ผู้จัดการรายวัน— ทางการพม่าเริ่มทำการสำรวจพื้นที่เพื่อก่อสร้างสนามบินเงวซอง (Ngwe Saung) ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวทางทะเลและหาดทรายที่สวยงามริมฝั่งทะเลเบงกอง
สมาคมการท่องเที่ยวและสมาคมโรงแรมในพม่ากำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศขึ้นใหม่ หลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปราบปรามการเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยในเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่พม่ากล่าวว่าไซโคลนนาร์กิส (Nargis) ที่พัดเข้าทำลายล้างเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี (Irawaddy) เขตย่างกุ้ง และเขตพะโค (Bago) ในเดือน พ.ค. ได้เข้าซ้ำเติมการท่องเที่ยวของประเทศ
ตามรายงานของนิตยสารข่าวเมียนมาร์ไทมส์ การสำรวจพื้นที่สร้างสนามบินเริ่มขึ้นในกลางเดือน ก.ย. อยู่ห่างจากบริเวณหาดเงวซองราว 1.5 กิโลเมตร ใกล้กับหมู่บ้านตาซิน (Thazin)
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเปิดเผยว่าสนามบินเงวซองจะมีความกว้าง 2,256 เมตร ความยาว 4,570 เมตร โดยสร้างทางวิ่งขึ้นลงของเครื่องบินขนานกับชายฝั่งทะเล คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
หาดเงวซองได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี 2542 แต่เนื่องจากขาดระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานทำให้การพัฒนาค่อนข้างล่าช้า ปัจจุบันเดินทางจากกรุงย่างกุ้งไปที่นั่นได้โดยรถยนต์ตามถนนระยะทาง 232 กม.
อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้เลือกการขึ้นเครื่องบินจากย่างกุ้งไปลงเมืองพะสิม (Patein) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี และเดินทางโดยรถยนต์เป็นระยะทางอีก 48 กม.ไปยังหาด
ปัจจุบันนักลงทุนทั้งชาวพม่าและชาวต่างชาติได้เข้าไปลงทุนสร้างโรงแรม รีสอร์ทระดับคุณภาพต่างๆ ตามหาดทรายหลายแห่ง รวมทั้งหาดชองตา (Chaung Tha) และหาดงาปาลี (Ngapali) ด้วย
“หาดต่างๆ ในพม่า ปัจจุบันมีเพียงหาดงาปาลีเท่านั้นที่สามารถเดินทางไปโดยเครื่องบินได้ หาดเงวซองจะเป็นแห่งที่สอง และจะทำให้นักเดินทางแห่ไปที่นั่น” เจ้าของโรงแรมชาวรัสเซียผู้หนึ่งกล่าว
ความเสี่ยงของการท่องเที่ยวหาดทรายริมทะเลเบงกอลก็คือ ที่นั่นจะมีพายุไซโคลนจากมหาสมุทรอินเดียพัดเข้ากระหน่ำ 2-3 ปีต่อครั้ง เช่นเดียวกันกับไซโคลนนาร์กิสในต้นเดือน พ.ค.ปีนี้
ตามรายงานของสื่อทางการ ในเดือน เม.ย.2549 ไซโคลนมาลา (Mala) เคยพัดกระหน่ำแถบชายฝั่งจนถึงเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี หมู้บ้าน รีสอร์ทและเรือนพักของนักท่องเที่ยวจำนวนมกาถูกทำลายราบ
หลังไซโคนนาร์กิส พัดเข้าถล่มระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.ปีนี้ โรงแรมรีสอร์ตริมหาดหลายแห่งได้รับความเสียหายต้องซ่อมแซม
พายุไม่เพียงแต่ทำลายอาคารและบ้านเรือนราษฎรเท่านั้น แต่ยังทำลายโบราณวัตถุสำคัญจำนวนมาก แม้กระทั่งเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญการท่องเที่ยวของประเทศในกรุงย่างกุ้งก็ได้รับความเสียหาย
ความเสียหายจากพายุลูกนี้ลุกลามไปจนถึงเขตพะโค (Bago) หรือหงสาวดี ปลายทางท่องเที่ยวสำคัญที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงย่างกุ้ง
การท่องเที่ยวที่กำลังโลดแล่นได้หยุดชะงักลงหลังการปราบใหญ่ประชาชนในเดือนก.ย.2550 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 33 คน ขณะที่รัฐบาลประเทศตะวันตกกล่าวว่าจำนวนมากกว่านั้นหลายเท่าตัว
จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากในปีงบประมาณ 2550-2551 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีงบประมาณก่อน คือระหว่างเดือน เม.ย.2549- มี.ค.2550
ในเดือน พ.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพม่า เพียง 9,258 คน ลดลง 41.4% เทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว จำนวนลดลงอีก 19.4% ในเดือน มิ.ย.เหลือเพียง 10,968 คน เทียบกับ 13,621 คน เมื่อปีที่แล้ว
ตัวเลขเดือน ก.ค. ก็ลดลงประมาณครึ่งหนึ่งจาก 14,799 คนในเดือนเดียวกันของปี 2550.