ASTV ผู้จัดการออนไลน์—สื่อในกัมพูชาได้แก้ไขข่าวเกี่ยวกับเงินกู้ก้อนใหม่จากรัฐบาลไทย โดยระบุว่าเงินกู้กับเงินให้เปล่าก้อนใหม่ 40 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท นั้นเป็นความช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูบูรณะทางหลวงเลข 68 ซึ่งเป็นทางหลวงอีกสายหนึ่งที่จะเชื่อมชายแดนไทยด้าน จ.สุรินทร์ เข้ากับถนนสายหลักจากชายแดนไทยด้าน อ.อรัญประเทศไปยังเมืองเสียมราฐ
หนังสือพิมพ์ดืมอัมปึล (Deum Ampil) รายงานเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งหลังจาก ก่อนหน้านี้ได้รายงานโดยรายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงการเงินและเศรษฐกิจที่กล่าวว่า เงินช่วยเหลือก้อนดังกล่าวจะนำไปซ่อมแซมทางหลวงเลข 67 ช่องสะงัม-เสียมราฐ กับซ่อมสะพานอีก 4 แห่งบนทางหลวง 48 เกาะกง-เสรย์อัมเบล
การเซ็นสัญญาเงินกู้กับความช่วยเหลือครั้งใหม่มีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างนายวงศรี วิสุทธิ์ (Vongsey Visoth) รองปลัดกระทรงวงการเงินฯ กับ นายอัครศิริ บุรณศิริ รองปลัดกระทรวงการคลังของไทย พิธีจัดขึ้นที่กระทมรวงการคลังและเศรษฐกิจในกรุงพนมเปญ โดยการเป็นประธานของนายเกียรติ ชน (Keat Chhon) รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดังกล่าว
นายวิสุทธิ์กล่าวระหว่างพิธีเซ็นสัญญาว่า เงินกู้และเงินช่วยเหลือให้เปล่าก้อนใหม่นี้ จะใช้สำหรับฟื้นฟูบูรณะและสร้างทางหลวงเลข 68 จากช่องโอสะมัก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ของไทย ผ่าน อ.สัมโรง จ.อุดรมีชัย (Oddar Meanchey) ไปเชื่อมเข้ากับทางหลวงเลข 6 แนวตะวันออก-ตะวันตก ที่บ้านกระลัญ (Khalanh) ซึ่งจะสามารถต่อไปยังเมืองเสียมราฐทางตะวันตก หรือไปยัง อ.ปอยเปต ทางตะวันออกจนถึงชายแดนไทยด้าน อ.อรัญประเทศได้
เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวอีกว่า เงินกู้กับเงินให้เปล่าที่รัฐบาลไทยให้แก่กัมพูชาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สาม ทำให้เงินช่วยเหลือจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 99 ล้านดอลลาร์ในขณะนี้
รัฐบาลไทยให้เงินกู้-เงินให้เปล่าก้อนแรก 21 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างและบูรณะทางหลวงเลข 48 จาก จ.เกาะกง ไปยัง อ.เสรย์อัมเบล ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อชายแดนไทยด้าน จ.ตราด กับเมืองท่าสีหนุวิลล์และกรุงพนมเปญได้
ก้อนที่สองเป็นเงิน 37 ล้านดอลลาร์สำหรับสร้างและบูรณะทางหลวงสายอันลองแวง (Anlong Veng)-เสียมราฐ เวลาต่อมารัฐบาลไทยได้ให้อีก 10 ล้านดอลลาร์ เพื่อต่อทางหลวงจากอันลองแวงไปจนถึงช่องสะงัม ที่ชายแดนไทย รองปลัดกระทรวงการคลังฯ ของกัมพูชากล่าว
นายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่าเงินกู้และเงินช่วยเหลือให้เปล่าที่เพิ่งเซ็นรับมอบในสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นที่ฐานต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มการไปมาหาสู่ การท่องเที่ยว ตลอดจนการขนส่งสินค้าระหว่างสองประเทศ
รัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ 30% จะเป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า อีก 70% เป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ มีระยะปลอดหนี้ 10 ปี และเวลาใช้คืนพร้อมดอกเบี้ย 30 ปี
เจ้าหน้าที่ของไทยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ในปี 2547 รัฐบาลไทยให้อดีตได้ให้คำมั่นจะช่วยกัมพูชาสร้างและฟื้นฟูบูรณะทางหลวง 2 สายแรก ส่วนสายที่สามฝ่ายไทยได้ตอบตกลงในหลักการในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
นอกจากนั้น วันอังคาร (25 ส.ค.) ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี ได้อนุมัติเงินกู้ 16.3 ล้านดอลลาร์ และรัฐบาลเกาหลีให้อีก 25.6 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น 41.9 ล้าดอลลาร์ เพื่อบูรณะทางหลวงเลข 6 ระยะทาง 113 กิโลเมตร จาก อ.ศรีโสภณ (Sisophon) จ.บ้านใต้มีชัย (Banteay Meanchey) ไปยังเสียมราฐ อีกด้วย
เอดีบีและรัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำแถลงฉบับหนึ่งระบุว่า ความช่วยเหลือเป็นเงินกู้ดังกล่าวเป็นไปใต้กรอบความร่วมมือกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงหรือ GMS (Greater Mekong-Sub Region) ซึ่งประกอบด้วยกัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทยและเวียดนาม
ทางหลวงเลข 6 ของกัมพูชาเป็นช่วงหนึ่งของ "ถนนสายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก" (East-West Economic Corridor) สายที่สอง ที่เริ่มจากเมืองกวีเญิน (Quy Nhon) เมืองเอกของ จ.บี่งดีง (Binh Dinh) ชายฝั่งทะเลจีนใต้ในเวียดนาม ไปยังปลายสุดทางตะวันตกที่กรุงเทพฯ.