ASTVผู้จัดการรายวัน-- ปี 2551 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้มีชาวเวียดนามกว่า 10,000 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน อันเนื่องจากสภาพการจราจรที่เลวร้ายและการไม่เคารพกฎและขาดวินัยในการขับขี่
ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่พบว่า “นโยบายธุรกิจ” ได้เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ ในปีนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 10,397 คน ในอุบัติเหตุเกี่ยวกับการจราจรจำนวน 11,522 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีอีก 7,413 คนได้รับบาดเจ็บ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (Tien Phong) จำนวนครั้งของอุบัติเหตุกับผู้ตกเป็นเหยื่อคิดเป็นอัตราเพิ่มมากมาย หากเทียบกับเมื่อปี 2550 และยังได้พบว่าอุบัติเหตุยังเกิดเพิ่มมากขึ้นทั้งการขนส่งทางบกและทางน้ำ
อย่างไรก็ตามการเก็บสถิติของกระทรวงรักษาความสงบภายในได้พบว่ามี 55 จังหวัดทั่วประเทศที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจราจรลดลงน้อยกว่าปี 2550
จังหวัดด่งนาย (Dong Nai) ลดลง 177 คน นครโฮจิมินห์ลดลง 132 คน กรุงฮานอย (110) จ.ยาลาย (Gia Lai) ในเขตที่ราบสูงภาคกลาง (104) และ จ.บิ่งดีง (Binh Dinh) ซึ่งลดลง 97 คน
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างมากมายนี้อันดับแรกสุดเนื่องจากการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของยานพาหนะที่ใช้ในการคมนาคมขนส่งทางบก เทียบกับการพัฒนาโครงร่างพื้นฐานต่างๆ ที่ไปไม่ทันกัน
ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้มีรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นราว 10.9% และรถยนต์ 12.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และในเดือน ธ.ค.ในเวียดนามมีรถยนต์ทุกประเภทจำนวน 1,351,080 คัน รถจักรยานยนต์ 25,273,088 คัน เตี่ยนฟงกล่าว
ปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเกิดจากนโยบายทางด้านธุรกิจของบริษัทธุรกิจต่างๆ ในการคมนาคมขนส่งข้ามจังหวัด ที่เร่งรัดเรื่องเวลามากขึ้นทำให้พนักงานขับรถรับส่งจำนวนมากต้องทำผิดกฎจราจรทั้งในด้านความเร็ว และจำนวนผู้โดยสารที่บรรทุก
ปีนี้มีอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถโดยสารเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เนื่องจากสาเหตุดังกล่าวเตี่ยนฟงกล่าว
สื่อของทางการรายงานก่อนหน้านี้ว่า ปัญหาสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนนคือ การจับรถด้วยความเร็วขาดการระมัดระวัง การไม่เคารพกฎจราจร และขับรถในสภาพที่กำลังมึนเมา
เวียดนามเผชิญกับปัญหาการจราจรที่คับคั่งมานานหลายปี การก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนในเขตเมืองดำเนินไปอย่างล่าช้า การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายแรกของนครโฮจิมินห์เริ่มเมื่อต้นปีนี้โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น
หนังสือพิมพ์ของทางการรายงานว่า ไม่เพียงการจราจรจะคร่าชีวิตผู้คนมากขึ้นทุกปีเท่านั้น การคับคั่งของการจราจรไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และการขนส่งที่ยังล้าหลัง ได้ส่งผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนของต่างประเทศอีกด้วย
“แขนงการขนส่งของประเทศยังไม่สามารถสนองความต้องการด้านการพัฒนาได้” นายฮว่างจุงหาย (Hoang Trung Hai) รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในการประชุมสัมมนานัดหนึ่งที่จัดขึ้นในนครโฮจิมินห์
อย่างไรก็ตามกระทรวงวางแผนและการลงทุนแถลงสัปดาห์ที่แล้วว่า ปี 2551 เวียดนามสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ กว่าสามเท่าตัวจากปีที่แล้ว.