xs
xsm
sm
md
lg

นอร์ธเวสต์, เดลต้า เข้าโฮจิมินห์ มิ.ย.สร้างโอกาสในวิกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#660099> ภาพแฟ้ม airliners.nl เครื่องโบอิ้ง 747 ของนอร์ธเวสต์แอร์ไลนส์ ขณะลอยลำเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ เดือน มิ.ย.ปีนี้มีกำหนดบินเข้าเวียดนามตามยูไนเต็ดแอร์ไลนส์เข้าไปขุดทอง </FONT></CENTER>

ผู้จัดการ360 ํรายสัปดาห์ -- การเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินแห่งต่างๆ ยังเป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการในยามที่วิกฤตการณ์ทางการเงินกำลังลามไปทั่วโลกเช่นในขณะนี้ แต่สายการบินสหรัฐฯ จำนวน 2 แห่ง กำลังจัดเตรียมเพื่อเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์เข้าสู่เวียดนาม ในอีกไม่ช้าไม่นานข้างหน้า

ทางการเวียดนามเพิ่งออกใบอนุญาตให้สายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลนส์ (Northwest Airlines) ในเดือน เม.ย.นี้ และวันที่ 10 เดือนเดียวกัน เดลต้า แอร์ไลนส์ (Delta Airlines) ก็ได้เปิดสำนักงานในโฮจิมินห์ เตรียมตัวเปิดเที่ยวบินเข้าเวียดนามในเดือน มิ.ย.ทั้งนี้ เป็นรายงานของสื่อทางการ

นอร์ธเวสต์ กลายเป็นสายการบินอันดับ 2 จากสหรัฐฯ ที่ได้รับอนุญาตให้บินเข้าเวียดนาม นับตั้งแต่สงครามสิ้นสุดลงเมื่อปี 2518 ใบอนุญาตจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน มิ.ย.ศกนี้ เป็นต้นไป

นอร์ธเวสต์ กล่าวว่า ในชั้นแรกนี้จะใช้โบอิง 757 สำหรับเส้นทางบินซานฟรานซิสโก-โฮจิมินห์ โดยหยุดแวะจอดในกรุงโตเกียว ทั้งนี้ เป็นรายงานที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก

ตามข้อมูลของนอร์ธเวสต์ จากสนามบินนาริตะผู้โดยสารจากเวียดนามยังสามารถเดินทางต่อไปยังปลายทางอื่นๆ ในสหรัฐฯ ได้ 9 ปลายทางใหญ่ รวมทั้ง แอตแลนตา (Atlanta) มลรัฐจอร์เจีย ที่อยู่ทางตะวันออกสุด เมืองดีทรอยต์ (Detroit) รัฐมิชิแกน ในเขตมิดเวสต์

นอกเหนือจากซานฟรานซิสโกแล้ว ทางฝั่งตะวันตกยังมีอีกหลายปลายทางที่สามารถเชื่อมต่อถึงได้จากญี่ปุ่น รวมทั้ง ลอสแองเจลีส พอร์ตแลนด์ (โอเรกอน) และ ซีแอตเติล (วอชิงตัน) ที่อยู่ถัดขึ้นไป
<CENTER><FONT color=#660099> ภาพแฟ้มจาก www.allamericanpatriots.com เครื่องของเดลต้าแอร์ไลนส์ สายการบินพี่น้องของนอร์ธเวสต์ เปิดออฟฟิศในโฮจิมินห์ในอีกไม่นาน เตรียมเที่ยวบินปฐมฤกษ์สหรัฐฯ -เวียดนาม โดยใช้สนามบินนาริตะในญี่ปุ่นเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังปลายทางใหญ่ต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ </FONT></CENTER>
ปลายปี 2547 ยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ (United Airlines) ได้เป็นสายการบินพาณิชย์จากสหรัฐฯ แห่งแรกที่บินเข้าสู่เวียดนาม ขณะที่สายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ได้เลื่อนการเปิดบินเที่ยวปฐมฤกษ์เข้าสหรัฐฯ มาหลายครั้งตั้งแต่นั้น

กำหนดการครั้งใหม่ คือ ปลายปีหน้า เมื่อบริษัทโบอิงของสหรัฐฯ เริ่มส่งมอบเครื่องบิน B787-8-9 ที่ได้สั่งซื้อไปทั้งหมด 16 ลำ

