xs
xsm
sm
md
lg

ไม่พบกว่า 60 ปีเวียดนามแทง “กูปรี” สูญพันธุ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#3366FF>ภาพกูปรี (Kouprey) หรือ โคไพร เมื่อปี 1937 ที่สวนสัตว์แห่งหนึ่งในกรุงปารีส เมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือปกแดงของเวียดนามเพิ่งจะประกาศว่าสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้วจากประเทศ ทั้งนี้ กูปรีได้เคยถูกพบเมื่อเกือบ 70 ปีที่แล้วในกัมพูชา (ภาพ : www.daylife.com). </CENTER>
ผู้จัดการออนไลน์ -- เวียดนามได้จัดทำ “หนังสือปกแดง” (Vietnam Red Book) เล่มล่าสุดระบุให้กูปรี (Kouprey) หรือ “โคไพร” เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วในป่าธรรมชาติ เช่นเดียวกันกับสัตว์ป่าและพืชพันธุ์หายากรวมกันทั้งหมด 9 ชนิด ซึ่งรวมทั้งตัวสมเสร็จ แรด 2 นอ กับกล้วยไม้พันธุ์รองเท้านารีของเวียดนาม

หนังสือปกแดงเล่มใหม่ ระบุว่า สัตว์ป่าและพืชเหล่านั้นได้สูญพันธุ์ไปจากป่าของประเทศระหว่างปี 1992-1996

หนังสือปกแดงของเวียดนามประจำปี 2007 ที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้จำแนกสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์เป็นสัตว์ป่าจำนวน 4 ชนิด คือ แรด 2 นอ หรือแรดพันธุ์สุมาตรา (Sumatran Rhino) ตัวสมเสร็จ กูปรี และ ชะมดน้ำ กับสัตว์น้ำอีก 4 ชนิด คือ ปลาคาร์พเวียดนาม ปลาไหลพันธุ์ญี่ปุ่น ปลาน้ำจืดสายพันธุ์ Cyprinus multitaeniata และจระเข้น้ำเค็ม และพืชคือรองเท้านารี

ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้ใดพบกูปรีมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม แต่กอนหน้านี้ ก็ยังเชื่อกันว่า อาจจะยังมีชีวิตรอดอยู่ในเขตป่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือกัมพูชาที่ติดกับชายแดนภาคกลางเวียดนาม

การเปิดเผยล่าสุดในหนังสือปกแดงยังได้แสดงความเป็นห่วงในสถานการณ์เกี่ยวกับการลดจำนวนลงของแหล่งที่อยู่สิ่งมีชีวิตต่างๆ ดังจะเห็นว่าพืชและสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์นั้นมีจำนวนมากอย่างมาก

ในปี 2007 มีพืชและสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์จำนวนทั้งสิ้น 900 สายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับช่วงระหว่างปี 1992-1996 ที่มีเพียงประมาณ 700 สายพันธุ์
<CENTER><FONT color=#3366FF> แรดสุมาตรา 2 นอสายพันธุ์เวียดนาม ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว เพราะถูกพรานป่าไล่ล่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา </FONT> </CENTER>
นายเจิ่นฟหง็อกเกือง (Tran Ngoc Cuong) แห่งสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ความหลากหลายทางชีวภาพในเวียดนามขณะนี้อยู่ในระดับที่น่าวิตกอย่างมาก ความหลากหลายของพืชและสัตว์ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในแถบภูมิภาคที่มีลักษณะที่เต็มไปด้วยป่าและภูเขาซึ่งผู้คนไม่สามารถเข้าไปในบริเวณดังกล่าวได้โดยง่าย

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข่าวดีจากหนังสือปกแดงเล่มล่าสุด เพราะสัตว์บางสายพันธุ์ที่เชื่อว่าได้สูญพันธุ์ไปแล้วในเวียดนามยังคงพบได้ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สัตว์จำพวกวัวป่า แรด 2 นอ สมเสร็จ และอื่นๆ อีกมาก

จากการอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์ของเวียดนามทำให้สัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์บางชนิดก็ได้รับการรักษาดูแลเป็นอย่างดี เช่น ค่างหัวขาว งูเหลือม งูหลาม และไก่ฟ้าบางสายพันธุ์ เป็นต้น

ชาวฝรั่งเศสได้พบกูปรี เมื่อปี 2480 และ นำกลับไปยังสวนสัตว์กรุงปารีส มีการออกค้นหาและเชื่อว่าได้พบกูปรีอีกครั้งเมื่อปี 2496 หรือเมื่อ 55 ปีมาแล้ว

ตามรายงานของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund) นั้น การสำรวจหากูปรีอย่างจริงจังมีขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2500 โดยการนำของนักสัตววิทยา ชาร์ลส วอร์ตัน (Charles Wharton) ที่ได้เข้าไปศึกษาและถ่ายภาพกูปรีในธรรมชาติ แต่นั้นมาก็แทบจะไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสัตว์ชนิดอีกเมื่อกัมพูชาเข้าสู่ยุคสงคราม

จากนั้นมาก็มีแต่ข่าวลือเกี่ยวกับการพบเห็นที่ไม่สามารถยืนยันได้ แต่ก็มีผู้ถ่ายรูปหัวกะโหลกและเขาของกูปรีจากตลาดมืดค้าสัตว์ป่าอยู่เป็นระยะๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์มีความหวังว่า สัตว์ชนิดนี้ยังไม่สูญพันธุ์ไปจากโลก

เชื่อกันว่า ในปัจจุบันอาจจะยังมีกูปรีหลงเหลืออยู่ราว 250 ตัว ในป่าชายแดนไทย-ลาว-กัมพูชา อาจจะรวมทั้งเขตวนอุทธยานแห่งชาติในที่ราบภาคกลางของเวียดนามด้วย

นักวิทยาศาสตร์เองก็ถกเถียงกันมาตลอดในยุคใหม่นี้ บางฝ่ายสงสัยว่ากูปรีอาจจะเป็นแค่ลูกวัวพันผสมระหว่างวัวป่ากับวัวบ้าน จึงไม่มีปรากฏให้เห็นอีกในธรรมชาติ แต่บางฝ่ายก็ได้ศึกษาจากดีเอ็นเอและยืนยนว่ากูปรีเป็นสัตว์อีกสเปชี่หนึ่ง เป็นของจริงตามธรรมชาติ
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ในหมวด “ข่าวเกี่ยวข้อง”

กำลังโหลดความคิดเห็น