ASTVผู้จัดการออนไลน์-- หลังจากเตรียมการมาเป็นเวลานานข้ามปี ไทยและลาวได้ตกลงจะจัดพิธีเปิดใช้ทางรถไฟข้ามประเทศระยะทาง 3.5 กิโลเมตรในวันที่ 5 มี.ค. ขณะที่รัฐบาลลาวอนุญาตให้เปิดด่านสากลแห่งใหม่ที่สถานีรถไฟบ้านดองโพสี ตาแสงท่านาแล้ง ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขอวีซ่าเข้าประเทศได้ที่นั่น โดยไม่ต้องย้อนกลับไปยังด่านสะพานมิตรภาพอีก
ตามหมายกำหนดการนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระกรุณาธิคุณเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ของทางการลาวกล่าวว่าการเปิดใช้ทางรถไฟสายประวัติศาสตร์นี้ เป็นขีดหมายสำคัญสำหรับประชาชนลาว รถไฟจะเอื้ออำนวยให้มีการขนส่งสินค้าและการขนส่งผู้โดยสารที่สะดวกและราคาถูกลง เป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างลาวกับเพื่อนบ้าน
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่ รัฐบาลลาวได้อนุมัติให้เปิดใช้ด่านสถานีรถไฟบ้านดงโพสีเป็นด่านสากลที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าและออกลาวได้ ตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ศกนี้เป็นต้นไป เช่นเดียวกันกับด่านสากลสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงที่อยู่ห่างออกไปราว 3 กม.
ลาวและไทยได้มีข้อตกลงยกเว้นวีซ่าเข้าเมืองให้แก่พลเมืองสองประเทศ ชาวไทยสามารถนำหนังสือเดินทางไปตรวจลงตราเพื่อเข้าเมืองที่ด่านสากลแห่งใหม่ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่มีหนังสือเดินทางจะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตผ่านแดนชั่วคราว
สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศที่มีข้อตกลงเกี่ยวกับวีซ่าเข้าเมือง สามารถขอรับวีซ่าแบบ On-Arrival ที่ด่านสถานีรถไฟบ้านดงโพสีได้เช่นเดียวกัน
รถไฟไทย-ลาว จะให้บริการวันละ 4 เที่ยวไปและกลับ เป็นขบวนกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์วันละ 1 เที่ยว และมีรถไฟระยะสั้นหนองคาย-เวียงจันทน์อีก 1 เที่ยว ปัจจุบันสองฝ่ายกำลังร่วมกันพิจารณากำหนดอัตราค่าโดยสาร
ขณะเดียวกัน ดร.สมพง พนเสนา รองผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจรถไฟลาวกล่าวกับสำนักข่าวสารปะเทดลาว (ขปล.) ว่า ค่าบริการคมนาคมขนส่งถูกลงจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย รวมทั้งการท่องเที่ยว ซึ่งลาวมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามทางธรรมชาติจำนวนมาก ร่ำรวยด้วยแหล่งทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
ขณะเดียวกันทางรถไฟก็ทำให้ฝ่ายไทยสามารถเข้าสู่ตลาดสินค้าการเกษตรและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของลาวได้สะดวกยิ่งขึ้น นายสมพงกล่าว.