ส่วน เดลต้า แอร์ไลนส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของนอร์ธเวสต์ ได้กำหนดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ขึ้นในวันที่ 1 มิ.ย.ศกนี้ และจะให้บริการบินวันละ 1 เที่ยวหลังจากนั้น ผู้จัดการสำนักงานของเดลต้าในโฮจิมินห์ กล่าวว่า การเปิดสำนักงานที่นั่นนับเป็นการรุกคืบตลาดเอเชียครั้งสำคัญ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ จะแสดงผลประกอบการเส้นทางบินเข้าเวียดนามที่ขยายตัวเป็นเลข 2 หลักตลอดหลายปีมานี้ แต่ช่วงที่สายการบินสายการบินใหญ่อีกสองแห่งจากสหรัฐฯ ได้ประกาศบินเข้าเวียดนาม กลับเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวกำลังซบเซาอย่างหนัก

ปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าเวียดนามเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% รวม 4.3 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าหมาย 4.8-5 ล้านคนอย่างลิบลับ
<CENTER><FONT color=#660099>ภาพแฟ้ม www.2474.com เดลต้าแอร์ไลนส์เครื่องนี้จอดที่สนามบินดัลลาส รัฐเท็กซัส เมื่อสายการบินแห่งนี้บินเข้าโฮจิมินห์พร้อมนอร์ธเวสต์ในเดือน มิ.ย. ก็จะทำให้มีสายการบินใหญ่สหรัฐฯ จำนวน 3 จากทั้งหมด 4 แห่งเปิดบินเข้าเวียดนาม สำหรับยูไนเต็ดแอร์ไลนส์บินไปที่นั่นมา 3 ปีแล้ว </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099>สายการบินพี่น้องจับมือกันลุยตลาด 86 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉ๊ยงใต้หลังจากยูไนเต็ดแอร์ไลนส์รายงานผลประกอบการบินเส้นทางนี้ขยายตัวเป็นเลขสองหลักติดต่อกันมา 3 ปี  </FONT></CENTER>
สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นเลยในไตรมาสแรกของปี 2552 ซึ่งการท่องเที่ยวหดตัวลงเกือบ 20% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

องค์การบริหารการท่องเที่ยวเวียดนาม หรือ VNAT (Vietnam National Administration of Tourism) กล่าวว่า วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นสาเหตุหลักทำให้การท่องเที่ยวแย่ลง นอกเหนือจากปัญหาภายใน ซึ่งรวมทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อในอัตราสูงเมื่อปีที่แล้วและระบบสาธารณูปโภค ถนนหนทางที่ไม่เพียงพอ

นักท่องเที่ยวที่หายหน้าไปมากที่สุด ได้แก่ ชาวญี่ปุ่น เกาหลี กับ ไต้หวัน ตามลำดับ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ชาวจีน และ ชาวไทย จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น คือ 14.6%, 13.1% และ 9.6% ตามลำดับ สำนักข่าวเวียดนาม (วีเอ็นเอ) รายงานโดยอ้างตัวเลขของสำนักงานใหญ่สถิติ (General Statistics Office)

สำหรับปี 2552 นี้ VNAT ได้ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ชาวเกาหลี ญี่ปุ่น จีน และ อเมริกัน ให้เข้าไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น จะมีการเปิดแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลและเกาะต่างๆ เชื่อมกับ กัมพูชา ไทย และอีกด้านหนึ่งไปยังจีนกับสิงคโปร์ โดยจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแขนงใหม่นี้อย่างทั่วถึง และการบินเชื่อมปลายทางสหรัฐฯ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
<CENTER><FONT color=#660099> ยูไนเต็ดแอร์ไลนส์ สายการบินจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในเวียดนามขณะนี้ กำลังจะมีคู่แข่งอีก 2 รายที่ใหญ่กว่าอีกด้วย </FONT></CENTER>
แม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายให้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2548 แต่การบินแห่งชาติก็ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องบินใช้งานอย่างงหนัก และยังจะต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านบุคคลากรและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เพื่อปฏิบัติตามมาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานของสหรัฐฯ

บริษัท โบอิง (Boeing Co) กล่าวในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า จะเริ่มทยอยส่งมอบ B787 “ดรีมไลเนอร์” (Dreamliner) ที่เวียดนามสั่งซื้อจำนวน 16 ลำ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2553 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้มีความพร้อมและสามารถเปิดเที่ยวบินตรงไปยังสหรัฐฯ ได้ในช่วงต้นปี สื่อของทางการกล่าว

ช่วงไม่กี่ปีมานี้สายการบินเวียดนาม กับบริษัทลูก ได้เร่งจัดซื้อจัดหาเครื่องบินโดยสารหลายขนาดเป็นจำนวนเกือบ 40 ลำ เพื่อทะยานขึ้นเป็นสายการบินขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใน 5-6 ปีข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น