ผู้จัดการออนไลน์ -- ทางการกัมพูชาออกมายอมรับในวันพุธ (15 ต.ค.) ที่ผ่านมามีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย ในเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทยเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ที่ชายแดนภูมะเขือ หรือ พนมโตร๊ป (Phnom Troap) ด้าน จ.พระวิหาร กับ จ.ศรีสะเกษ ของไทย
รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในกรุงพนมเปญ ทั้งยอมรับอีกว่า มีทหารกัมพูชาอีก 2 นาย ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์เดียวกัน
ส่วนในประเทศไทย พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า มีทหารไทยจำนวน 5 นาย ได้รับบาดเจ็บในเหตุปะทะ ในอาณาบริเวณที่อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารไปทางทิศตะวันออกราว 2 กิโลเมตร
ฝ่ายทหารของไทย กล่าวว่า มีทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 นาย ในเหตุการณ์ยิงต่อสู้ครั้งนี้ ขณะที่ รมว.ต่างประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ทหารที่บาดเจ็บมีเพียง 2 นาย
ระหว่างการเยือนของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย เมื่อวันจันทร์ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยื่นคำขาดให้ไทยถอนทหารออกจากอาณาบริเวณพิพาทด้านภูมะเขือ โดยกล่าวหาว่า ทหารไทย 84 นายได้ยึดบริเวณดังกล่าว และตั้งมั่นใกล้กับที่ตั้งฝ่ายกัมพูชา
กัมพูชาเรียกอาณาบริเวณที่เกิดการเผชิญหน้ากับทหารไทยครั้งใหม่ว่า “ลานอินทรี” (Veal Entry) ซึ่งนายทหารคนหนึ่งบอกกับหนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ในกัมพูชา เมื่อวันอังคารว่า เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ หากสูญเสียให้แก่ฝ่ายไทยก็จะเป็นการสูญเสียการควบคุมปราสาทพระวิหาร
ในวันอังคารนายทหารกัมพูชาได้โหมประโคมข่าวสิ่งที่เรียกว่า “การถอนทหารของไทย” ซึ่งมีขึ้นก่อนครบ “เส้นตาย” เวลาเที่ยงวัน อันเป็นการกล่าวอ้างที่ฝ่ายไทยได้ออกปฏิเสธ
แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย กล่าวว่า ทหารไทยจำนวนดังกล่าวถูกส่งเข้าพื้นที่โดยได้แจ้งให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบล่วงหน้า เพื่อปฏิบัติภารกิจตรวจกับระเบิด
แม่ทัพภาค 2 กล่าวอีกว่า ฝ่ายไทยได้ทำการตรวจกับระเบิดตามแนวชายแดนหลังจากทหารไทย 2 นาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสในวันที่ 6 ต.ค.ที่ชายแดนด้านภูมะเขือ เพื่อดูว่าเป็นกับระเบิดที่ถูกนำไปวางใหม่หรือเป็นของเดิมที่ตกค้างมาตั้งแต่ครั้งสงคราม
หากมีการลักลอบนำกับระเบิดเข้าไปวางใหม่ก็จะเป็นกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
การปะทะเมื่อวันพุธนี้เกิดขึ้นหลังจากการตอบโต้ด้วยวาจาและการเสริมกำลังทหารเข้าสู่ชายแดนด้านภูมะเขือ และเมื่อการปะทะยุติลงไทยกับกัมพูชายังคงกล่าวหา ซึ่งกันและกันว่า ทหารอีกฝ่ายหนึ่งเริ่มยิงก่อน
“ทหารไทยล้ำแดนของเราเข้ามา” สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำพูดของพลจัตวาบุนเทียน (Bun Thean) ทั้งกล่าวหาว่าทหารไทยเป็นฝ่ายยิงปืนนัดแรก
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยได้ปฏิเสธการกล่าวหาดังกล่าว ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า พร้อมที่จะออกคำเตือนให้ชาวไทยที่อยู่ในกัมพูชาขณะนี้เดินทางกลับประเทศหากจำเป็น
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา กล่าวอ้างว่า ทหารไทยจำนวน 10 นาย ที่ประจำการในเขตพิพาทแห่งหนึ่งได้ยอมจำนวนต่อฝ่ายกัมพูชา อันเป็นการกล่าวอ้างที่แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทยปฏิเสธ
ทหารกัมพูชากว่า 1,000 นาย กับทหารไทยอีกราว 500 นาย เคยเผชิญหน้ากันที่อาณาบริเวณวัดแห่งหนึ่งใกล้กับปราสาทพระวิหาร ต่อมาได้ตกลงกันลดกำลังพลลงเหลือฝ่ายละประมาณ 50 นาย