xs
xsm
sm
md
lg

เขมรขนจรวด, ปืนใหญ่เพียบเตรียมอัดกับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#ff0000> รอยเตอร์ไม่ได้บอกว่าภายใต้ผ้าใบบนรถบรรทุกเป็นอะไร แต่ที่เห็นอาจจะเป็นขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน ซึ่งฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าเครื่องบินของไทยบินล้ำน่านฟ้าเมื่อวันพุธ หรืออาจจะเป็น จรวดหมู่ โจมตีทำลายระยะปานกลาง แบบยิงจากพื้นสู่พื้นที่ทำในโซเวียต ภาพถ่ายวันที่ 16 ต.ค.2551 ที่บริเวณหมู่บ้านภูมิสะแรม (Phoum Sraem) ใกล้ชายแดนใน จ.พระวิหาร (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์ -- ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมทหาร รถลำเลียงพล ปืนใหญ่ ตลอดจนจรวดเข้าสู่เขตชายแดนด้านเขาพระวิหาร เตรียมพร้อมสู้รบกับฝ่ายไทยเต็มอัตราศึกหลังจากการปะทะเมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ที่บริเวณที่อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารราว 2 กิโลเมตร

ภาพถ่ายของสำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยให้เห็นการเคลื่อนกำลังพลบนรถบรรทุกทหาร หลายคัน มีปืนใหญ่บนรถลากเคลื่อนเข้าสู่เขตแนวหน้า รวมทั้งปืนไร้แรงสะท้อน ต่อสู้รถถัง

มีอยู่อีกภาพหนึ่งซึ่งอาจจะเป็น “จรวดชุด” แบบยิงจากพื้นสู่พื้น (surface-to-surface missiles) หรืออาจจะเป็นขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบยิงจากพื้นสู่อากาศ (surface-to-air missile) ที่ทำในสหภาพโซเวียตในอดีต

ทั้งหมดติดตั้งบนรถบรรทุกทหารโดยใช้ผ้าคลุมอีกชั้นหนึ่ง สามารถเคลื่อนที่ไปตามจุดต่างๆ ได้

ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างว่า วันพุธที่ผ่านมาเครื่องบินของไทยได้บินล้ำน่าฟ้า อันเป็นการกล่าวหาที่ฝ่ายไทยปฏิเสธ

ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวต่างประเทศนี้ แสดงให้เห็นการเคลื่อนกำลังพลหลักของฝ่ายกัมพูชาเข้าสู่พื้นที่ชายแดน หลังจากใช้หน่วยกองโจรซึ่งเป็นทหารในท้องถิ่นปะทะกับฝ่ายไทยเมื่อวันพุธ
<CENTER><FONT color=#ff0000> ภาพถ่ายวันที่ 16 ต.ค.2551 ทหารกัมพูชาบนรถบรรทุกที่ลากปืนใหญ่ เคลื่อนเข้าถึงบ้านภูมิสะแรม (Phoum Sraem) ที่ชายแดน จ.พระวิหาร (ภาพ:. Reuters) </FONT></CENTER>
ผู้บัญชาการทหารของไทยในพื้นที่ ยืนยันว่า การปะทะครั้งนี้ยังไม่มีการใช้อาวุธหนักใดยิงถล่มทหารกัมพูชา เป็นเพียงการปะทะด้วยอาวุธประจำกายเท่านั้น และไม่มีการโจมตีทางอากาศ

การสู้รบเกิดขึ้นในเขตพิพาทชายแดนด้านภูมะเขือ หรือ พนมโตร๊บ (Phnom Troap) ระหว่าง จ.พระวิหาร กับ จ.ศรีสะเกษ ของไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้างสิทธิ์ตามแผนที่ที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน

แต่ดินแดนดังกล่าวอยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย และเป็นเขตแดนของไทยในแผนที่ยุคใหม่ที่จัดทำขึ้นโดยสหรัฐฯ

ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาในพื้นที่ กล่าวหาว่า ทหารได้ได้เข้าโจมตีทหารกัมพูชาใน 3 จุดด้วย ตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร แต่ฝ่ายไทยได้ปฏิเสธการกล่าวหาดังกล่าว

นายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวเมื่อวันพุธกล่าวหาว่าทหารไทยจำนวน 84 นาย ได้ล้ำแดนกัมพูชาเข้าไปตั้งแต่ไม่กี่ร้อยเมตรจนถึง กว่า 1 กิโลเมตร อันเป็นการกล่าวหาที่ไทยปฏิเสธเช่นกัน

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า ทหารไทยได้เฝ้าดินแดนดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว ขณะที่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาค 2 ของไทยกล่าวว่าทหารดังกล่าวถูกส่งเข้าตรวจกับระเบิดในพื้นที่และได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาทราบล่วงหน้า
<CENTER><FONT color=#ff0000>  ภาพนี้แสดงให้เห็นทหารกัมพูชาพร้อมปืนไร้แรงสะท้อนต่อสูรถถัง-โจมตี นั่งบนรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ ขณะเคลื่อนเข้าสู่บล้านภูมิสะแรมเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#ff0000>  กำลังทหารเขมรหยุดพักที่บ้านภูมิสะแรม ใกล้กับปราสาทพระวิหารเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ กัมพูชาได้เสริมทหารหลักพร้อมอาวุธหนักเข้าสู่ชายแดนอีกรอบหนึ่งหลังการปะทะกับทหารไทนที่ชายแด้านภูมะเขือเมื่อวันพุธ (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>
ระหว่างการเยือนกัมพูชาของ รมว.ต่างประเทศไทย ในวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ยื่นคำขาดให้ไทยถอนทหารชัดดังกล่าวออกจาก “ดินแดนกัมพูชา” ใน “วันนี้พรุ่งนี้” หรือไม่อาณาบริเวณดังกล่าวก็จะกลายเป็น “เขตแดนแห่งความเป็นความตาย”

สองฝ่ายยังผลัดกันกล่าวหาว่าอีกฝ่ายหนึ่งเริ่มยิงก่อน ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันเมื่อวันพุธ

ยังไม่มีรายงานเหตุรุนแรงใดๆ ในวันพฤหัสบดี ซึ่งทหารของทั้งสองฝ่ายนัดพบเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาพิพาทชายแดนอย่างสันติ

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการกัมพูชาเริ่มอพยพผู้คนออกจากเขตเมืองอันลองแวง (Anlong Verng) จ.อุดรมีชัย มุ่งหน้าไปยังเมืองเสียมราฐ

ที่นั่นอยู่ห่างจากเขาพระวิหารไปราว 80 กม.เป็นเมืองที่อยู่ใกล้เขตแดนไทยมากที่สุด กล่าวคือ เพียง 20 กม.เศษ จากช่องสะงำ ชายแดนด้าน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชา ได้เตรียมพร้อมรับมือหากการสูรบลุกลามข้ามเขตแดนเข้าไป
กำลังโหลดความคิดเห็น