ผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี—ณ สวนวัฒนธรรมแห่งชนชาติจีน ได้ชูธงนำ “การสร้างสรรค์ใหม่อันทรงคุณค่า” เพื่อชีวิตชนชาติส่วนน้อย 56 ชนชาติ แต่ ทว่า สิ่งที่ขาดหายไปในสวนวัฒนธรรมแห่งชนชาติที่ประกาศแนวคิดอันสวยหรูแห่งมนุษยชาติ ก็คือ “สายเลือดชนชาติส่วนน้อยที่แท้จริง”
“ที่นี่ ไม่มีชาวอุยกูร์ เป็นอย่างนี้ มานานแล้ว” ยามรักษาความปลอดภัยชาวฮั่นที่ยืนยามอยู่ในส่วนจัดแสดงวัฒนธรรม ที่อุทิศแก่ชนชาติมุสลิมแห่งแดนตะวันตกในซินเจียง บอก
อีกมุมหนึ่ง หญิงชาวทิเบตในส่วนจัดแสดงวัฒนธรรมทิเบตบอกว่า ชาวทิเบตในนี้ มาจากมณฑลชิงไห่ ไม่มีใครมาจากทิเบต ดินแดนหลังคาโลกที่เกิดจลาจลเมื่อเดือนมีนาคม
ไม่กี่ปีมานี้ ผู้นำจีนก็เพิ่งได้สังคายนาเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษตามป้ายชื่อสถานที่ต่างๆเพื่อแสดงความหมายแก่ชาวต่างชาติ อันเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการโอลิมปิก ปักกิ่ง สำหรับสวนวัฒนธรรมชนชาติแห่งนี้ใหม่ ก็ได้รับการกำหนดชื่อภาษาอังกฤษมาตรฐานเป็น *“China Ethnic Culture Park จากเดิมที่ใช้ Racist Park ซึ่งเป็นความพลั้งเผลออย่างฉกาจฉกรรจ์จากความที่ไม่เข้าใจนัยความหมายอย่างแท้จริง โดยคำว่า Racist นั้น หมายถึงลัทธิเผ่าพันธุ์ หรือลัทธิชนชาติ หรือเผ่าพันธุ์นิยม หรือลัทธิเหยียดหยามชนชาติ! ซึ่งอาจเป็นความไม่ตั้งใจของผู้แปลชาวจีนที่อ่อนด้อยภาษาอังกฤษ แต่ก็สร้างความมึนตื้บ! ไปตามๆกัน โดยเฉพาะในสภานการณ์ที่รัฐบาลกลางกับชนกลุ่มน้อยเผชิญหน้ากันเดือด
กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ฝรั่งคู่ปรับจีนถึงกับหยิบยกมาวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะว่า มันเป็นอนุสรณ์สะท้อนความคิดของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ต้องการส่งสารถึงความยิ่งใหญ่เหนือชั้นกว่าฮั่น
ในสัปดาห์นี้ จีนยังได้เชิดชูบทบาทในระบอบพ่อปกครองลูกผ่านขบวนพาเหรดเด็กๆที่สวมชุดแต่งกายชนชาติส่วนน้อย ทิเบต อุยกูร์ และชนชาติอื่นๆ เป็นการแสดงชุดสำคัญในพิธีเปิดโอลิมปิก ปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม และคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิกก็ได้ประกาศว่าขบวนพาเหรดเด็กชนชาติส่วนน้อย 56 ชนชาติ ถือธงชาติจีน ที่มาจากความคิดแสดงความเป็นเอกภาพแห่งชาตินั้น มาจาก “กลุ่มเชื้อชาติอย่างเป็นทางการ”ของจีน
แต่ไม่กี่วันต่อมาก็มีการเปิดเผยว่าเด็กที่แต่งกายชุดชนชาติส่วนน้อยเหล่านั้น เป็นชนชาติฮั่นทั้งหมด โดยเป็นเด็กๆของ Galaxy Children’s Art Troupe ส่งมา นายเหยียน จื้อเฟิงรองผู้อำนวยการ Galaxy Children’s Art Troupe ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงนี้แก่สื่อในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
“สำหรับคนจีนแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่พวกเขาประสบอยู่เสมอจนคุ้นเคย และชาวจีนก็ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา ผิดกับวิสัยของตะวันตกที่เรื่องแบบนี้มักจะตกเป็นเป้าโจมตีอำนาจรัฐ” Dru Gladney ผู้เชี่ยวชาญด้านชนชาติส่วนน้อยของจีนกล่าว พร้อมแสดงความเห็นของตนต่อไปอีกว่า พรรคคอมมิวนิสต์มีนโยบายส่งเสริมภาพลักษณ์ความกลมกลืน สมานฉันท์ และสีสีนหลากหลายตระการตาของชนชาติส่วนน้อย ภายใต้ธงนำ “ฮั่น” ผู้พัฒนามากกว่า
ในแง่มุมการแสดง การจัดการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องผิด ทว่า เรื่องนี้ ก็เกิดขึ้นในช่วงกระแสความตึงเครียดสืบเนื่องจากความขัดแย้งการปกครองของจีนต่อชนชาติทิเบต และมุสลิมอุยกูร์ของซินเจียง ที่ระเบิดเป็นความขัดแย้งกลายเป็นข่าวพาดหัวของสื่อโลกตลอดปีโอลิมปิก ปักกิ่งนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นสิ่งกระตุ้นความอ่อนไหวในหมู่ชนชาติส่วนน้อย
หวัง เหวยรองประธานคณะกรรมการจัดงานโอลิมปิก ปักกิ่งได้พูดถึงกรณี ขบวนพาเหรด “หลากหลายชนชาติ” “ผมเห็นว่าไม่มีอะไรผิด ไม่ว่าเด็กๆจะมาจากที่ไหน มันเป็นประเพณีการจัดการแสดงในจีน”
อีกมุมหนึ่ง ในกรณีการประชุมสภาผู้แทนประชาชนหรือรัฐสภาจีน ทุกๆปีกลุ่มผู้แทนราว 3,000 คน ในชุดสูทดำ ก็จะมีสีสันของชุดประเพณีชนชาติส่วนน้อยจากกลุ่มผู้แทนชนส่วนน้อย อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของรัฐบาล ระบุว่าคณะกรรมกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ที่มีสมาชิกทั้งหมด 24 คน มีเพียง 16 คน ที่เป็นสายเลือดชนส่วนน้อย
ในสวนวัฒนธรรมชนชาติส่วนน้อย หญิงสาวในชุดประเพณีมองโกเลียน 3 คน ที่กรีดกรายอยู่ในส่วนแสดงวัฒนธรรมมองโกเลีย พวกเธอพูดภาษาจีนกลางคล่องปรื๋อ ขณะยืนยันว่าตัวเองเป็นชาวมองโกเลียนพันธุ์แท้ แต่เมื่อถูกทดสอบอีกที ด้วยคำถามว่า “ยินดีต้อนรับสู่โอลิมปิก ปักกิ่ง” ในภาษามองโกเลียนพูดกันว่าอย่างไร?
คำตอบจากสาวน้อยมองโกเลียนคือ “ประโยคนี้ ยากที่จะถ่ายทอดเป็นภาษาของพวกเรา”
Gladney ได้กล่าวอีกว่ารัฐบาลจีนได้ปรับปรุงภาคสาธารณูปโภคและชีวิตของชนชาติส่วนน้อยทั่วประเทศ และชนชาติส่วนน้อยจำนวนมากก็สนับสนุน “ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแห่งชาติ” ขณะที่หลายคนยังวิตกคลางแคลงใจ
สำหรับ China Ethnic Culture Park เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง มีชื่อภาษาจีนว่า中华民族博物院 หรือ中华民族园 แปลว่า ศูนย์พิพิธภัณฑ์ชนชาติจีน ค่าผ่านประตูเข้าชม 60 หยวน.
*หมายเหตุ ชื่อของ ศูนย์พิพิภัณฑ์ชนชาติจีนนี้ เป็นข่าวฮือฮาในกลุ่มสื่อจีน ในรายงานข่าวหัวเรื่อง “ปรากฏการณ์: รัฐบาลที่ละเมิดสิทธิทารุณกรรมไก่” 北京着手治理“政府虐待鸡”现象 ระบุว่า ชื่อของศูนย์ถูกเปลี่ยนในเดือนตุลาคม ปี 2006 จากชื่อ种族主义公园 ซึ่งความหมายในภาษาอังกฤษเท่ากับ Racist Park เป็น 北京中华民族园 /CHINESE ETHNIC CULTURE PARK หรือ 北京中华民族博物院 /CHINA NATIONALITIES MUSEUM.