ASTVผู้จัดการรายวัน -- บริษัท สายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) กำลังติดต่อเจรจากับบริษัท แอร์บัสอินดัสตรี (Airbus Industrie) ในฝรั่งเศส เพื่อซื้อเครื่องบินโดยสารพิสัยการบินระยะใกล้-ปานกลาง แบบ A321-200 เพิ่มอีก 10 ลำ หลังจากได้สั่งซื้อไปครั้งสุดท้ายจำนวน 20 ลำ พร้อมกับเครื่องแอร์บัสที่ใช้บินเส้นทางข้ามทวีปอีก 10 ลำ
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายเหวียนเติ๋นยวุ๋ง (Nguyen Tan Du ng) ได้อนุมัติตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ให้เวียดนามแอร์ไลนส์จัดคณะขึ้นเจรจาโดยตรงกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินค่ายยุโรป เพื่อการจัดจัดซื้อระหว่างปี 2554-2557 ทั้งนี้ เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์ไซ่งอ่นหยายฟง (Saigon Giai Phong) หรือ “ไซ่ง่อนปลดปล่อย”
ยังไม่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ตลอดจนกำหนดการเจรจาต่อรอง และแหล่งเงินทุนที่จะใช้จัดซื้อเครื่องบิน A321-200 ล็อตใหม่นี้
ในเดือน ธ.ค.2551 สายการบินแห่งชาติเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อ เครื่องบินแอร์บัส A350-900XWB จำนวน 10 ลำ โดยมีกำหนดส่งมอบในปี 2559 และ ซื้อ A321-200 อีกจำนวน 10 ลำ
นอกจากนั้น บริษัทเช่าอากาศยาน หรือ Vietnam Aircraft Leasing Co (VALC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่สายการบินเวียดนามถือหุ้นใหญ่ ยังเซ็นซื้อ A321-200 อีก 10 ลำ เครื่อง A321-500 ทั้งหมดมีกำหนดส่งมอบในปี 2555
ยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับตัวเลขมูลค่าเครื่องบิน แต่สำนักข่าวแห่งต่างๆ รายงานว่า เครื่องบินโดยสารลอตใหญ่ที่ซื้อจากแอร์บัสครั้งนั้นอาจจะมีมูลค่าเกือบ 3,800 ล้านดอลลาร์ ตามราคาในท้องตลาด
ก่อนหน้านั้น ในเดือน พ.ย.เวียดนามแอร์ไลนส์ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินโดยสารพิสัยไกล โบอิ้ง787-900 “ดรีมลายเนอร์” (Dreamliner) จากค่ายผู้ผลิตเครื่องบินในสหรัฐฯ จำนวน 12 ลำ ซึ่งเมื่อรวมกับที่สั่งซื้อไปก่อนหน้านี้ ทำให้เวียดนามแอร์ไลนส์ซื้อเครื่องบินรุ่นนี้แล้วทั้งหมด 16 ลำ
ในปีเดียวกันเวียดนามแอร์ไลนส์ ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินแบบ ATR72-500 ที่ผลิตในฝรั่งเศสจำนวน 11 ลำซึ่ง โดย 6 ลำแรกสั่งซื้อตอนต้นปี อีก 5 ลำ สั่งซื้อก่อนสิ้นปี ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังคายพิษส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจใหญ่น้อยทั่วโลก และอัตราเงินเฟ้อในเวียดนามกำลังพุ่งขึ้นสูง
ปัจจุบันสายการบินแห่งชาติเวียดนาม มีเครื่องบินใช้งานอยู่เพียง 47 ลำ รวมทั้งโบอิง 777-200ER จำนวน 10 ลำ ทั้งเครื่องที่เช่าและซื้อ แอร์บัส A330 จำนวน 4 ลำ เป็นเครื่องเช่า 3 ลำ แอร์บัส A321 จำนวน 11 ลำ กับ A320 อีก 10 ลำ
เวียดนามสั่งซื้อแอร์บัส A321 ไปฝูงหนึ่งเมื่อปี 2548 และ มีกำหนดรับมอบ 4 ลำแรกในปีนี้ เช่นเดียวกันกับโบอิ้ง 787-8 ที่สั่งซื้อในปีเดียวกัน
