ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ทางการเวียดนามได้นำภาพสวยของหญิงสาวชนชาติส่วนน้อยหลายชนเผ่าจากจังหวัดภาคเหนือ ออกอวดสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ นี่คือชนเผ่ากลุ่มใหญ่ที่มีอยู่กว่าแปดสิบกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในวิถีดั้งเดิม ในเขตป่าและภูเขาสูงทางตอนเหนือของประเทศ
ภาพทั้งหมดตีพิมพ์บนเว็บไซต์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ตามแผนการที่จะแสดงให้เห็นความขยันขันแข็งในการออกแรงทำงานและการประกอบสัมมาอาชีพตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่ดั้งเดิมชนเผ่าต่างๆ
สื่อทางการรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่บางส่วนของประเทศกำลังเจริญรุ่งเรืองเต็มไปด้วยแสงสีกับกลิ่นอายของสังคมเมือง แต่พรรคคอมมิวนิสต์มีนโยบายที่แน่ชัดในการธำรงรักษาและปกป้องชนชาติส่วนน้อยต่างๆ ให้สามารถสืบทอดขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ต่อไป โดยมิให้ "สิ่งใหม่" เข้าไปกล้ำกลาย
สำนักข่าวเวียดนาม (วีเอ็นเอ) รายงานบนเว็บไซต์ของพรรคคอมมิวนิสต์ระบุว่า หญิงสาวชนชาติส่วนน้อยต่างๆ ในประเทศล้วนสวยงามและเปี่ยมด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นชาวด๋าว ชาวเตย (Tay) ชาว นุง (Nung) หรือชาวเผ่าม้ง (Mong) เพียงแต่มองจากเครื่องแต่งกาย ผู้ที่ผ่านไปพบก็จะทราบได้ทันทีว่าสาวงามเหล่านี้เป็นชนชาติใด
"จังหวัดในเขตเขาทางภาคเหนือของประเทศ ไม่เพียงแต่มีขุนเขาอันสลับซับซ้อนและสวยงามอย่างโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังมีถิ่นที่อยู่ของชนชาติส่วนน้อยต่างๆ ทุกๆ แห่งล้วนมีเอกลักษณ์ของตน" สำนักข่าวของทางการกล่าว
ทั้งหมดที่เว็บไซต์พรรคคอมมิวนิสต์นำออกเผยแพร่ในขณะนี้ เป็นภาพของหญิงสาวชนชาติส่วนน้อยของประเทศในเครื่องแต่งกายวัฒนธรรมและถ่ายทำในขณะที่พวกเธออยู่ในอิริยาบถต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
สำหรับชาว "ซ-หยาว" (Dao) ยังแบ่งออกเป็น "ซ-หยาวแดง" กับ "ซ-หยาวขาว" โดยเรียกตามเครื่องแต่งกายที่โดดเด่นของพวกเธอเป็นหลัก สาวชาวซ-หยาวแดงจะสวมกางเกงรัดรูปสีแดง
ส่วนชาวด๋าวขาวจะสวมกางเกงหลวมๆ สบายๆ ตัดเย็บด้วยผ้าสีขาว นอกจากนั้นยังมีชาวซ-หยาวเตียน (Dao Tien) ที่แยกกลุ่มออกไปตั้งภูมิลำเนาจากกลุ่มอื่นๆ ต่างหาก
แต่สิ่งที่หญิงสาวชาวซ-หยาวมีร่วมกันก็คือ วัฒนธรรมการสวมหมวกหรือผ้าโพกศีรษะ สวมเสื้อคลุมสีสันฉูดฉาด สวมกางเกงในหน้าหนาวและเปลี่ยนเป็นกระโปรงในหน้าร้อน หญิงสาวชาวด๋าวจะสวมเสื้อผ้ามิดชิดและแนบเนียนมาก วีเอ็นเอกล่าว
ไกลออกไปทางตอนเหนือสุดของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใน จ.ล่าวกาย (Lao Cai) ลายโจว (Lai Chau) เซินลา (Son La) หรือ ใต้ลงไปที่ จ.เดียนเบียน (Dien Bien) ของเวียดนาม ล้วนเป็นถิ่นอาศัยของชนชาติส่วนน้อยที่อยู่ในวัฒนธรรมหลากหลาย
ท้องถิ่นต่างๆ เหล่านั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลจากกรุงฮานอย อันเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองในภาคเหนือมากนัก เพียงแต่ว่าทางการคอมมิวนิสต์มีนโยบายที่จะป้องกันมิให้ "วัฒนธรรมภายนอก" เหล่านั้นไหลบ่าเข้าไปกลืนวิถีชีวิตของชนชาติส่วนน้อยเหล่านี้
ใต้ลงไปในเขตที่ราบสูงภาคกลาง (Tay Nguyen) ยังมีชนชาติส่วนน้อยกลุ่มใหญ่ เช่น ชาวดั๊กลัก (Dak Lak) ชาวนง (Nong) และ ชาวยาลาย (Gia Lai) หลายจังหวัดในเขตเขาตั้งชื่อตามชื่อชนชาติส่วนน้อยที่เป็นพลเมืองส่วนใหญ่
ต่างไปจากทางตอนเหนือของประเทศ ปัจจุบันเขตที่ราบสูงภาคกลางอุดมไปด้วยสินแร่เศรษฐกิจสำคัญที่โลกกำลังต้องการ จึงเป็นที่หมายตาของนักลงทุนต่างชาติ
ตามรายงานของสื่อทางการเมื่อเดือนที่แล้ว เหมืองบ๊อกไซต์ (Bauxite) กำลังทำลายสภาพแวดล้อมอย่างหนักใน จ.ดั๊กลัก ซึ่งทำให้น้ำในแม่น้ำลำธารทั้งสายเกิดเน่าเสีย
ราษฎรทั้งที่เป็นชาวเวียดนามเองและชนชาติส่วนน้อยในท้องถิ่นจำนวนหนึ่งถูกบังคับให้อพยพออกนอกเขตเหมืองที่ต้องการพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ชีวิตประจำวันของคนเหล่านั้นกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากวิถีดั้งเดิม.. อย่างน่าเป็นห่วง สื่อของทางการกล่าว.