xs
xsm
sm
md
lg

แอร์เวียดนามสวนกระแสซื้อ ATR72-500 อีก 6 ลำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> เครื่องบินยอดนิยม-- ภาพจากแฟ้มเดือนมี.ค.2550 ผู้โดยสารกำลังทยอยลงจากเครื่อง ATR72-500 ของบางกอกแอร์เวย์ที่สนามบินหลวงพระบางของลาว สายการบินเวียดนามได้สั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้อีก 6 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อส่งมอบทั้งหมดในต้นปี 2553 จะมีเครื่องบินแบบนี้รวม 14 ลำ เป็นฝูงใหญ่ที่สุดในย่านเอเชีย (ภาพ: ASTVผู้จัดการรายวัน)</FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน -- วิกฤตการณ์การเงินกำลังแผ่ลามในขอบเขตทั่วโลก แต่สายการบินแห่งชาติเวียดนาม ได้เซ็นสัญญามูลค่า 112 ล้านดอลลาร์ ซื้อเครื่องบินโดยสารแบบเทอร์โบพร็อบ ATR72-500 ที่ผลิตในฝรั่งเศส จำนวน 6 ลำ ในแผนการที่จะขยายฝูงบินออกเป็นประมาณ 80 ลำ ภายในปี 2553

การเซ็นสัญญาดังกล่าวมีขึ้นในวันศุกร์ (12 ธ.ค.) ระหว่างสายการบินเวียดนาม (Vietnam Airline) กับบริษัท Avion de Transport Regional แห่งฝรั่งเศส ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัทการอวกาศแห่งยุโรป (EADS) กับ บริษัท Finmeccanica ประเทศอิตาลี

การสั่งซื้อเครื่องบินยังมีขึ้นในช่วงปีที่มีสัญญาณลบอย่างชัดเจน เกี่ยวกับการท่องเที่ยวของเวียดนาม และทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่การสั่งซื้อล็อตล่าสุดนี้มีการเตรียมการมานานและเป็นโครงการต่อเนื่อง

เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว สายการบินเวียดนามได้เซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินแบบเดียวกันนี้ จำนวน 5 ลำ ในยุทธศาสตร์ขยายฝูงบินเพื่อให้สายการบินแห่งชาติติดอันดับหนึ่งใน 3 สายการบินอันดับหนึ่งในเอเชีย ทั้งนี้ เป็นรายงานของสื่อทางการ

เดือน ต.ค.2550 เวียดนามแอร์ไลน์ และบริษัทลูกได้เซ็นซื้อเครื่องบินโดยสารแบบโบอิง 787 ที่ทันสมัยจากค่ายสหรัฐฯ จำนวน 12 ลำ ด้วยมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้จำนวนสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นนี้เพิ่มขึ้นเป็น 16 ลำ

ในเวลาไล่เลี่ยกันเวียดนามแอร์ไลน์ได้เซ็นสัญญาซื้อแอร์บัส A350XWB-800 จำนวน 10 ลำ กับ A320 อีก 20 ลำ รวมมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์ จากแอร์บัสอินดัสตรี (Airbus Industrie) ในฝรั่งเศส

สำหรับเครื่อง ATR72-500 ที่สั่งซื้อใหม่นี้มีกำหนดส่งมอบลำแรกในเดือน มิ.ย.ปีหน้า และ ลำสุดท้ายจะส่งถึงเวียดนามในเดือน ก.พ.2553 นายฟัมหง็อกมิง (Pham Ngoc Minh) ซีอีโอของสายการบินเวียดนามกล่าวในร่างคำปราศรัยที่เตรียมไว้เผยแพร่ในพิธีเซ็นสัญญาในกรุงฮานอยเมื่อวันศุกร์

“ด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดการบินภายในประเทศกับตลาดการบินใน (อนุภูมิภาค) อินโดจีน ความต้องการการเดินทางระหว่างเมืองและนครต่างๆ คือ กรุงฮานอย ด่าหนัง นครโฮจิมินห์ ไปยังลาวและกัมพูชาขยายตัวอย่างรวดเร็ว” นายมอง กล่าว

“เราเชื่อเป็นอย่างมั่นเหมาะว่า การซื้อเอทีอาร์ 72-500 อีก 6 ลำ เวียดนามแอร์ไลน์จะสามารถสนองความต้องการบริการการบินเส้นทางระยะสั้นได้อย่างน่าพอใจ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การลงทุนและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างภูมิภาคและระหว่างเวียดนามกับประเทศเพื่อนบ้าน” หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์อ้างคำพูดของนายมิง

