เอเอฟพี/เอเจนซี - เกิดการประท้วงทั้งที่มาเลเซียและอินเดียเมื่อวันพฤหัสบดี (5) ภายหลังรัฐบาลของทั้งสองประเทศประกาศขึ้นราคาน้ำมัน เพื่อลดภาระในการอุดหนุนชดเชย โดยที่แดนเสือเหลือง กลุ่มฝ่ายค้านจัดการชุมนุมย่อมๆ ในเขตเมืองหลวงและเมืองใหญ่ทางภาคเหนือ ขณะที่ทางแดนภารตะ พรรคพันธมิตรร่วมรัฐบาลจัดการสไตรก์หยุดงานใน 3 รัฐ
ในมาเลเซีย กลุ่มฝ่ายค้านต่างๆ จัดการชุมนุมประท้วงในย่านใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และที่เมืองอีโปห์ เมืองเอกของรัฐเประ
"ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นภาระอันหนักหน่วงสำหรับประชาชน โดยเฉพาะคนยากจน" เป็นคำปราศรัยของ เทเรซา ค็อก ส.ส.พรรคเดโมแครติก แอคชั่น ปาร์ตี้ ต่อที่ชุมนุมในกัวลาลัมเปอร์ที่มีผู้เข้าร่วมราว 100 คน ซึ่งต่างชูแผ่นป้ายเขียนข้อความอย่างเช่น "น้ำมันขึ้นและเงินเดือนไม่ขึ้น" ในเวลาต่อมา ตำรวจและหน่วยปราบจลาจลก็ได้เข้ามาขับไล่ฝูงชนกระจัดกระจายไป
บรรดาผู้จัดการชุมนุม บอกว่า ที่อีโปห์มีคนเข้าร่วมมากว่า 100 คน และพวกเขายังจะจัดการชุมนุมเดินขบวนเพิ่มขึ้นอีกในสัปดาห์ต่อๆ ไป
นายกรัฐมนตรี อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย ประกาศเมื่อคืนวันพุธ (4) ขึ้นราคาน้ำมันประมาณ 40% ซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั่วประเทศ เมื่อผู้ขับขี่ยวดยานต่างแห่กันไปเติมน้ำมันตามปั๊ม ก่อนที่ราคาใหม่จะมีผลบังคับใช้ในตอนเที่ยงคืน
การจราจรที่แออัดคับคั่งทำให้ถนนสายต่างๆ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์อยู่ในสภาพติดขัดมาก โดยที่ตามปั๊มน้ำมันที่ยังมีน้ำมันราคาเก่าเหลืออยู่ มีรถเข้าคิวรอกันเป็นร้อยคัน
ทั้งนี้ ราคาใหม่สำหรับน้ำมันเบนซินจะอยู่ที่ลิตรละ 2.70 ริงกิต และดีเซลอยู่ที่ 2.58 ริงกิต จากเดิมเบนซินราคาเพียง 1.92 ริงกิต ซึ่งถือว่าถูกที่สุดชาติหนึ่งของเอเชียทีเดียว
นายกฯ อับดุลเลาะห์ บอกด้วยว่า ยังจะมีการปรับขึ้นราคาต่อไปอีก เพราะมาเลเซียจะค่อยๆ ปล่อยให้ราคาน้ำมันขายปลีกเป็นไปตามกลไกตลาด ภายหลังจากราคาน้ำมันโลกแพงลิ่วทำให้ภาระในการอุดหนุนชดเชยเพิ่มสูงมาก โดยรัฐบาลจะเปลี่ยนวิธีช่วยเหลือคนยากจนที่เดือดร้อนในรูปแบบอื่นๆ เช่น ผู้ขับยวดยานขนาดเล็ก จะได้รับเงินสดชดเชยเดือนละ 625 ริงกิต อันเท่ากับน้ำมัน 800 ลิตร
แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายคน ทักท้วงว่า การตัดลดการอุดหนุนคราวนี้ทำกันรุนแรงเกินคาด อีกทั้งการจ่ายเงินสดชดเชยก็ยังน้อยเกินไป
ในการปรับปรุงมาตรการอุดหนุนชดเชยราคาน้ำมันเที่ยวนี้ ยังจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าต่างๆ ต้องจ่ายค่าแก๊สแพงขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยที่จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 18% จากผู้ใช้ที่เป็นครัวเรือน และ 26% สำหรับผู้ใช้เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม
ทางด้านอินเดีย บรรดาพรรคแนวทางคอมมิวนิสต์ซึ่งต่างก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกลางอินเดียชุดปัจจุบัน ได้ประกาศสไตรก์เมื่อวานนี้ ทำให้ธุรกิจร้านค้า โรงเรียนสถานศึกษา และการคมนาคมขนส่ง ใน 3 รัฐที่พวกคอมมิวนิสต์เป็นผู้ปกครองระดับท้องถิ่นอยู่ ได้แก่ เบงกอลตะวันตก, เกรละ, ตริปุระ พากันปิดทำการ ตามท้องถนน สำนักงาน และกระทั่งสนามบิน ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพว่างเปล่าไร้ผู้คน
พันธมิตรคอมมิวนิสต์เหล่านี้ประกาศสไตรก์ 1 วันเมื่อวันพฤหัสบดี และจะดำเนินการประท้วงอื่นๆ อีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์
พวกเขา บอกว่า รัฐบาลกลางควรทำอะไรมากกว่านี้เพื่อปกป้องผู้บริโภคจากราคาน้ำมันโลกซึ่งสูงลิ่ว ถึงแม้การประกาศขึ้นราคาในประเทศคราวนี้ จะอยู่ในระดับเพียงประมาณ 10% ยังไม่ใช่การเลิกมาตรการอุดหนุนไปทั้งหมด