ผู้จัดการออนไลน์ -- เจ้าหน้าที่ทางการพม่า กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 241 คน จากเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กีส (Nargis) พัดถล่มตั้งแต่คืนวันศุกร์จนถึงวันเสาร์ (2-3 พ.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่พายุลูกนี้สร้างความเสียหายหนักกินอาณาบริเวณกว้าง จากชายฝั่งอ่าวเบงกอลจรดชายแดนไทย
“ตามข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ ทั้งหมดก็คือ มีผู้เสียชีวิต 29 คนในเขตย่างกุ้ง กับราวๆ 222 คน ในเขตอิรวดี” เจ้าหน้าที่กระทรวงแถลงข่าวพม่าผู้หนึ่งกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ทางการได้ประกาศเขตภัยพิบัติในอาณาบริเวณ 5 ภูมิภาคของประเทศครอบคลุมเขตอิรวดี ย่างกุ้ง พะโค จนถึงรัฐมอญกับรัฐกะเหรี่ยงที่ติดชายแดนไทย
ไซโคลนนาร์กีสพัดขึ้นฝั่งที่บริเวณปากแม่น้ำอิรวดีในตอนบ่ายวันศุกร์ ที่นั่นอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ห่างจากกรุงย่างกุ้งราว 220 กิโลเมตร ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำเมืองหลวงเก่า ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ
แรงลมเฉลี่ยตั้งแต่ 190-240 กม./ชม. ทำความเสียหายให้แก่กรุงย่างกุ้งอย่างหนัก ไฟฟ้าดับทั้งเมือง เหมือนถูกตัดขากจากโลกภายนอก เนื่องจากไฟฟ้าดับทั้งเมือง สายโทรศัพท์ขาดและเสียหาย ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เกือบเป็นอัมพาต
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งรัฐบาลทหารกำหนดจัดขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 10 พ.ค.ที่จะถึงนี้ อันเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายปี 2533
ดูเหมือนว่าเขตชายฝั่งอ่าวเบงกอล ในแคว้นอิรวดีจะถูกพัดกระหน่ำรุนแรงและได้รับความเสียหายมากที่สุด แต่กรุงย่างกุ้งก็ไม่ได้เบาไปกว่านั้น
เสาไฟจราจร บิลบอร์ดกับแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่น้อยถูกลมแรงพัดตีจนหักพังเสียหาย ต้นไม้ใหญ่จำนวนไม่น้อยในเขตใจกลางเมืองถูกพัดจนโค่นลงแบบถอนราก ทับรถยนต์และบ้านเรือนราษฎรเป็นจำนวนมาก
น้ำประปาถูกตัดไปหลายย่านของตัวเมือง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเห็นชาวบ้านจำนวนมากหิ้วถังน้ำออกหาน้ำตามร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ที่ยังพอมีน้ำไหล
หลังคาบ้านเรือนราษฎรและสถานที่ราชการจำนวนมากถูกแรงลมพัดหายไป มีรถเมล์และแท็กซี่เพียงไม่คันที่กล้าฝ่าสิ่งกีดขวางตามท้องถนนออกให้บริการประชาชนในวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) นี้
เจ้าหน้าที่กระทรวงแถลงข่าวกล่าวว่ามีเรือหลายลมถูกพายุพัดจมลงที่ท่าเรือย่างกุ้ง แต่ไม่มีคนอยู่บนนั้น ขณะที่ทางการได้ปิดท่าอากาศยานนานาชาติจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทุกเที่ยวบินต้องไปลงจอดที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งอยู่ห่างขึ้นไปทางเหนือราว 300 กม.
“เราได้ส่งทหารออกปฏิบัติการกู้ภัยและบรรเทาภัย ตอนนี้ทหารกับตำรวจกำลังทำความสะอาดเมือง” เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว
พายุนาร์กีสพัดกระหน่ำจากต้นทางที่ก้นอ่าวเบงกอลติดกับบังกลาเทศ อาละวาดลงตามแนวตะวันออกเฉียงใต้
ยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองชายฝั่งต่างๆ ตลอดจนโรงแรมรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งที่บริเวณหาดชองตา (Chaungtha) เงวซอง (Nghwe Saung) และ งาปาลี (Ngapali) ซึ่งเป็นปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมในเขตอิรวดี เนื่องจากการสื่อสารโทรคมนาคมถูกตัดขาด
เจ้าหน้าที่ทางการยังแสดงความวิตกว่าประชาชนคนยากจนที่อาศัยในแหล่งเสื่อมโทรมเขตรอบๆ เมืองหลวงเก่า จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
เจ้าของร้านขายอาหารแห่งหนึ่งได้บอกเล่าข่าวคราวที่ได้ยินจากเจ้าของร้านน้ำชาแห่งหนึ่งที่อ้างว่าเห็นเด็กๆ ที่บางคนไม่ได้สวมเสื้อผ้า กำลังอดข้าวและต้องเข้าไปพักอาศัยในบริเวณวัดที่อยู่ใกล้เคียง
ยังไม่ทราบว่าการทำลายล้างของพายุลูกนี้จะพายุลูกนี้จะส่งผลกระทบถึงการลงประชามติในวันที่ 10 พ.ค.นี้หรือไม่ ชาวบ้านหลายคนกล่าวว่าตนเองได้ยินข่าวคราวจากเจ้าหน้าที่ทางการว่างานนั้นอาจจะต้องเลื่อนออกไป