นายสเตฟาน ไมเออร์ (Stephane Mayer) ซีอีโอของ ATR กล่าวว่า ความสำเร็จของสายการบินแห่งชาติเวียดนามมีบทบาทสำคัญในการขยายฝูงบินของเอทีอาร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบัน ATR72 ทั้งสองซีรีส์มีใช้อย่างแพร่หลายในสายการบินประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง บริษัท การบินไทย และ การบินลาว ด้วย ซึ่ง นายไมเยอร์ กล่าวว่า เครื่องรุ่นใหม่ใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วย ทำให้เสียงเงียบลง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลดลง การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็ลดลงด้วย

ความต้องการการเดินทางระยะสั้นเชื่อมกับปลายทางในภูมิภาคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อปีที่แล้ว และต้นปีนี้ทำให้สายการบินเวียดนามต้องขวนขวายซื้อและเช่าเครื่องบินเพิ่มขึ้น

ในปัจจุบันสายการบินเวียดนามมีเครื่องบินยุคใหม่ที่ทันสมัยใช้การเพียง 50 ลำ และมีแผนจะขยายเป็น 83 ลำ ในปี 2553 เป็น 104 ลำในปี 2558 และ 150 ลำขึ้นไปในปี 2563 ปัจจุบันให้บริการบินใน 23 เส้นทางต่างประเทศ มีเป้าหมายขนส่งผู้โดยสารให้ได้ 11 ล้านคนในปี 2553

เวียดนามเริ่มนำ ATR72 เข้าให้บริการในปี 2535 และสั่งซื้อซีรีส์-500 ในระหว่างปี 2544-2550 ขณะนี้มี ATR-72-200 ใช้อยู่จำนวน 7 ลำ กับ ATR72-500 จำนวน 3 ลำ

ซีอีโอของการบินเวียดนามกล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป จะค่อยๆ นำเครื่อง ATR72-500 เข้าให้บริการแทน

ATR72-200 ที่ใช้งานมานาน และในปี 2553 ในฝูงก็จะเป็นแบบ ATR72-500 ทั้งหมดรวม 14 ลำ ในปีนั้นการยินเวียดนามก็จะเป็นเจ้าของฝูงบิน ATR72-500 ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เป็นการเตรียมรับตลาดการบินที่คาดว่าจะฟื้นตัวกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้งหนึ่ง

ปัจจุบันสายการบินเวียดนาม มีเครื่อง ATR72-500 ขนาดบรรทุกผู้โดยสาร 70 ที่นั่งเป็นของตัวเองรวม 3 ลำเท่านั้น การสั่งซื้อปีที่แล้วกับปีนี้ทำให้เครื่อง ATR72-500 ที่จะส่งมอบในระยะสองปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 11 ลำ หนังสือพิมพ์ของทางการ กล่าว

ตามรายงานขององค์การบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติ 11 เดือนแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 3.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นเพียง 1.1% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเวียดนามกล่าวว่าจำนวนนักเดินทางเพิ่มขึ้น 17% ปีต่อปี

จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงทำให้ทางการประกาศแต่เนิ่นๆ ว่า เป้าหมายดึงดูนักท่องเที่ยวให้ได้จำนวน 5 ล้านคนในปีนี้ คงไม่มีทางเป็นไปได้ ต่อหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ที่เริ่มปรากฏชัดตั้งแต่ช่วงกลางปี

ตามตัวเลขของทางการ 11 เดือนแรกของปีนี้ยอดขาดดุลการค้าทะยานขึ้นเป็น 16,900 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมากกว่า 47,000 ล้านดอลลาร์ตอนสิ้นปี ขณะที่เชื่อว่า รายได้จากการส่งออกจะลดลง

แต่ทางการเวียดนาม กล่าวว่า ปีนี้รายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 2,000 ดอลลาร์ และคาดว่าเงินที่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลส่งกลับบ้านจะสูงเป็นประวัติการถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ และ ยังมีเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการหรือ ODA (Official Development Assistance) อีกราว 5,000 ล้านดอลลาร์

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า รายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากสามทางนี้ จะสามารถช่วยเวียดนามแก้ไขปัญหาขาดดุลการค้าในปีนี้ได้อย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น