xs
xsm
sm
md
lg

ปากบอกหย่าศึก “ฮุนเซน” เพิ่มงบกลาโหมอื้อซ่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<FONT color=#ff0000> พล.ท.วิบูลศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคสองของไทย นำคณะใหญ่เปิดการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาที่เสียมราฐ หาทางลดความตึงเคียดชายแดน ขณะเดียวกันในกรุงพนมเปญได้มีการเปิดเผยว่ารัฐบาลกัมพูชาได้เพิ่มงบประมาณกลาโหมขึ้นอีกเท่าตัวเพื่อปรับปรุงกองทัพ  (Reuters) </font>

ผู้จัดการรายวัน—รัฐบาลกัมพูชาได้เพิ่มเงินงบประมาณด้านการป้องกันประเทศตั้งแต่ 70-100% โดยจะยื่นขออนุมัติจากรัฐสภาในเดือนหน้า เพื่อใช้ในการปรับปรุงสวัสดิการความเป็นอยู่ของทหารและพัฒนาระบบต่างๆ ของกองทัพ

สิ่งนี้เป็นไปตามวาจาที่สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เคยกล่าวเอาไว้หลังจากทหารกัมพูชาปะทะกับทหารไทยที่ชายแดนด้านภูมะเขือ (Phnom Troap) ใกล้กับปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีทหารเขมรเสียชีวิต 3 คนและทหารไทย 7 นายได้รับบาดเจ็บ

ตามรายงานของสื่อในกัมพูชาที่อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวทางหาร รัฐบาลได้ขอเพิ่มงบประมาณกลาโหมขึ้นเป็น 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปีที่มีการ “ซื้อ” เรือลาดตระเวนน่านน้ำติดอาวุธจากจีนจำนวน 19 ลำ

แหล่งข่าวบางรายกล่าวว่า งบประมาณด้านกลาโหมที่เพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านดอลลาร์นี้ เป็นการเพิ่มประมาณ 70% จากปีงบประมาณ 2551 ขณะที่ สส.พรรคฝ่ายค่ายกล่าวว่าเป็นการเพิ่ม 100% จาก 250 ล้านดอลลาร์ในปีนี้

ในท่ามกลางตัวเลขที่ไม่ชัดเจนนั้น คำแถลงของคณะรัฐมนตรีที่ออกวันที่ 17 ต.ค. หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์เพียง 1 วัน ระบุว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศสำหรับปีงบประมาณ 2552 ขึ้นเป็นเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 30% จากปีงบประมาณ 2551
<FONT color=#ff0000> ติดมือกลับบ้าน-- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาถ่ายภาพก่อนพบหารือกับนายกรัฐมนตรีจีนนายเวินเจียเป่าในกรุงปักกิ่งวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลจีนได้ให้เงินกู้อีก 280 ล้านดอลลาร์แก่กัมพูชา (Reuters) </font>
นายเจียมเยียบ (Cheam Yeap) ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมปีนี้เป็นความเร่งด่วนในอันดับแรกๆ เนื่องจากองทัพจำเป็นต้องปรับปรุงเงินเดือน การรักษาพยาบาลของกำลังพล จัดซื้อเครื่องแบบใหม่และจัดการฝึกอบรม

นายเยียบกล่าวด้วยว่า หากมีความจำเป็นก็อาจจะต้องนำเงินสำรองของประเทศออกใช้จ่ายเพื่อการนี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวฝ่ายรัฐบาลได้ทำให้เกิดความกังวลขึ้นในซีกฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฏร 123 ที่นั่ง ด้วยเกรงว่าจะทำให้เกิดการทุจริตอย่างใหญ่โตในหมู่ผู้นำทหารรวมทั้งทำให้ประเทศเป็นหนี้ต่างชาติอย่างเท่าทวีอีกด้วย

สำหรับกัมพูชาซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% ในช่วงปีใกล้ๆ นี้ แต่เกือบครึ่งหนึ่งของประชากร 14 ล้านคนยังมีชีวิตอยู่กับความยากจนที่อยู่ใต้เส้นกำหนดความยากจนขององค์การสหประชาชาติ โดยมีรายได้เพียงวันละไม่ถึง 50 เซ็นต์
<FONT color=#ff0000>เลิกยิงกัน-- พล.ท.วิบูลศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคสองของไทย  ชนแก้ว กับ  พล.ท.เจียมอน (Chea Mon) แม่ทัพภาคสี่ของกัมพูชา หลังการเจรจาในเมืองเสียมราฐวันที่ 24 ต.ค.ประสบความสำเร็จ สองฝ่ายตกลงจะไม่ให้มีการยิงกันอีกตามแนวชายแดนที่รับผิดชอบ แต่รัฐบาลกัมพูชายังจะเพิ่มงบประมาณกลาโหมต่อไป (Reuters) </font>
งบกลาโหมที่รัฐบาลจัดทำใหม่นี้คิดเป็นเกือบ 25% ของงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเพียง 2,000 ล้าดอลลาร์เศษ ทั้งนี้เป็นตัวเลขร่างงบประมาณที่สภาเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้บริจาคปลายปีที่แล้ว

