xs
xsm
sm
md
lg

รถตกเหว 11 รัสเซียสังเวย “ศุกร์13” ในเวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=660099> 1 ใน 11 คน ที่ไม่ได้กลับบ้านจากทริปนี้ รถตกเหวตั้งแต่หัวค่ำจนกระทั่งเวลา 4 ทุ่มเศษความช่วยเหลือจึงไปถึง </FONT></CENTER>

ASTVผู้จัดการรายวัน-- มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสียชีวิตรวม 11 คน เมื่อรถบัสนำเที่ยวแหกโค้งพุ่งลงเหวในเขตป่าเขาที่ค่อนข้างอยู่โดดเดี่ยวในภาคกลางตอนล่างของเวียดนาม ซึ่งทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมง เป็นเหตุทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุถึง 7 คน กับสตรีชาวเวียดนามอีก 1 คน ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว

จากการเปิดเผยของนายแพทย์เหวียนบาฮี (Nguyen Ba Hy) ผู้อำนวยการโรงพยาบาล จ.เลิมด่ง (Lam Dong) อุบัติเหตุเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ (13 มี.ค.) ซึ่งเป็น “ศุกร์ 13” นักท่องเที่ยวรัสเซียอีก 3 คน เสียชีวิตในโรงพยาบาลเวลาต่อมา กับอีก 11 คนได้รับบาดเจ็บในระดับต่างๆ กัน

ในนั้นมี 4 คนอาการสาหัส ซึ่งรวมทั้งคนขับที่เป็นชาวเวียดนามด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของสื่อของทางการ

นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กำลังเดินทางจากเมืองดาลัท (Dalat) เมืองท่องเที่ยวตากอากาศของจังหวัด ซึ่งอยู่ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง มุ่งหน้าไปยังเมืองฟานเที๊ยต (Phan Thiet) ที่มีหาดทรายสวยงามใน จ.บี่งทวน (Binh Thuan) ในเขตภาคใต้ตอนบน ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 200 กิโลเมตร

บริษัทนำเที่ยวได้เลือกใช้ทางลัดที่ต้องผ่านช่องเขาดายนีง (Dai Ninh) อันเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างเปลี่ยวปลอดยวดยานสัญจรในยามค่ำคืน เนื่องจาก มีความคดเคี้ยวมาก โดยไม่ยอมใช้เส้นทางผ่าน จ.นีงทวน (Ninh Thuan) ที่จะต้องวกอ้อมไปทางตะวันออกกินระยะทางอีกนับร้อย กม.
<CENTER><FONT color=660099> ข้างล่างก็มืดมิด ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ พื้นที่ลาดชัน ทุกอย่างฉุกละหุกไปหมด ขณะที่ต้องแข่งกับเวลา </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#660099> ต้องย้อนกลับไปดาลัท ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 100 กม. นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล </FONT></CENTER>
เหตุเกิดอยู่ห่างจากดาลัทเกือบ 100 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ห่างไกล และ เป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมียวดยานแล่นผ่าน เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจึงมีราษฎรในพื้นที่ผ่านไปเห็นอุบัติเหตุ

"ชาวรัสเซีย 7 คนกับหญิงชาวเวียดนามอีก 1 คนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ อีก 3 คนเสียชีวิตหลังจากถูกนำส่งถึงโรงพยาบาลแล้ว" นพ.ฮีกล่าวกับหนังสือพิมพ์แทงเนียน

ตามรายงานของผู้เห็นเหตุการณ์ ในตอนหัวค่ำวันศุกร์ มีผู้ขับรถผ่านไปพบรถบัสของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้แหกโค้งลงข้างทางที่เป็นเหวลาดเอียงลงไปตามไหล่เขา จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่โครงการเขื่อนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลออกไป ขอความช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

กว่าความช่วยเหลือจะไปถึงก็เป็นเวลาอีกหลายชั่วโมง มิหนำซ้ำยังขาดแสงสว่าง ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างทุลักทุเล รวมทั้งพื้นที่ซึ่งเป็นที่ลาดเอียงการกู้ภัยสุดลำบาก
<CENTER><FONT color=#660099> นี่คือซากเศษที่เหลืออยู่ถูกนำขึ้นจากเหวก่อนเวลาเที่ยงวันรุ่งขึ้น  เพียง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ยังเป็นรถบัสของนักท่องเที่ยว  </FONT></CENTER>
เจ้าหน้าที่ตำรวจเลิมด่งกล่าวว่า ถนนสายนี้เต็มไปด้วยความคดเคี้ยว อันตรายที่สุดอีกสายหนึ่งในเวียดนาม มีโค้งหักข้อศอก (Dead Bend) จำนวนมาก แต่ก็ยังมีผู้เลือกใช้เส้นทางลัดนี้ เนื่องจากถนนที่ตัดผ่านไปยังทางหลวงสายหลักเหนือ-ใต้ ยังไม่แล้วเสร็จ

ปี 2551 มีชาวเวียดนามกว่า 10,000 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน อันเนื่องจากสภาพการจราจรที่เลวร้าย การไม่เคารพกฎและขาดวินัยในการขับขี่ นอกจากนั้นก็ยังเป็นปีแรกที่พบว่า “นโยบายธุรกิจ” เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น

ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ ในปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 10,397 คน ในอุบัติเหตุเกี่ยวกับการจราจรจำนวน 11,522 ครั้ง มี 7,413 คนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ลดลงจากที่เคยมีคนเสียชีวิตราว 12,800 คน ในปี 2550 จากอุบัติเหตุเกือบ 14,000 ครั้ง

ตามสถิติของทางการ จนถึงเดือน ธ.ค.2551 เวียดนามมีรถยนต์ทุกประเภท 1,351,080 คัน รถจักรยานยนต์ 5,273,088 คัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น