ผู้บริหารของสายการบินนี้ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปี 2553 จะเริ่มนำ ATR72-500 รุ่นใหม่เข้าใช้การแทนรุ่นเก่าทั้งหมดจำนวน 14 ลำ สำหรับเส้นทางบินระยะสั้น
ตามแผนการพัฒนาสายการบินแห่งชาติที่ประกาศในปี 2550 เวียดนามตั้งเป้าจะให้มีเครื่องบินใช้งาน 85 ลำ ในปี 2558 และเป็น 110 ลำในปี 2563 แต่การเจรจาเพื่อซื้อ A321 ล็อตใหม่ล่าสุดในอีก 3 ปีข้างหน้าจะทำให้สายการบินเล็กๆ แห่งนี้ขยายตัวแบบก้าวกระโดด
ตามแผนการเดิมนั้น เวียดนามแอร์ไลนส์จะทยอยซื้อเครื่องบินโดยสารพิสัยไกลขนาด 300 ที่นั่งขึ้นไประหว่างปี 2554-2558 ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตค่ายยุโรปกำลังพยายามชักชวนให้ซื้อเครื่อง A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเข้าใช้งานด้วย
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเวียดนามในการขยายฝูงบินให้มีขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในสามอันดับต้นๆ ในอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั้นมีขึ้นขณะอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเศรษฐกิจถดถอย
การบินภายในประเทศเองก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยหลังจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเกือบ 18% ในสี่เดือนแรกของปีนี้
ตามแผนการดั้งเดิม ปีนี้รัฐบาลจะออกใบอนุญาตให้จัดตั้งสายการบินเอกชนอีก 2-3 แห่ง แต่เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทำให้แผนการต้องเปลี่ยนไป
อุตสาหกรรมการบินที่เกิดใหม่ในเวียดนามกำลังเผชิญกับความผันแปรครั้งสำคัญ ปัจจุบันมีสายการบินถึง 5 แห่ง และ ทุกแห่งล้วนประสบปัญหาขาดทุนหรือรายได้ลดฮวบลง เสี่ยงต่อการอยู่รอด ซึ่งทำให้รัฐบาลประกาศงดออกใบอนุญาต ตั้งสายการบินใหม่ไปจนถึงปี 2558
เจ็ตสตาร์แปซิฟิก (JetStar Pacific) ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำแห่งแรกของประเทศ โดยรัฐบาลถือหุ้นใหญ่รายงานผลประกอบการขยายตัว 28.7% ในไตรมาส 1 ซึ่งลดลงอย่างมาก หากเทียบกับอัตราการเติบโตทั้งปี 54.6% เมื่อปีที่แล้ว
อินโดไชน่าแอร์ไลนส์ (Indochina Airline) สายการบินต้นทุนต่ำอีกแห่ง ที่เปิดให้บริการมา 6 เดือน ต้องลดเที่ยวบินโฮจิมินห์-ฮานอยลงครึ่งหนึ่ง และได้เลิกสัญญาเช่าเครื่องบินเพิ่ม ปัจจุบันให้บริการได้เพียงวันละ 1 เที่ยวบินด้วยเครื่องบินเพียงลำเดียว
ส่วนเวียดเจ็ตแอร์ (VietJet Air) สายการบินเอกชนแห่งแรกของประเทศ ที่ได้รับใบอนุญาตเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ต้องใช้ความกล้าหาญเป็นพิเศษ เพื่อขึ้นบินเที่ยวปฐมฤกษ์ให้ได้ในเดือน ต.ค.ปีนี้ หลังจากได้เลื่อนมาแล้วสองครั้ง ไม่เช่นนั้นจะถูกยกเลิกใบอนุญาต
ยังไม่ทราบผลประกอบการของวาสโกแอร์ (VASCO Air) ซึ่งเป็นบริษัทลูกให้บริการแบบเช่าเหมาลำและขนส่งสินค้า ของสายการบินแห่งชาติจนถึงปลายปีที่แล้วในเวียดนามมีสายการบินที่ให้บริการแล้วรวม 4 แห่ง
ปลายปีที่แล้วองค์การบริหารการบินเวียดนาม (Civil Aviation Administration of Vietnam) หรือ CAAV ได้ออกใบอนุญาตให้สายการบินแห่งที่ 6 ของประเทศ คือ แม่โขงแอร์เอวิเอชั่น (Mekong Aviation) ซึ่งประกาศแผนจะเริ่มบินในปี 2553 เป็นสายการบินโลว์คอสท์อีกแห่งหนึ่ง.