นายสนชัย (Son Chhay) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคสมรังสี กล่าวว่าการเพิ่มงบประมาณกลาโหมกำลังจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยชี้ให้เห็นผลพวงจากการเพิ่มงบการทหารของสหรัฐฯ เพื่อทำสงครามในอิรัก

สส.ฝ่ายค้านผู้นี้กล่าวว่า จะขอให้รัฐบาลทบทวน การใช้จ่ายของกองทัพที่ผ่านๆ มา

"ในอดีตเราได้เห็นรัฐบาลนำเงินกู้จากต่างประเทศไปใช้ซื้ออาวุธและอุปกรณ์ทางทหาร เช่นการซื้อเรือลาดตระเวนจากจีน ขณะที่เรามีงบประมาณกลาโหมเพียง 250 ล้านดอลลาร์เท่านั้น" สส.พรรคสมรังสีคนเดียวกันกล่าว

"เราได้รับข้อมูลว่ามีการยักยอกเงินงบประมาณกลาโหมปีละนับล้านๆ ดอลลาร์ เช่นเคยมีการกล่าวอ้างว่ากองทัพมีกำลังพล 140,000 คน ทั้งๆ ที่จำนวนแท้จริงมีอยู่เพียงไม่เกิน 50,000"
<FONT color=#ff0000> ภาพถ่ายวันที่ 17 ต.ค.2551 หลังการปะทะสองวันที่ชายแดนรภูมะเขือ ทหารกัมพูชาสองคนนี้มีปืนกล AK47 อาก้า เก่าๆ ตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองเป็นอาวุธประจำกาย (Reuters) </font>
"มีการยักยอกเงินงบประมาณกลาโหมหลายอย่าง เช่น เครื่องแบบทหาร ข้าว อาหารและน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับกำลังพลเหล่านี้เป็นต้น ทหารที่ส่งไปเผชิญหน้ากับทหารไทยที่ชายแดนบอกกับนักข่าวว่าสี่ถึงห้าปีมานี้พวกเขาไม่เคยได้รับเครื่องแบบกับรองรองเท้าจากกองทัพเลย" นายสนชัย กล่าว

กัมพูชามีความจำเป็นต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพ แต่รัฐบาลจะต้องให้หลักประกันให้ได้ว่างบกลาโหมจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้องและไม่ยอมให้มีการคอร์รัปชั่นในกองทัพเช่นที่เป็นอยู่ นายชัยกล่าว

พล.อ.เนียงฟั๊ต (Neang Phat) ปลัดกระทรวงกลาโหมเปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 ต.ค.(หลังเกิดการปะทะหนึ่งวัน) ที่ผ่านมาว่า ในยามสงบทหารจะใช้ชีวิตทำนาทำไร่กับครอบครัว ไม่ได้อยู่ประจำในกรมกองหรือค่ายทหาร

ทหารกัมพูชาส่วนใหญ่มีรายได้เป็นเงินเดือนๆ ละ 200,000 เรียล (ประมาณ 50 ดอลลาร์) เท่านั้น จึงต้องทำมาหาเลี้ยงชีพเหมือนคนทั่วไปด้วย

รัฐบาลกำลังจะนำพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดเข้าขอความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาในเดือน พ.ย. ซึ่งเชื่อว่าสภาผู้แทนฯ ซึ่งสมาชิก 90% เป็นคนของพรรครัฐบาลจะลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณอย่างง่ายดาย
<FONT color=#ff0000> ภาพถ่ายวันที่ 19 ต.ค.2551 หรือสี่วันหลังการปะทะทหารกัมพูชาที่เสริมเข้าไปใหม่ มีหลายคนที่ถือ AK47 รุ่นใหม่ด้ามเหลือง พร้อมเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี เบ41 (B40) ของเล่นใหม่ซึ่งผลิตในจีน (Reuters) </font>
ตามรายงานที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศจัดทำขึ้นในเดือน พ.ย.2550 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้บริจาคให้การช่วยเหลือแก่กัมพูชานั้น ประเทศนี้จะขาดดุลงบประมาณอย่างมหาศาลในปี 2551 เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและรายได้จากการจัดเก็บภาษีทุกชนิดจะลดลง

เจ้าหน้าที่กัมพูชาแถลงว่ารัฐบาลต้องใช้เงินราว 300 ล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศในช่วงปี 2551 นี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดความโกลาหลในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ข้าวยากหมากแพง

จนถึงปัจจุบันนี้ราว 60% ของเงินงบประมาณรายจ่ายของประเทศ เป็นเงินที่ได้รับการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาจากประเทศผู้ให้บริจาคหรือองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ต่างๆ ทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินกู้ปริมาณมหาศาลในแต่ละปีสำหรับโครงการพัฒนาต่างๆ

และในช่วงหลายปีมานี้รัฐบาลของสมเด็จฯ ฮุนเซนได้กู้เงินกว่าพันล้านดอลลาร์จากประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาต่างๆ

