xs
xsm
sm
md
lg

ไทยยอมถอนกำลังจากที่ตั้งเขมรในเขตพิพาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000> ทหารกัมพูชาอาวุธครบมือออกลาดตระเวณในเขต ลานอินทรี ที่ทหารไทยยอมถอยกลับออกไปยังที่ตั้งเดิมเมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) กองทัพภาค 2 ของไทยออกแถลงในวันเดียวกันยืนยันทหารไทยไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ชายแดน (ภาพ: Reuters)  </FONT></CENTER>
ผู้จัดการรายวัน -- นายทหารกองทัพกัมพูชา กล่าวว่า ฝ่ายไทยได้ยอมถอนทหารออกจากบริเวณ “ลานอินทรี” (Veal Entry) อันเป็นที่ตั้งของกองกำลังฝ่ายกัมพูชาในเขตแดนพิพาทด้านภูมะเขือ (Phnom Troap) ทางตะวันออกของปราสาทพระวิหาร ในตอนเช้าวันอังคาร (14 ต.ค.) หลังจากได้เข้าไปตั้งมั่นในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

นายทหารกัมพูชาอย่างน้อย 2 คน ได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันเรื่องนี้ในวันเดียวกัน คือ พล.อ.เนียงฟัต (Neang Phat) ปลัดกระทรวงกลาโหมกับ พล.จ.ยืมปืม (Yeum Peum) นายทหารระดับรองผู้บัญชาการในพื้นที่ด้านปราสาทพระวิหาร

อาณาบริเวณดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในเขตแดนด้านตะวันออกใกล้กับพื้นที่ราว 4.5 ตารางกิโลเมตรในเขตปราสาทพระวิหาร ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาต่างกล่าวอ้างสิทธิ์ ในขณะที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตสันปันน้ำของไทย แต่กัมพูชากล่าวอ้างว่าเป็นเขตแดนที่ถูกผนวกในแผนที่ที่ฝรั่งเศสทำขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน

สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยื่นคำขาดแก่ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ที่ไปเยือนเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) ให้ไทยต้องถอนทหารออกไปจากบริเวณดังกล่าว “ภายในวันนี้พรุ่งนี้” หรือไม่เช่นนั้นก็จะต้องเกิดการปะทะด้วยกำลังอาวุธ และที่นั่นจะเป็น “พื้นที่แห่งความตาย”

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน ได้ออกประกาศทางโทรทัศน์กัมพูชาอีกครั้งหนึ่งในเช้าวันอังคาร กล่าวถึง “การรุกราน” ของไทยอย่างโกรธแค้น และ ตอกย้ำเรื่อง “เส้นตาย” ที่ยื่นต่อฝ่ายไทยอีกครั้ง

หนังสือพิมพ์กัมโบดจ์ซวาร์ (Cambodge Soir Hebdo) ภาษาฝรั่งเศส รายงานบนเว็บไซต์ในวันอังคาร อ้างการเปิดเผยของ พล.จ.ปืม ว่า ทหารไทยได้ถอนออกไปจากบริเวณ “ลานอินทรี” เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ก่อนจะถึง “เส้นตาย” ที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชากำหนดในเวลาเที่ยงวัน

สมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวเมื่อวันจันทร์ ระบุว่า ทหารไทยจำนวน 84 นาย ได้เข้าไปตั้งมั่นที่นั่น ประจันหน้ากับฝ่ายกัมพูชาที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ประมาณ 30 เมตร

ตามรายงานของสื่อในกัมพูชา “ลานอินทรี” เป็นชื่อที่ฝ่ายกัมพูชาใช้เรียกบริเวณลานกว้างที่อยู่ระหว่างสันเขาด้านตะวันออกปราสาทพระวิหาร เคยเป็นที่ตั้งมั่นของฝ่ายเขมรแดง ที่นำโดย นายพลตาม๊อก (Ta Mok) ในช่วงปีที่ยังทำสงครามกองโจรต่อสู้กับรัฐบาลของนายฮุนเซน ที่เวียดนามหนุนหลังในอดีต
<CENTER><FONT color=#Ff0000> พล.อ.เนียงฟัต (Neang Phat) ปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชา (ขวา) สนทนากับสมาชิกรัฐสภาจากเยอรมนีระหว่างประชุมในสิงคโปร์เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มอาเซียนพยายามหาทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุในพม่า นายทหารผู้นี้ยืนยันในวันอังคารว่า ทหารไทยได้ออกไปจาก ลานอินทรี แล้ว (ภาพ: AFP)  </FONT></CENTER>
ถนนที่ตัดเลียบไปตามไหล่เขาทางด้านตะวันตกของปราสาท และถูกใช้เป็นเส้นทางเดินไปยังปราสาทพระวิหารในปัจจุบันนี้ก็ยังถูกเรียกว่า “ถนนตาม๊อก” และอาณาบริเวณอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ถัดไปก็ยังเรียกว่า “ลานตาม๊อก” จนถึงทุกวันนี้

