเชื่อมกับสหรัฐฯ แต่แผนการดังกล่าวเผชิญกำลังกับความไม่แน่นอน ขณะที่การส่งมอบ A350XWB ลำแรกจะมีขึ้นในอีก 5-6 ปีข้างหนา เนื่องจากแอร์บัสเพิ่งจะเปิดสายการผลิตเมื่อต้นปีนี้ ขณะที่เริ่มส่งมอบ A380 ให้กับสายการบินต่างๆ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
<br><FONT color=#cc00cc>เมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา เวียดนามได้เปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนปีกสำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 737 อย่างเป็นทางการในสวนอุตสาหกรรมทางลองม์ กรุงฮานอย โดยการลงทุนจากบริษัทมิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสตรี จากประเทศญี่ปุ่น  </font></b>
เวียดนามเซ็นสัญญาซื้อ A350XWB ลอตแรกจำนวน 10 ลำ พร้อม A321 อีก 10 ลำ ในเดือน ธ.ค.2551 รวมมูลค่าในท้องตลาด 3,800 ล้านดอลลาร์ กำหนดส่งมอบ ในปี 2555 สำหรับ A321-500 และจนถึงปี 2559 สำหรับ A350 ลำตัวกว้าง

เวียดนามเซ็นซื้อ A350XWB เพิ่มอีก 2 ลำ ในงานปารีสแอร์โชว์ 2009 เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา การเซ็นเพื่อเตรียมซื้อเพิ่มอีก 2 ลำเมื่อวันเสาร์จึงเป็นครั้งที่สาม

เดือน มิ.ย.ปีนี้กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสตรี (Mitsubishi Heavy Industries) จากประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มผลิต "แฟลบ" ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญของปีกเครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่โรงงาน MHI Aerospace Vietnam ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทางลองม์ (Thang Long) กรุงฮานอย ซึ่งบริษัทตั้งเป้าผลิตชิ้นส่วนปีกสำหรับเครื่องบิน 10 ลำต่อเดือน พิธีเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการจัดขึ้นในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

ได้มีการพูดถึงแผนการผลิตชิ้นส่วนแอร์บัส ตลอดจนการตั้งศูนย์ฝึกอบรมวิศวกรรและนักบินสำหรับแอร์บัสในเวียดนามมาตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่ยังไม่เคยมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการมาก่อน.
กำลังโหลดความคิดเห็น