ทหารจีนรักษา “เอกภาพ-ความสงบ” แดนเทพนิยายแชงกรีล่า

เอเอฟพี--คลื่นความวุ่นวายในทิเบต ได้กระเพื่อมไปถึงแชงกรีลาดินแดนท่ามกลางหุบเขาที่งดงามจนได้ชื่อเป็นเมืองเทพนิยาย ของมณฑลหยุนหนัน โดยจีนได้ส่งกองกำลังเข้าไปควบคุมเอกภาพและความสงบอันลึกลับที่นั่น

“แชงกรีลา ยังสงบดีอยู่ ดูที่นั่นสิ นั่นไง ไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก ถ้ามีพวกเขาอยู่...” เจ้าของร้านกาแฟกล่าว พร้อมทำท่าทางชี้ไปที่ตำรวจปราบจลาจลในรถบรรทุกที่กำลังแล่นผ่านเทือกเขา

ขณะนี้ จีนระดมมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยไปทั่วแชงกรีลา และบริเวณรอบๆที่เป็นดงชนชาติทิเบต

แชงกรีลาเดิมชื่อ “จงเตี้ยน” ต่อมา จีนเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นแชงกรีลาซึ่งแปลว่าแดนที่งดงามราวสรวงสวรรค์ เพื่อเป้าหมายการท่องเที่ยวเมื่อปี 2001 ตั้งอยู่ในแคว้นปกครองตัวเองชนชาติทิเบตแห่ง Deqen มีชาวทิเบตมากกว่า 114,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 34 ของประชากรที่นั่น ดินแดนตรงนี้ ว่ากันว่าเป็นส่วนหนึ่งของทิเบตก่อนผู้นำคอมมิวนิสต์สถาปนาอำนาจในปี 1949

หลังจากที่จลาจลระเบิดขึ้นในลาซาเมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ความไม่สงบในดินแดนชุมชนทิเบตภาคตะวันตกของแผ่นดินใหญ่ ในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) กันซู่ และชิงไห่

จีนได้ระดมกำลังรักษาความมั่นคงเข้าไป และปิดประตูจุดร้อนเหล่านั้น มิให้ผู้สื่อต่างชาติเข้าไป เห็นการกวาดล้างกลุ่มประท้วง

คนท้องถิ่น รวมทั้งพระทิเบตที่อารามกันเดน ซัมเซอลิง เล่าว่ากองกำลังทหารได้ผ่านเข้าในแชงกรีลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อโชว์กำลัง

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่หรอก หมามันก็ต้องเชื่อฟังเจ้าของของมัน มิใช่รึ?” ผู้จัดทัวร์ใน Deqen จากเขตชนชาติส่วนน้อยน่าซี ซึ่งไม่บอกชื่อ กล่าวและชี้ถึงกฎทางโลกว่า “ความแข็งแกร่งย่อมครอบงำความอ่อนแออยู่แล้ว ประชาชนที่นี่ใน Deqen ก็ย่อมเชื่อฟังพรรคคอมมิวนิสต์”

ตลาด Deqen ซึ่งมีชื่อเสียงของสีสันพ่อค้าแม่ค้าชาวทิเบต ร้างโล่งในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจทหารลาดตระเวนไปมาตามท้องถนน

“พวกเขามาโชว์ว่าเป็นห่วงเป็นใยชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน พรมแดนถูกปิดแล้ว เพราะสถานการณ์ในลาซา” เจ้าของร้านขายพรมเล่า

คนท้องถิ่นพยายามถามคนที่มาจากข้างนอก เกี่ยวกับข่าวสถานการณ์ล่าสุด และไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าทหารจีนยิงใส่กลุ่มประท้วงในเสฉวน

คนอื่นๆได้ย้ำสัญญาของรัฐบาล ถึงสันติภาพและความรุ่งโรจน์ของชาวทิเบตภายใต้อำนาจของจีน

“ทิเบตในหยุนหนันมีชีวิตที่ดีกว่าชาวทิเบตในที่อื่นๆ ดังนั้น พวกเราไม่ต้องการเห็นความวุ่นวาย มันจะทำลายธุรกิจของเรา” เจ้าของร้านเสื้อผ้ากล่าว.