“เราถือว่าลานอินทรีเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นจุดแห่งความเป็นความตายของพวกเรา” พล.จ.ปืม กล่าวกับกัมโบดจ์ซวาร์ ทั้งสำทับว่า การเสียที่มั่นแห่งนั้นไป จะเป็นการสูญเสียการควบคุมปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาจะต้องรักษาที่ตั้งแห่งนั้นให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด

สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้ออกโทรทัศน์แถลงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในภาคเช้าวันอังคาร สำทับอย่างโกรธแค้นให้ฝ่ายไทยต้องถอนทหารตามเงื่อนเวลาที่ยื่นต่อรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย

“โฆษกของรัฐบาลในกรุงเทพฯ คนหนึ่ง กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของพวกเขา...” นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพูดผ่านหน้าจออย่างแค้นเคือง

“มันเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาเพิ่งจะเข้าไปที่นั่นเมื่อวานนี้” ผู้นำกัมพูชา กล่าว

“ถ้าหากพวกเขาคิดว่ากัมพูชาจะมองข้ามได้ ก็ให้พวกเขาพูดไป!” สมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าว

“อย่างไรก็ตาม มดสามารถสร้างความรำคาญให้แก่ช้างที่กำลังหลับได้เหมือนกัน พวกเขาอาจจะเหยียบหัวแม่เท้าของผมได้ แต่จะเหยียบหัวผมไม่ได้” ผู้นำกัมพูชากล่าวทางโทรทัศน์ ในกิริยาที่เกรี้ยวกราด

นายสมพงษ์ ได้พบเจรจากับ นายฮอร์ นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเรื่องปัญหาชายแดน โดยไม่สามารถตกลงอะไรกันได้ และในเวลาต่อมาได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก่อนจะเดินทางกลับ พร้อมกับคำขาดให้ถอนทหาร

ส่วนปลัดกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยืนยันกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ทหารไทยได้ออกจากเขต “ลานอินทรี” เมื่อเวลา 04.00 GMT เวลามาตรฐานกรีนิซ ซึ่งตรงกับเวลา 11.00 น.ในประเทศไทยและกัมพูชา
CENTER><FONT color=#FF0000> นายกรัฐมนตรีกัมพูชาต้อนรับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์  รมว.ต่างประเทศของไทย ที่เข้าเยี่ยมคำนับเมื่อวันจันทร์ (13 ต.ค.) แต่กลายเป็นว่า เป็นการไปรับ คำขาด ของผู้นำกัมพูชา (ภาพ: AFP) </FONT></CENTER>
พล.จ.ปืม ได้บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีเช่นกันว่า “ทหารไทยยอมถอย”

“พวกเขาถอนออกไปจากพื้นที่ (ลานอินทรี) แล้ว.. และกลับไปยังกองบัญชาการห่างออกไปราวหนึ่งกิโลเมตร” นายทหารคนเดียวกัน กล่าว ทั้งยืนยันว่า สถานการณ์ได้ความตึงเครียดลง แต่ฝ่ายกัมพูชายังคงพร้อมระดับสูงต่อไป

ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ทหารไทยราว 500 นาย ได้เผชิญหน้ากับทหารกัมพูชากว่า 1,000 คนในเขตวัดแห่งหนึ่งใกล้กับปราสาทพระวิหาร ซึ่งอยู่ในเขตแดนพิพาท ต่อมาได้ตกลงกันถอนกำลังออกไปเหลือเพียงฝ่ายละประมาณ 50 นาย ระหว่างรอการแก้ไขปัญหาพรมแดนด้วยการเจรจา

อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังของสองฝ่ายได้แพร่ลามไปยังจุดอื่นๆ ซึ่งเส้นแบ่งเขตแดนยังไม่ชัดเจน รวมทั้งด้านปราสาทตาเมือนกับปราสาทตาควายที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์

ทหารไทยกับทหารเขมรได้ปะทะกันด้วยอาวุธเป็นครั้งแรกในวันที่ 10 ต.ค.ที่ชายแดนด้านภูมะเขือ ห่างจากเขตพระวิหารไปทางทิศตะวันออกราว 2 กม.

อีกสองวันถัดมาทหารไทยสองคนเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะลาดตระเวนในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น