ASTVผู้จัดการรายวัน-- รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติให้เวียดนามแอร์ไลน์สจ่ายค่ามัดจำสำหรับเครื่องบินแอร์บัส A350XWB ที่สั่งซื้อจากผู้ผลิตเครื่องบินค่ายยุโรป ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งในการพัฒนายกระดับสายการบินแห่งชาติให้เป็นหนึ่งในบรรดาสายการบินชั้นนำอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การอนุมัติจ่ายเงินมัดจำมีขึ้นเพียงข้ามสัปดาห์หลังจาก สายการบินเวียดนามเริ่มส่งเครื่องบินแบบอาร์ทีเอ42 (ATR42) คืนให้แก่บริษัทผู้ผลิตค่ายฝรั่งเศส-อิตาลี ในข้อตกลงขายคืนเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก ขณะรอการส่งมอบเครื่องเอทีอาร์รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าและทันสมัยกว่ารวม 11 ลำ โดยลำแรกมีกำหนดส่งมอบในปีนี้
นายเลหว่างซวุง (Le Hoang Dung) โฆษกเวียดนามแอร์ไลนส์ยืนยันเรื่องนี้กับสื่อในเวียดนาม แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่า กำลังจะมีการจ่ายเงินมัดจำสำหรับเครื่องบินทั้งหมดกี่ลำ จากจำนวนทั้งหมด 13 ลำที่เซ็นซื้อไป 3 ครั้งต่างโอกาสกัน
ตามรายงานของสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลได้อนุมัติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เวียดนามแอร์ไลนส์จ่ายเงินมัดจำลำละ 200,000 ดอลลาร์สำหรับแอร์บัส350-900XWB (Extra-Wide Body) หรือ รุ่นลำตัวกว้างพิเศษ เพื่อการส่งมอบลำแรกในปี 2559 ตามตารางเวลาที่กำหนดร่วมกับแอร์บัส แต่ไม่มีการกล่าวถึงจำนวนเครื่องบินที่จะต้องวางเงินมัดในงวดแรกนี้
สายการบินของเวียดนามเซ็นข้อตกลงกับแอร์บัสแห่งยุโรปในเดือน ธ.ค.2550 ซื้อเครื่องบินรุ่นนี้ครั้งแรกจำนวน 10 ลำ พร้อมกับเครื่องบินแบบ A321-200 อีก 10 ลำ และ บริษัท VALC หรือ Vietnam Aircraft Leasing Corp ซึ่งเป็นบริษัทลูก สั่งซื้อแบบหลังในคราวเดียวกันอีกจำนวน 10 ลำรวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,500 ล้านดอลลาร์
สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อแอร์บัส A350-900XWB อีก 2 ลำในงานแสดงอากาศยานกรุงปารีส (Paris Air Show) ในเดือน มิ.ย.ผ่านมา เพื่อให้ครบฝูงจำนวน 12 ลำ พร้อมกับซื้อ A321 อีก 16 ลำ รวมราคาเครื่องบินทั้งสองรุ่นในงวดนี้ 1,900 ดอลลาร์
นายฝั่มหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh) ผู้อำนวยการใหญ่สายการบินเวียดนามกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เครื่องบิน A350-900XWB จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งผู้โดยสาร ทั้งในแง่ความสะดวกสบายและการประหยัดเชื้อเพลิง สำหรับการบินข้ามทวีป
ตามข้อมูลของแอร์บัส เครื่องบินบินระยะไกลขนาดกลางรุ่นนี้สามารถบินได้เป็นระยะทาง 15,400 กิโลเมตร และกำลังจะเป็นเครื่องบินที่ประหยัดน้ำมันที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของค่ายยุโรป
ปัจจุบันเวียดนามแอร์ไลน์สมีเครื่องบินในฝูงจำนวน 52 ลำ สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ว่า ที่ใช้งานได้จริงๆ มีประมาณ 46 ลำเท่านั้น ขณะที่กำลังเร่งจัดซื้อเพื่อให้พอใช้งานในระยะปีข้างหน้า
เวียดนามวางแผนจะมีเครื่องบินในฝูงจำนวน 104 ลำในปี 2558 หรือ 6 ปีข้างหน้า และเพิ่มขึ้นเป็น 150 ลำในปี 2560
