ผู้จัดการออนไลน์-- เวียดนามประกาศล่วงหน้ามานานเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน และผลิตให้พอกับความต้องการที่สูงขึ้นทุกปี แต่นักวิทยาศาสตร์กำลังถกเถียงกับภาครัฐว่า ควรจะเริ่มด้วยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเตาปฏิกรณ์เพียงหน่วยเดียวก่อน
นักวิทยาศาสตร์เวียดนามกล่าวว่า ภัยจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นมีจริงและยังดำรงอยู่ แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ก้าวหน้าสักเพียงใดก็ตามหากผู้ปฏิบัติงานยังไม่พร้อม ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีพอ
นักวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เกาะทรีไมล์ในสหรัฐฯ โรงไฟฟ้าเชรโนบีล (Chernobyl) ในอดีตสหภาพโซเวียต และที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในญี่ป่น
ตามแผนพัฒนาของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เวียดนามจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์สองแห่งพร้อมกันใน จ.นีงทวน (Ninh Thuan) ทางตอนใต้ของประเทศ โดยมีเตาปฏิกรณ์รวมกันสี่หน่วย มีกำลังปั่นไฟหน่วยละ 1,000 เมกะวัตต์ เริ่มเดินเครื่องในปี 2563 กับปี 2467
ความต้องการไฟฟ้าในประเทศพุ่งไม่หยุดในช่วงปีใกล้ๆ นี้ และยังผลิตได้ไม่พอกับความต้องการ แนวโน้มจะยิ่งสูงอีกหลายเท่าตัวในช่วงปีข้างหน้า
ศาสตราจารย์ฟั๊มยวีเฮียน (Phan Duy Hien) อดีตหัวหน้าสถาบันพลังงานนิวเคลียร์เวียดนาม (Vietnam Nuclear Energy Institute) ได้ให้ความเห็นสวนทางกับแผนการรัฐบาล โดยชี้ให้เห็นปัญหาด้านความปลอดภัยเป็นหลัก
ความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มิได้ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่ทักษะขององค์กรกับการบริหารจัดการและความชำนาญของระดับเจ้าหน้าที่ด้วย
อดีตผู้อำนวยการสถาบันพลังงานนิวเคลียร์ฯ กล่าวว่า หลังปี 2563 เตาปฏิกรณ์หนึ่งในสี่หน่วยจะมีพลังงานสูงกว่าเตาปฏิกรณ์ที่เมืองดาลัท (Dalat) ถึง 6,000 เท่า การปล่อยรังสีต่างๆ จะสูงกว่านั้นอีกหลายเท่า
ถ้าหากจะเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าในปี 2563 การก่อสร้างก็ควรจะเริ่มภายในปี 2558 ซึ่งหมายความว่าผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของประเทศจะต้องเตรียมการตั้งแต่บัดนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกจำนวนหนึ่งเห็นว่าอาจจะต้องเวลาถึง 15 ปีในการเตรียมฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ควบคุมส่วนสำคัญต่างๆ
นักวิชาการจำนวนมากกล่าว การสร้างเตาปฏิกรณ์พร้อมๆ กันถึง 4 หน่วยจะเป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเกินศักยภาพสำหรับเวียดนาม
นายเจิ่นดิ่งลอง (Tran Dinh Long) ดุษฎีบัณฑิตวิศวกรรมไฟฟ้ากล่าวกับหนังสือพิมพ์เทยบ๋าวกิงเตเหวียดนาม (Thoi Bao Kinh Te Vietnam) หรือ "ข่าวเศรษฐกิจเวียดนาม" ว่า การสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้ง่ายดายเหมือนสร้างอาคารสูง
ในประวัติศาสตร์การก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้น ยังไม่เคยมีประเทศใดโลกที่สร้างเตาปฏิกรณ์พร้อมๆ กันถึง 4 หน่วย แต่รัฐบาลกล่าวว่า การปั่นไฟให้ได้พร้อมๆ กัน 4,000 เมกะวัตต์ก็จะสนองได้เพียงประมาณ 15% ของความต้องการไฟฟ้าในปีโน้น
ประสบการณ์ใกล้ตัวที่สุดคือในจีน ซึ่งเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์แห่งแรกเมื่อปี 2534 ด้วยกำลังปั่นไฟเพียง 300 เมกะวัตต์เท่านั้น
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือปล่อยของเสีย แต่มิได้หมายความว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม เตาปฏิกรณ์ขนาดเล็กๆ สามารถทำลายชีวิตได้ในวงกว้าง
หลายคนชี้ให้เห็นโอกาสที่จะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุการณ์ระเบิดที่โรงไฟฟ้าเชรโนบีล ในอดีตสภาพโซเวียตเมื่อกว่า 20 ปีก่อน หรือที่เกาะทรีไมล์ในรัฐเพนซิลวาเนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากเวียดนามหย่อนในเรื่องความเชี่ยวชาญ
จนถึงวันนี้รัฐบาลเวียดนามยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรก แต่กำลังได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการสำรวจศึกษา ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องใช้เทคโนโลยีของญี่ปุ่นในที่สุด.