ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สายการบินแห่งชาติเวียดนาม กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2552 นี้ เป็นต้นไป จะเริ่มนำเครื่องบินโดยสารพิสัยปานกลางแบบ ATR72-500 เข้าประจำการได้ครบทั้ง 14 ลำ เพื่อแทนที่รุ่นเก่าที่ใช้งานมานานและเริ่มเสื่อมสภาพ การสับเปลี่ยนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการและการให้บริการประจำวัน
นายฟัมหง็อกมีง (Pham Ngoc Minh) ประธานและซีอีโอของสายการบินเวียดนาม กล่าวถึงแผนการจอดซ่อมและซ่อมแซมเครื่องบินในฝูงจำนวนหนึ่งระหว่างนี้จนถึงกลางปีหน้า แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจะเป็นเครื่องบินแบบไหนบ้างจำนวนทั้งหมดกี่ลำ แต่ก็กล่าวว่าแผนการนี้จะไม่กระทบต่อปฏิบัติ การและการให้บริการประจำวัน
เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่การท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มมีสัญญาณลบชัดเจน แต่สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ได้เซ็นสัญญามูลค่า 112 ล้านดอลลาร์ กับบริษัท Avion de Transport Regional แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท การอวกาศแห่งยุโรป (EADS) กับ บริษัท Finmeccanica ประเทศอิตาลี ซื้อเครื่องบินโดยสารแบบเทอร์โบพร็อบ ATR72-500 จำนวน 6 ลำ
ก่อนหน้านั้น ในเดือน ธ.ค.2550 สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินแบบเดียวกันนี้จำนวน 5 ลำ และเมื่อรวมกับที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันอีก 3 ลำก็จะมีเครื่องบินรุ่นนี้ในฝูงทั้งหมด 14 ลำ
เครื่องบินทั้งสองลอตนี้จะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่เดือน มิ.ย.2552 นี้เป็นต้นไป จนถึงเดือน ก.พ.2553 สอดคล้องกับแผนการ “โละ” เครื่อง ATR72-200 และ นำเอา ATR72-500 เข้าประจำการแทนทั้งหมด
ปัจจุบันสายการบินแห่งชาติเวียดนามมีเครื่องบินในฝูงเพียง 50 ลำ แต่ในเดือน พ.ย.2550 สายการบินแห่งนี้กับบริษัทลูก คือ VALC (Vietnam Aircraft Leasing Co) ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินโบอิง 787-9 จำนวน 12 ลำ รวมกับ 4 ลำ ที่สั่งซื้อเมื่อปี 2548 เป็นทั้งหมด 16 ลำ สื่อของทางการกล่าว่าจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือน ก.ค.2553 เป็นต้นไป
ต่อมาในเดือน ธ.ค.2550 หรือเพียง 1 สัปดาห์หลังเซ็นสัญญาซื้อเครื่อง ATR72-500 จำนวน 6 ลำล่าสุด สายการบินเวียดนามกับ VALC ก็ได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินจากบริษัทแอร์บัสดินดัสตรี (Airbus Industrie) ผู้ผลิตค่ายยุโรปคราวเดียว 30 ลำ เป็น A350XWB-900 จำนวน 10 ลำ และ A321 จำนวน 20 ลำ
ทั้งหมดนี้เป็นไปตามโครงการขยายฝูงบินในยุทธศาสตร์ ทำให้สายการบินแห่งชาติติดอันดับหนึ่งในสามสายการบินในเอเชีย
ประธานและซีอีโอสายการบินนี้ กล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ภายในปี 2558 จะมีเครื่องบินในฝูงรวม 104 ลำ และกลายเป็นสายการบินใหญ่อันสองรองจากสิงคโปร์แอร์ไลนส์ และเพิ่มขึ้นเป็น 125 ลำ ในปี 2563