xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ทันข้ามปีเวียดนามซื้อแอร์บัสอีกฝูงคราวนี้ A380

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#cc00cc>ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 2 ก.ย.2550 เครื่องบินของสายการบินเวียดนามแอร์ไลนส์กำลังแท็กซี่ไปตามรันเวย์ผ่านเครื่องบินแอร์บัส A380 ที่จอดพักอยู่ในสนามโนยบ่าย กรุงฮานอย ก่อนมุ่งหน้าไปร่วมในงานแสดงเครื่องบินที่ฮ่องกง สัปดาห์นี้เวียดนามได้สั่งซื้อ A348 ฝูงแรกจากแอร์บัสยุโรปตามแผนพัฒนาสายการบินแห่งชาติ </FONT></bR>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- ยังไม่ทันข้ามปี หลังจากเซ็นซื้อเครื่องบินจากค่ายผู้ผลิตแห่งยุโรปฝูงใหญ่ สัปดาห์นี้เวียดนามแอร์ไลนส์ ได้เซ็นบันทึกช่วยความจำซื้อเครื่องบินจากค่ายนี้อีก 1 ฝูง และคราวนี้เป็นซูเปอร์จัมโบ A380 เครื่องบินโดยสารใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดของแอร์บัส นายมาร์วาน ลาฮู้ด (Marwan Lahoud) รองประธานบริษัทผู้ผลิต เปิดเผยเรื่องนี้กับเอเอฟพี

เวียดนามกลายเป็นลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้อเครื่อง A380 นับตั้งแต่ปี 2549 ราคาเครื่องบินรุ่นนี้ประมาณ 200-300 ล้านดอลลาร์ต่อลำ

การลงนามในข้อตกลงความเข้าใจดังกล่าวมีขึ้นในกรุงฮานอย ระหว่างการเยือนของนายฟรองซัวส์ ฟียง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เป็นเวลา 3 วัน สองฝ่ายยังมีกำหนดจะร่วมกันเซ็นความตกลงอีกหลายฉบับ รวมทั้งความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์และเทคโนโลยีดาวเทียมด้วย

การเดินทางเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส มีเป้าหมายที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศฝรั่งเศสและเวียดนาม ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น หนังสือพิมพ์แทงเนียนรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าว

นับเป็นความคืบหน้าล่าสุดของแผนการขยายฝูงบินของสายการบินเวียดนามแอร์ไลนส์ นับตั้งแต่เครื่อง A380 ได้ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานกรุงฮานอยเดือน ก.ย.2550 และ เจ้าหน้าที่ของบริษัทนี้กล่าวว่าอีกไม่เกิน 5 ปีเวียดนามก็จะสามารถมี A350 ไว้ใช้งานในฝูง

การซื้อแอร์บัส A380 ยังมีขึ้นขณะที่บริษัทโบอิ้ง ค่ายผู้ผลิตแห่งสหรัฐฯ เลื่อนการส่งมอบโบอิ้ง 787 ให้แก่การบินเวียดนามอีกครั้งหนึ่ง และยังไม่ทราบวันที่แน่นอนสำหรับการส่งมอบลำแรก

ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ในงานปารีสแอร์โชว์ 2009 สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินแอร์บัสรวดเดียวจำนวน 18 ลำ มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับเซ็นซื้อเครื่องบินแบบ ATR72-500 เพิ่มอีก 2 ลำ หลังจากได้ซื้อไปสองครั้งในปี 2551 จำนวน 11 ลำ

สำหรับเครื่องแอร์บัสที่สั่งซื้อล็อตใหญ่นี้ ประกอบด้วย A350-900XWB (Extra Wide Body) ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงของโบอิ้ง 787 จำนวน 2 ลำ กับ A321จำนวน 16 ลำ
<br><FONT color=#cc00cc>ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งที่ไม่ได้ระบุวันที่ถ่าย เป็นเครื่องฟอกเกอร์ 70 (Fokker 70) ของเวียดนามแอร์ไลนส์ที่สนามบินเมืองหลวงพระบาง เวียดนามจะโละเครื่องบินเก่าๆ เหล่านี้ เมื่อได้รับมอบแอร์บัส A321 ฝูงใหม่ที่สั่งซื้อไปในปี 2550  </font></b>
ก่อนหน้านั้น มาเพียง 10 วัน นายหลุยส์ กาลลัวส์ (Louse Gallois) ซีอีโอของ European Defence and Space Co ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอร์บัส เดินทางไปเวียดนาม และยืนยันว่า จะส่งมอบเครื่องบินให้ลูกค้าทั่วโลกตามกำหนด โดยมีจำนวนเท่าๆ กับปีที่แล้ว

ในเดือน ธ.ค.2550 สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อแอร์บัส A350-900XWB จำนวน 10 ลำ กับ A321-200 อีก 20 ลำ ในนั้น 10 ลำซื้อโดยบริษัทเช่า VALC (Vietnam Aircraft Leasing Co) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่เวียดนามแอร์ไลนส์ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับธนาคารของรัฐแห่งหนึ่ง บริษัทประกันภัยกับบริษัทหลักทรัพย์อีกแห่งหนึ่ง

การซื้อล็อตใหม่ในเดือน มิ.ย.ทำให้การบินเวียดนามมีเครื่องบิน A350-900XWB เพิ่มขึ้นเป็น 12 ลำ กับ A321s เพิ่มเป็น 26 ลำ

ตามรายงานของสื่อทางการเวียดนาม แอร์บัสกำลังจะส่งมอบ A321-200 ที่สั่งซื้อเมื่อปี 2548 ให้แก่การบินเวียดนามจำนวน 4 ลำแรกในปีนี้จนถึงต้นปีหน้า

ปัจจุบันสายการบินเวียดนาม มีเครื่องบินใช้งานในฝูงรวม 52 ลำ ในช่วงหลายปีมานี้ได้สั่งซื้อทั้งโบอิ้ง แอร์บัสและ ATR72 รวมกันกว่า 60 ลำ โดยยังไม่รวม A380 ฝูงใหม่ที่ยังไม่ทราบจำนวน

เวียดนามเร่งจัดซื้อเครื่องบินเพื่อขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยตั้งเป้าจะมีเครื่องบินชนิดและขนาดต่างๆ ใช้งานราว 105 ลำ ในปี 2558 และเป็น 110-120 ลำ หลังจากนั้น ตามแผนการทะยานขึ้นเป็นสายการบินใหญ่ 1 ใน 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กำลังโหลดความคิดเห็น