เดือน ม.ค.2551 ขณะที่การท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณลบชัดเจน แต่สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ได้เซ็นสัญญากับบริษัท Avion de Transport Regional แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทการอวกาศแห่งยุโรป (EADS) กับ บริษัท Finmeccanica ประเทศอิตาลี ซื้อเครื่องบินเทอร์โบพร็อบ ATR72-500 จำนวน 6 ลำ
ในต้นเดือน ธ.ค. 2550 ก่อนเซ็นสัญญาซื้อแอร์บัสลอตใหญ่ไม่กี่วัน สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบิน ATR72-500 จำนวน 5 ลำ และ ในงานปารีสแอร์โชว์เดือน มิ.ย.ปีนี้ก็ได้เซ็นซื้อเพิ่มอีก 2 ลำ ทำ จำนวนสั่งซื้อใหม่รวมเป็น 13
ตามรายงานของสื่อทางการก่อนหน้านี้ ในปัจจุบันเวียดนามแอร์ไลน์สมีเครื่องบิน ATR72-500 จำนวน 3 ลำ เมื่อได้รับมอบเครื่องบินที่ซื้อใหม่ครบ จะทำให้มี ATR72-500 ในฝูงมีจำนวนทั้งสิ้น 16 ลำ
ตามรายงานก่อนหน้านี้ เวียดนามแอร์ไลน์สมีแผนจะใช้เครื่องบินรุ่นนี้เพียง 14 ลำในสิ้นปี 2553 ยังไม่ทราบจะจัดการอย่างไรกับอีก 2 ลำที่เหลือ
ในเดือน มิ.ย.ปีนี้ สายการบินเวียดนามได้เงินกู้ซินดิเคท (Syndicated Loan) จำนวน 120 ล้านดอลลาร์ จาก ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้หรือ HSBC ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) กับธนาคารเพื่อเทคโนโยลีและการพาณิชย์ หรือ Techcombank ( Technological and Commercial Bank) เพื่อจ่ายเป็นค่าเครื่องบิน ATR72-500 จำนวน 6 ลำ ที่สั่งซื้อลอตหลัง โดมีกำหนดส่งมอบเดือน ก.พ.2553 ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนไทมส์
นอกจากเครื่องบินแอร์บัสกับเอทีอาร์แล้ว ช่วงไม่กี่ปีมานี้สายการบินเวียดนามยังเซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 787-800,900 จากผู้ผลิตค่ายสหรัฐฯ อีกจำนวน 16 ลำ โดย 4 ลำแรกเซ็นบันทึกแสดงเจตนาในเดือน มิ.ย.2548 และ เซ็นสัญญาซื้อในเดือน มิ.ย.2549
เดือน พ.ย.ปี 2549 ธนาคารเพื่อส่งออกและนำเข้าของสหรัฐ หรือ US EXIM Bank ได้อนุมัติเงินกู้ 400 ล้านดอลลาร์แก่สายการบินเวียดนาม เพื่อช่วยในการจัดซื้อเครื่องบินทั้ง 4 ลำ ซึ่งสื่อของทางการกล่าวว่า เป็นเงินกู้ก้อนที่ 3 แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอื่นใดอีก
อีกหนึ่งปีต่อมาคือ ในเดือน พ.ย.2550 เวียดนามแอร์ไลนส์ได้เซ็นสัญญาซื้อโบอิ้ง 787-900 อีกจำนวน 8 ลำ และ บริษัท VALC ซื้ออีก 4 ลำเพื่อให้บริษัทแม่เช่า รวมเป็นเครื่องบินที่สั่งซื้อทั้งหมด 16 ลำ
เครื่องบินลอตใหม่นี้มีมูลค่าเต็มเป็นเงินประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ บริษัทโบอิ้งระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าซื้อขายที่แท้จริง
สายการบินเวียดนามขาดแคลนเครื่องบินอย่างหนักตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง แม้ว่าทุกลำจะได้รับการบำรุงรักษาตามกำหนดและตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตก็ตามแรก
บริษัทโบอิ้งประกาศเลื่อนการส่งมอบเครื่องบิน 787 มาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่เปิดตัวในกลางปี 2550 ล่าสุดบริษัทประกาศจะทดลองบินในเดือน ก.พ.2553 และทยอยส่งมอบให้ลูกค้าหลังจากนั้น.