**จีนให้กู้อีก $280 ล้าน**

ระหว่างเยือนจีนอย่างเป็นทางสัปดาห์ที่แล้วโดยสมเด็จฯฮุนเซน รัฐบาลจีนได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่รัฐบาลกัมพูชาอีก 280 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่ผู้นำกัมพูชาคาดหมายเอาไว้จำนวน 300 ล้าน แต่ไม่มีการกล่าวถึงเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือเพื่อซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ
<FONT color=#ff0000> ภาพจากแฟ้มทหารกัมพูชาบนเรือลาดตระเวนน่านน้ำ 1 ใน 9 ลำจากทั้งหมด 19 ลำที่ทางการจีนส่งมอบให้ปีที่แล้ว (ภาพ: เอเอฟพี)   </font>
<FONT color=#ff0000> ภาพจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง รถลำเลียงพลหุ้มเกราะคันนี้ต้องแวะเข้าซ่อมเองที่ร้านยางริมถนนใกล้กับกรุงพนมเปญ ฮาร์ดแวร์ทางทหารของกัมพูชาล้วนเก่าและทรุดโทรม</font>
นายฮอร์นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า เงินก้อนแรก 200 ล้านดอลลาร์จะนำไปใช้สร้างระบบชลประทานใน จ.พระตะบอง (Battambang) ซึ่งเป็นเขตปลูกข้าวใหญ่อีกแห่งหนึ่งของประเทศ โครงการก่อสร้างเขื่อนกั้นนำใน จ.กัมโป้ท (Kampot) เพื่อป้องกันน้ำท่วม

อีกส่วนหนึ่งจะใช้ในโครงการติดตั้งสายส่งไฟฟ้าในกรุงพนมเปญ และสร้างถนนระยะทาง 129 กม.จากเมืองกัมปงธม (Kampong Thom) ไปยัง จ.พระวิหาร

เงินกู้จากจีนอีก 80 ล้านดอลลาร์จะนำไปใช้ในการสร้างทางหลวงเชื่อมจังหวัดจาก อ.ปงโมน (Pong Moan) จ.สตึงแตร็ง (Stung Treng) ไปยังเมืองบันลุง (Banlumg) เมืองเอกของ จ.รัตนคีรี นายฮองกล่าว

ตามรายงานของสำนักข่าวเอเคพี (Agence Kampuchean-Presse) ซึ่งเป็นสำนักข่าวของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจีน นายเวินเจียเป่า (Wen Jiabao) ได้รับปากกับสมเด็จฯ ฮุนเซน จะช่วยสำรวจโครงการทางรถไฟเชื่อมกรุงพนมเปญกับชายแดนเวียดนามอีกด้วย

ทางรถไฟความยาว 300 กม.เศษนี้ เป็นช่วงที่ "ขาดหายไป" ในโครงการเชื่อมทางรถไฟจากสิงคโปร์ไปยังเมืองคุนหมิงของจีน
<FONT color=#ff0000> ภาพถ่ายวันที่ 16 ต.ค.2551 หลังการปะทะ 1 วัน ทหารกัมพูชาบนรถลำเลียงพลหุ้มเกราะติดปืนไร้แรงสะท้อนผ่านบ้านสะแรม (Sraem) จ.พระวิหาร มุ่งหน้าสู่ชายแดน (Reuters) </font>
จีนได้เป็นหลังพิงสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านป้องกันประเทศแก่กัมพูชา ทั้งการฝึกอบรมบุคคลกรของกองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่งรวมทั้งการ “สนับสนุน" เรือลาดตระเวนตรวจการ 19 นำเมื่อปีที่แล้วด้วย

สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวว่า เรือทั้งหมดสั่งซื้อจากจีนเมื่อหลายปีก่อน แต่แหล่งข่าวทางทหารกล่าวว่า ทั้งหมดเป็นสิ่งของที่รัฐบาลจีนส่งไปช่วยเหลือ โดยฝ่ายกัมพูชาเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพียงเล็กน้อย

ระหว่างการสู้รบและการเผชิญหน้ากับไทยในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ผู้สังเกตการณ์ทางทหารได้เห็นภาพทหารกัมพูชาส่วนใหญ่ใช้อาวุธปืน AK47 "อาก้า" กระอบกเก่าๆ กับเครื่องยิงลูกระเบิดอาร์พีจีเบ40 (B40) ต่อสู้กับฝ่ายไทย

กับอีกส่วนหนึ่งใช้น้ำมันหล่อลื่นชโลม ขัดสนิมจากปืนกลหนักและปืนไร้แรงสะท้อน ซึ่งทั้งหมดเป็นอาวุธตกค้างมาจากยุคสงครามกลางเมือง

อย่างไรก็ตามภาพถ่ายของสำนักข่าวต่างประเทศได้เห็นทหารอีกจำนวนหนึ่ง ถือปืนเอเค47 รุ่นใหม่ พายท้ายยังเป็นสีเหลืองส้มสดใส อีกจำนวนหนึ่งใช้เครื่องยิงระเบิด "เบ41" (B41) ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า และทั้งหมดผลิตจากจีน.
กำลังโหลดความคิดเห็น